โรงพยาบาลวิมุต เปิดแคมเปญ “The Power of Women” ขับเคลื่อนที่สุดแห่งพลังและศักยภาพในตัวผู้หญิง ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและพัฒนาตนเองในทุกมิติบนรากฐานของสุขภาพกายและใจที่สดใสแข็งแรง ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์และบริการเฮลท์แคร์ในแบบองค์รวม ที่ครอบคลุมทุกมิติด้านสุขภาพของผู้หญิงทุกวัย
The Economist Intelligence Unit องค์กรวิจัยในสหรัฐอเมริกา คาดว่าในปี 2573 กำลังซื้อของผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปอยู่ที่ราวๆ 46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ในปี 2557 มีมูลค่าอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0%
โดยเทรนด์ “SHEconomy” ที่กำลังมาแรงมีปัจจัยหนุนจาก 3 ปัจจัย
โดยสำหรับในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากสำนักทะเบียนกลาง ยังชี้ว่า สัดส่วนประชากรในไทยมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา
โดยปี 2565 มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายราว 1.59 ล้านคน สำหรับภาพรวมจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลวิมุตนั้น ในปี 2566 จนถึงปัจจุบันพบว่ามีสัดส่วนผู้ใช้บริการเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสูงถึงประมาณ 20%
ซึ่งในปี 2565 ก็มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% เช่นเดียวกันที่มีผู้ใช้บริการผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่ “การตรวจสุขภาพ” เป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็น ศูนย์สูตินรีเวช เป็นอันดับ 2 และแผนกฉุกเฉิน เป็นอันดับ 3
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า
โรงพยาบาลวิมุตเพียบพร้อมไปด้วยทีมสูตินรีแพทย์และแพทย์ผู้ชำนาญการในสาขาอื่นๆ ที่มากด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการรักษาทุกปัญหาสุขภาพของผู้หญิง นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยให้ทีมแพทย์มอบการวินิจฉัยที่แม่นยำ ในบรรยากาศส่วนตัวเป็นกันเองและบริการที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน
“เราพร้อมดูแลสุขภาพผู้หญิงในแบบองค์รวม (Holistic Care) ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาทิ การฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก, การดูแลความพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ตลอดจนการมีบุตร การให้คำปรึกษาสำหรับสตรีก่อนแต่งงานและก่อนตั้งครรภ์ บริการฝากครรภ์และคลอดบุตร ทั้งการคลอดธรรมชาติและผ่าตัดคลอด บริการตรวจหาโรคดาวน์ซินโดรม (Down’s syndrome) โดยการเจาะเลือดคัดกรอง (NIPT Test)
บริการอัลตราซาวนด์ทั้งแบบ 2 มิติ และ 4 มิติ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็ง การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (MIS) ตลอดจนการดูแลรักษาโรคที่ผู้หญิงสูงวัยต้องเผชิญ เช่น ปัญหาในเรื่องฮอร์โมน โรคกระดูกพรุน หรือมีปัญหาเรื่องทางเดินปัสสาวะ แต่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพในรูปแบบใด ทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลวิมุต ก็พร้อมดูแลผู้หญิงทุกคนให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจได้ในทุกๆ วัน”
ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทยคือมะเร็ง จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปี 2565 พบว่า หญิงไทยป่วยด้วย “โรคมะเร็งเต้านม” มากที่สุด จำนวน 38,559 ราย รองลงมาคือ “มะเร็งปากมดลูก” จำนวน 12,956 ราย
โดย “โรคมะเร็งเต้า” นมนับเป็นภัยเงียบใกล้ตัว เนื่องจากในระยะแรกมักจะไม่แสดงอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด เมื่อพบอาการผิดปกติมักอยู่ในระยะที่ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นและลุกลามไปทั่วแล้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิต การคัดกรองและตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากที่สุด
ส่วน “มะเร็งปากมดลูก” ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงวัย 30 -55 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิด Human Papillomavirus หรือเอชพีวี (HPV) ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติหรืออาจมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือตกขาวผิดปกติเรื้อรัง ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มและการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV เป็นวิธีการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด
แพทย์หญิงพรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี สูตินรีแพทย์ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงโรคมะเร็งในผู้หญิงว่า
“ในทุกๆ ปี ผู้หญิงจำนวนมากที่ตรวจพบและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทางนรีเวช ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมที่พบบ่อยที่สุด มะเร็งปากมดลูกที่พบมากรองลงมา มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งมดลูก ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก
ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต เชื่อมั่นว่าวิธีป้องกันการเกิดโรคที่ดีที่สุด คือการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงตั้งแต่วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มีสุขภาพดีในระยะยาว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ด้วย”
โดยวางแผนการดูแลสุขภาพตาม 3 ช่วงวัยหลั
นอกจากโรคทางกายแล้ว สุขภาพใจก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของผู้หญิง กรมสุขภาพจิต เผยคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน โดยในปัจจุบันผู้ป่วยซึมเศร้าในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น
ทางองค์การอนามัยโลกชี้ว่าเพศหญิงมีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 2 เท่า เนื่องจากเพศหญิงเป็นเพศที่มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนมากกว่าเพศชาย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ ตลอดจนอาการซึมเศร้าหลังคลอด
นอกจากนี้ผู้หญิงยังต้องเผชิญความคาดหวังจากสังคมและปัญหาในครอบครัวอีกด้วย
แพทย์หญิงเพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต เผยว่า สุขภาพใจก็ไม่ต่างกับสุขภาพกายที่ควรเริ่มต้นดูแลตั้งแต่วัยเด็กจนโต โดยมีเทคนิค 4 ล ให้ผู้หญิงทุกคนนำไปปฏิบัติง่ายดังนี้
อมิตา - ทาทา ยัง ตัวแทนผู้หญิงที่ทั้งเก่ง มั่นใจ และเปี่ยมด้วยพรสวรรค์รอบด้าน บอกเคล็ดลับในการดูแลตนเองไว้ว่า
“หลายคนอาจทราบว่าเมื่อก่อนทาทามีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่างพร้อมกันเลย ตอนนั้นเราทุกข์มากๆ แต่ที่ผ่านมาได้เพราะเราดูแลจิตใจให้เข้มแข็งควบคู่ไปกับการรักษาปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ทาทาอยากจะบอกผู้หญิงทุกคนให้เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง พยายามพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นในทุกๆ วัน
และสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่คอยดูแลใส่ใจคนรอบข้างเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทาทาอยากให้อย่าลืมหันมาใจดีกับตนเองบ้าง อย่าลืมดูแลสุขภาพและดูแลความสุขของตัวเราเองด้วย”
สำหรับแคมเปญ “The Power of Women” ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงานของโรงพยาบาลวิมุตในการสนับสนุนให้หญิงไทยทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ด้วยการให้ผู้หญิงทุกช่วงวัยสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบาย
ผ่านการนำเสนอแพ็กเกจซึ่งล้วนดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการในสาขาต่างๆ พร้อมด้วยการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ให้ทุกการรักษามีความแม่นยำและเปี่ยมประสิทธิภาพ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคและการเสียชีวิตของผู้หญิง
ซึ่ง “โรงพยาบาลวิมุต” เชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะสามารถตอบโจทย์ความจำเป็นด้านสุขภาพของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี