คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส จัดงานเฉลิมฉลองเปิดบูติก ณ ดิ เอ็มโพเรียม เผยความหรูหราแบบปารีเซียง โดยเล่าเรื่องผ่านอัตลักษณ์สำคัญของเมซง พร้อมผสานแนวคิดธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ใจกลางความศิวิไลซ์ ผ่านการตกแต่งอย่างงดงามของสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยที่มีความพิเศษเฉพาะตัว
เนรมิตรพื้นที่โดยรอบจัดแสดง “Art Installation” พร้อมจับมือกับ “Pomme Chan” ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงผู้สร้างผลงานภาพประกอบระดับโลกมาแล้วมากมาย มาร่วมรังสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลสุดพิเศษ (AR Experience) เนรมิตเรื่องราวของธีม “Flora and Fauna” อัตลักษณ์สำคัญของเมซงให้กลับมามีชีวิตในรูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจจากเหล่าพฤกษาและพืชพรรณอย่างคอลเลคชั่น “Tutti Frutti” หรือสัตว์สำคัญในตำนานของเมซงอย่างเสือแพนเตอร์
คอนเซ็ปต์ของบูติกแห่งใหม่นี้ได้รับการรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “The Urban Oasis” ที่สื่อถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยความศิวิไลซ์ของเมืองใหญ่ สะท้อนถึงบรรดาตึกระฟ้าแห่งย่านสุขุมวิทและพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองซึ่งผสานเป็นหนึ่งเดียว เติมเต็มกรุงเทพมหานครให้กลายเป็นเมืองแห่งสีสันที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเฉพาะตัว
โดย Pomme Chan ได้หยิบยกรายละเอียดของการตกแต่งบูติกแห่งใหม่ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม หรือโทนสีทองที่เลือกใช้ซึ่งสื่อถึงท้องฟ้าของประเทศไทยยามพระอาทิตย์ขึ้นและตก โดยอาศัยบรรดาสัตว์ไอคอนิคในตำนานของเมซง อาทิ เสือแพนเตอร์ จระเข้ ยีราฟ ม้าลาย และนก เป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่อง นอกเหนือจากนั้นยังสอดแทรกบรรดาพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นของประเทศไทย อาทิ ดอกบัว เพื่อรังสรรค์ให้สอดคล้องกับธีม Flora & Fauna
“สำหรับคอนเซ็ปต์ของงานนี้ ปอมรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่การได้วาดสัญลักษณ์ไอคอนิคต่างๆ ของเมซง ที่ปรากฏเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าจอ รวมไปถึงความเป็น AR interactive ให้คนได้เล่น เป็นประสบการณ์รูปแบบดิจิทัลสุดพิเศษที่ห้ามพลาดจริงๆ
ในส่วน Illustration ปอมได้นำเอาอัตลักษณ์สำคัญของคาร์เทียร์อย่าง “Flora & Fauna” และรวมถึงจิวเวลรีดีไซน์สัตว์ต่างๆ ของคาร์เทียร์มาออกแบบให้มีชีวิตและเพิ่มเติมความเป็นไทยด้วยองค์ประกอบที่ตัดทอนมาจากสถาปัตยกรรมไทย เช่น ทรงหลังคา ดอกบัว ลายดอกไม้ไทย เข้ามามีส่วนร่วม อยากให้ผู้เข้าชมพอเห็นงานนี้แล้วรู้เลยว่าเป็นคาร์เทียร์ประเทศไทย”
“คาร์เทียร์บูติก สาขา ดิ เอ็มโพเรียม” นับเป็นบูติกที่ใหญ่ที่สุดของคาร์เทียร์ในประเทศไทยในขนาด 500 ตารางเมตร และเป็นบูติกยุทธศาสตร์ของเมซง โดยตั้งอยู่ใจกลางแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพมหานครในย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่คาร์เทียร์ได้เลือกสร้างบูติกล่าสุดนี้ ภายใต้คอนเซปต์ “The Urban Oasis” ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ใจกลางความศิวิไลซ์ของเมืองหลวง มาในธีมเอกลักษณ์ของเมซงอย่าง Flora & Fauna ที่คุ้นเคย
สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับลูกค้าผู้มาเยี่ยมชมบูติกแต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่หรูหราและความพิเศษตามแบบฉบับของคาร์เทียร์ โดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น และเพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคสินค้าลักชูรีในประเทศไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา
พร้อมมอบประสบการณ์อันหรูหราตามแบบฉบับของเมซง โดยประตู Façade ด้านนอกบูติกเปรียบเสมือนการบรรจบกันระหว่างการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมไทยและเอกลักษณ์อันเด่นชัดของเมซง ซึ่งลวดลายนั้นชวนให้นึกถึงหลังคามุงจากแบบบ้านไทยเดิม ประดับด้วยผนังหินอ่อนในโทนสีทองอร่าม
และเมื่อก้าวเข้าไปยังด้านในบูติก จะพบกับโซนเครื่องประดับสำหรับสุภาพสตรีซึ่งรับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมอันงดงามของวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง การตกแต่งด้วยโทนสีทอง สีเบจ และสีงาช้างช่วยสร้างบรรยากาศอันสบายตาเชื้อเชิญให้ลูกค้าคนสำคัญมาเยือนบูติกแห่งนี้
บริเวณใจกลางของบูติก เพดานได้ถูกออกแบบให้เป็นทรงโดมเพื่อสร้างบรรยากาศอันแสนพิเศษภายใต้คอนเซ็ปต์ “Feminine Universe” สำหรับจัดแสดงเครื่องประดับในโซนเจ้าสาว (Bridal Zone) ซึ่งการออกแบบโดยรวมภายในบูติกสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่มาพร้อมกลิ่นอายไทยร่วมสมัยและแนวคิดตะวันตกแบบปารีเซียงได้อย่างงดงามลงตัว
อีกหนึ่งไฮไลต์ของบริเวณนี้ คือผลงานศิลปะชิ้นหลักประจำบูติกสาขาประเทศไทยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัดอรุณราชวราราม หรือ The Temple of Dawn ที่เปรียบเสมือนฉากหลังอันตระการตาของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาพร้อมสัตว์สัญลักษณ์ของเมซงอย่างเสือแพนเตอร์
เชื่อมกันกับบริเวณเครื่องประดับสำหรับสุภาพสตรี โซนจัดแสดงเครื่องประดับคอลเลคชั่นไอคอนิคสำหรับสุภาพสตรี ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความโอ่อ่าของวัดโพธิ์ สะท้อนภูมิปัญญาประจำชาติและสีสันอันเจิดจรัสของศิลปะไทย บริเวณเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษและยูนิเซ็กซ์ตกแต่งในสไตล์ทรอปิคัล ฉากหลังของโซนนี้ประดับประดาด้วยศิลปะมาร์ควิทรี (Marquetry) ที่ทำจากแก้ว ประดับประดาลวดลายที่สะท้อนพืชพรรณธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย นำเสนอแนวคิด “The Urban Oasis” ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้คาร์เทียร์บูติก สาขาดิ เอ็มโพเรียม ยังมอบประสบการณ์การดูแลอย่างเหนือระดับด้วยห้องรับรองแขก VIP ถึง 2 ห้อง และบริเวณ Care Service ที่มอบบรรยากาศราวกับวิลล่าอันหรูหราท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของประเทศไทย
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัวคาร์เทียร์บูติก ดิ เอ็มโพเรียม คาร์เทียร์จึงได้จัดงานค็อกเทลปาร์ตี้ ซึ่งคับคั่งไปด้วยแขกคนสำคัญและ เซเลบริตี้ชื่อก้องของประเทศมากมาย นำโดย “ต่อ – ธนภพ ลีรัตนขจร” ในฐานะ “Friend of the Maison” ชายคนแรกของประเทศไทยที่มีประสบการณ์ร่วมงานกับคาร์เทียร์มาอย่างยาวนาน
พร้อมด้วย เจฟ ซาเตอร์ ศิลปินเลือดใหม่ที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์แห่งความหลากหลายของเมซงได้เป็นอย่างดี, เจ้าขุน จักรภัทร นักร้องวัยรุ่นมาแรงแห่งยุค, ปอย ตรีชฎา ดาราและนักแสดงมากความสามารถ, และพรีม ชนิกานต์ นักแสดงหญิงดาวรุ่งแห่งปี รวมถึงเหล่าเซเลบริตี้และแขกคนสำคัญของคาร์เทียร์อีกมากมาย อาทิ เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นักแสดงและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ที่เพิ่งเข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อสังคมในโครงการ CWI (Cartier Women’s Initiative) ประจำปีนี้ของคาร์เทียร์ประเทศไทย เป็นต้น
คาร์เทียร์ขอเชิญผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองการเปิดตัวบูติกแห่งนี้ โดยเข้ารับชมและถ่ายภาพผ่านประสบการณ์ Digital Experience สุดพิเศษบริเวณพื้นที่รอบบูติกซึ่งทางคาร์เทียร์ได้จัดแสดง Art Installation ที่ตกแต่งประดับประดาอย่างหรูหราและร่วมสมัยในแบบฉบับของเมซง ตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูทางเข้าศูนย์การค้าฝั่งทางเชื่อมจาก Sky Walk ไปจนถึงบริเวณทางเข้า เอ็มโพเรียม ทาวเวอร์ และบันไดเลื่อนที่ทอดตัวสู่คาร์เทียร์บูติก รวมถึงศิลปะในรูปแบบ AR Experience สุดพิเศษที่สายทำคอนเทนต์ไม่ควรพลาด
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำจากคาร์เทียร์ผ่านการเยี่ยมชมบูติกแห่งใหม่ ช้อปปิ้ง เช็คอินเพื่อเก็บภาพความประทับใจ ตั้งแต่วันนี้ - 24 กันยายน 2566 ณ คาร์เทียร์บูติกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น M