Nike (ไนกี้) แบรนด์กีฬาชื่อดังได้เปิดตัว Alphafly 3 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เคยทำลายสถิติโลกการวิ่งมาราธอนที่ชิคาโกเมื่อเดือนที่แล้ว

หลังจากความสำเร็จในการแข่งขันของ Alphafly NEXT% และ Alphafly 2 ของ Nike รองเท้ารุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งนักกีฬามืออาชีพและนักวิ่งในชีวิตประจำวันโดยมีคุณสมบัติที่หลากหลาย

รุ่นต้นแบบของ Alphafly 3 สวมใส่โดย Kelvin Kiptum นักกีฬาชาวเคนยา เมื่อเขาเข้าเส้นชัยในชิคาโกมาราธอนเมื่อเดือนที่แล้วและสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำลายสถิติโลกไปด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 35 วินาที

และเพื่อให้สอดคล้องกับกฎกติกากรีฑาโลก Alphafly 3 เวอร์ชันต้นแบบได้รับการทดสอบกับนักวิ่งชั้นนำตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 แต่ล่าสุด Nike เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ Alphafly 3 เป็นการสานต่อจากรองเท้า Alphafly ดั้งเดิมที่ Eliud Kipchoge สวมใส่เมื่อเขากลายเป็นคนแรกในโลกที่วิ่งมาราธอนภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ในการแข่งขันที่ไม่เป็นทางการในปี 2562 โดย Alphafly 3 มีการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงเสถียรภาพ ความสะดวกสบาย และแรงขับในการวิ่ง

โครงสร้างหลักประกอบด้วยพื้นรองเท้าโฟมชั้นกลางจากโฟม ZoomX ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ หน่วยกันกระแทก Air Zoom คู่เพื่อดูดซับแรงกระแทก และแผ่นรองคาร์บอนไฟเบอร์แบบเต็มความยาวเท้า ที่ประกบระหว่างชั้นโฟมช่วยรักษาเสถียรภาพซึ่งฝังอยู่ภายในพื้นรองเท้า และช่วยส่งแรงให้นักวิ่งพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังช่วยให้การถ่ายเทน้ำหนัก

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนคือ พื้นรองเท้าชั้นกลางซึ่งมีความสูงจะถูกขยายออกไปโดยเป็นพื้นรองเท้าที่เชื่อมต่อกันระหว่างส้นเท้าและด้านหน้าของเท้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านจากส้นเท้าสู่ปลายเท้าที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

Nike แกะสลักโฟม ZoomX เพื่อลดน้ำหนักรองเท้าโดยรวม และเพื่อเน้นการรับน้ำหนักเท้าไปที่ส่วน Air Zoom ที่ด้านหน้า นอกจากนี้ยังเลือกเส้นด้าย Flyknit ที่เบากว่าในส่วนบนและพื้นรองเท้าชั้นนอกเพื่อลดน้ำหนักวัสดุของ Alphafly 3 ลงอีก ส่งผลให้เป็นรองเท้าที่เบาที่สุดในซีรีส์นี้

ที่สำคัญระบบผูกเชือกของรองเท้ารุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้พอดีกับส่วนบนของเท้าที่นุ่มนวลขึ้น และเสริมการรองรับการบุนวมที่ส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายส่วนล่างมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Alphafly รุ่นก่อนๆ

จากข้อมูลของ Nike ระบุเพิ่มเติมว่า Alphafly 3 เป็นรองเท้าวิ่งมาราธอนที่ได้รับการทดสอบอย่างกว้างขวางที่สุด และได้รับการตอบรับจากนักวิ่งหญิงกลุ่มใหญ่ที่สุดที่แบรนด์เคยใช้สำหรับการวิจัยรองเท้าวิ่ง ซึ่งความหลากหลายทางเพศที่เพิ่มขึ้นในการวิจัยรองเท้าวิ่งนี้ ช่วยในการพัฒนาการทดสอบ

ทำให้เกิดการปรับปรุงที่สำคัญในการรองรับส่วนโค้งของรองเท้า การปกป้องนิ้วเท้า และความสบายของวัสดุ โดยสีต้นแบบของ Nike Alphafly 3 จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2567 ในราคาคู่ละ 9,400 บาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Custom Market Insights (CMI) ขนาดตลาดรองเท้าวิ่งทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 และเพิ่มสูงถึง 15.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 และคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) 4% ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2573

ผู้เล่นหลักที่กำหนดทิศทางของตลาดรองเท้าวิ่งคือ Salomon, Nike Inc., Adidas AG, VF Corporation, Puma SE, Skechers USA Inc., Under Armour Inc., New Balance Athletics Inc., ASICS Corporation เป็นต้น

โดยยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดและตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค

 

โดยการเปลี่ยนแปลงของตลาดนี้ที่สำคัญ ได้แก่

• ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีส่งผลให้มีรองเท้าวิ่งที่สวมใส่สบายและปกป้องได้มากขึ้น ปัจจุบัน รองเท้าผลิตจากยาง พลาสติก และวัสดุที่ได้จากปิโตรเคมี แทนที่จะเป็นวัสดุแบบดั้งเดิม เช่น หนัง ผ้าใบ ฯลฯ ซึ่งเป็นอันตรายเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงและหินแหลมคม อาจทำร้ายเท้าได้ โดยกิจกรรมกลางแจ้งที่เพิ่มขึ้นและข้อกังวลด้านความปลอดภัยคาดว่าจะส่งผลต่อความต้องการรองเท้าวิ่ง

• คาดว่าความต้องการรองเท้าวิ่งจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักมากขึ้นว่ากีฬาและการออกกำลังกายสามารถส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังได้อย่างไร รองเท้าวิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นที่ต้องการสูงตลอดระยะเวลาคาดการณ์ เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักดีว่าการใช้อุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมมีความสำคัญเพียงใดในการป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดเข่าและขา และปัญหาอื่นๆ

• บรรดาผู้ผลิตรองเท้าวิ่งมีพยายามมากขึ้นในการออกแบบรองเท้าที่สวมใส่สบาย ปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง เพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มเติม ผู้ผลิตหลายรายจึงมีตัวเลือกการปรับแต่งด้วย ตลาดรองเท้าวิ่งเพิ่มขึ้น มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ แคมเปญการตลาด และกลยุทธ์การส่งเสริมการขายต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น

• อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงของรองเท้าวิ่งจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อาจเป็นปัจจัยหลักที่เป็นความท้าทายของตลาดรองเท้าวิ่ง ในขณะเดียวกัน การมีอยู่ของสินค้าลอกเลียนแบบหลายรายการก็มีโอกาสที่จะเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวของตลาดเช่นกัน