กล่องทิชชู่ "คลีเน็กซ์" ที่ออกแบบใหม่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และทำให้เข้าถึงทิชชู่ 2-3 ชิ้นสุดท้ายได้ง่ายขึ้น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

ทำไมต้องออกแบบกล่องทิชชู่ใหม่? ในเมื่อเรามีปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ หรือการไปดาวอังคาร ใช่ไหม! แต่กรณีที่ต้องทำคือมองปัญหาเล็กๆ ให้เข้มข้นพอๆ กับปัญหาที่ใหญ่กว่า ปัญหาที่ถูกละเลยคือปัญหาที่ยังคงมีอยู่ และเมื่อมีเวลาเพียงพอ ปัญหานั้นก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดยทั่วไปของเรา

 

ยกตัวอย่างกล่องทิชชู่ธรรมดาๆ ภายนอกเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย เป็นกล่องที่มีช่องเจาะซึ่งคุณสามารถจุ่มมือเพื่อหยิบทิชชู่ได้ แต่หากมองลึกลงไปอีกหน่อยแล้วจะรู้ว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ การออกแบบโดยธรรมชาติของกล่องทำให้มันค่อนข้างบอบบาง และเมื่อใช้ทิชชู่ไปถึงก้นกล่อง จะเอื้อมหยิบทิชชู่ 2-3 ชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ แต่กลับพบว่ามันยากลำบาก และสร้างความน่าหงุดหงิดใจไม่น้อย

 

นั่นจึงเป็นที่มาของการออกแบบกล่องทิชชู่ใหม่ของคลีเน็กซ์ ที่ออกแบบโดยสตูดิโอ CLAY Inc. ให้กับ Yuhan-Kimberly (บริษัทร่วมทุนของเกาหลีใต้ที่ดูแลแบรนด์คลีเน็กซ์) กล่องทิชชู่ที่ได้รับการปรับปรุงรูปโฉมใหม่นี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้สามารถเอาชนะปัญหาในอดีตได้

 

นี่จึงเป็นดีไซน์แก้ Pain point ที่มีมาเนิ่นนาน เพราะเมื่อทิชชู่เต็มกล่อง กล่องจะคงรูปร่างได้ดีมาก (ต้องขอบคุณทิชชู่ด้านในที่ทำให้มีปริมาตร)

 

แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ จนถึงด้านล่าง กล่องก็สามารถดันเข้าไปในโครงสร้างโค้งได้ ซึ่งทำให้มีความมั่นคงมากขึ้น ในขณะที่ลดความสูงโดยรวมของกล่องที่อยู่ตรงกลาง ช่วยให้เข้าถึงด้านล่างของกล่องได้ง่ายขึ้นโดยที่โครงสร้างทั้งหมดไม่พัง

 

การออกแบบกล่องทิชชู่ใหม่นี้ดูหรูหรา ชาญฉลาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้กระดาษรีไซเคิลจากไม้ไผ่ในการผลิตกล่องทิชชู่ นอกจากนี้ยังไม่ใช้หมึก (ช่วยประหยัดต้นทุนในขณะที่เพิ่มความสามารถในการรีไซเคิล) แต่มาพร้อมกับโลโก้ Kleenex เรียบง่ายที่นูนอยู่ด้านข้าง

 

กล่องนี้ใช้งานง่ายตั้งแต่ต้นจนจบ และเมื่อเสร็จแล้วสามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ง่ายโดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกล่องทิชชู่เช็ดหน้าคลีเน็กซ์ที่ออกแบบใหม่อย่างโดดเด่นทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และฟังชั่นนี้ ได้รับรางวัล Red Dot Award: Design Concept ประจำปี 2566

 

 

 

 

สำหรับมูลค่าตลาดกระดาษทิชชู่และกระดาษเพื่อสุขอนามัยทั่วโลก Statista รายงานว่ามีมูลค่า 339พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 คาดว่าตลาดจะเติบโตสะสมเฉลี่ยต่อปี 5% ต่อปี (CAGR 2566-2570) เซ็กเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดของตลาดนี้คือกระดาษทิชชู่ซึ่งมีขนาดตลาด 107.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566

 

รายได้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศจีน (68.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566) เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรทั้งหมด ค่าใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 44.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีเดียวกัน ในตลาดกระดาษทิชชู่และกระดาษเพื่อสุขอนามัย 2.8% ของรายได้ทั้งหมดจะมาจากการขายออนไลน์ และคาดว่าจะมีปริมาณ 100.80 พันล้านกิโลกรัมภายในปี 2570

 

โดยตลาดกระดาษทิชชู่และกระดาษเพื่อสุขอนามัยคาดว่าจะเติบโต 3% ในปี 2567 ขณะที่ปริมาณการใช้เฉลี่ยต่อคนคาดว่าจะอยู่ที่ 11.64 กิโลกรัมในปี 2566