แม้แนวโน้มหลายๆ อย่างบอกถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ไม่มากนัก ขณะที่บางส่วนคาดว่าจะเริ่มเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า “IMF คาด GDP ไทยปี 66 โตเพียง 2.7% ปี 67 โต 3.2% เงินเฟ้อจากราคาพลังงานสงครามฮามาส-อิสราเอล เงินทุนยังไม่ไหลเข้า” (รายงาน ณ ต.ค. 66)

ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และในประเทศไทยยอดขายรถ EV เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2023 ยอดขายรถยนต์ EV ทั่วโลก (จนถึงเดือน ส.ค.) กำลังได้รับแรงผลักดันมากขึ้น ถึง 18% (ที่มา: Visual Capitalist)

จากตาราง Model Y ของ Tesla ยังคงเป็นผู้นำคู่แข่งด้วยยอดขาย 772,364 คัน ซึ่งมากกว่ายอดขายสูงสุดอันดับ 2 อย่าง Tesla Model 3 (364,403) และมากกว่า
BYD Atto 3 / Yuan Plus สองเท่า แต่ก็ยากที่จะเพิกเฉยต่อความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

ที่ขายดีที่สุดห้าคันถัดไปคือรถจีน รวมถึงสามคันจาก BYD Atto 3 (หรือ Yuan Plus ขึ้นอยู่กับตลาด) กำลังจำหน่ายในประเทศต่างๆ รวมถึงสหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น และอินเดีย

ขณะเดียวกัน GAC Group ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนก็มีแบรนด์ Aion EV สองรุ่นในการจัดอันดับ (ส.ค. 2566) Aion S ขายได้ 160,693 คัน

และความแข็งแกร่งของตลาดภูมิภาคก็มีความชัดเจนเช่นกัน สำหรับรุ่น Volkswagen ID.4 (ขายได้ 120,154 คัน) ยอดขายส่วนใหญ่ในยุโรปและจีน

ตามการคาดการณ์ของ Goldman Sachs ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก “จะคิดเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลกภายในปี 2578 ขณะที่ตลาดเอเชียและที่เหลือเพิ่มถึง 41% ในปี 2035”

สถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย จากยอดจองรถยนต์ในงาน Thailand International Motor Expo 2023 ครั้งที่ 40 นี้ ทั้งหมด 13 วัน รวมทั้ง 54,323 คัน แนวโน้มรถยนต์ EV ไทยก็เพิ่มขึ้นใน 10 อันดับตามตลาดโลกเช่นกัน

ยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ปี 2023

1. Toyota - 7,245 คัน

2. Honda - 6,149 คัน

3. BYD - 6,119 คัน

4. Aion - 4,568 คัน

5. MG - 3,568 คัน

6. GWM - 3,524 คัน

7. ChangAn - 3,549 คัน

8. Isuzu - 2,460 คัน

9. Nissan - 2,459 คัน

10. Mazda - 2,159 คัน

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า

“ผมพา Tesla ไปเชียงใหม่ด้วยตัวเอง และทีมงานได้พาไปดูนิคมอุตสาหกรรม 3 พื้นที่ ซึ่งผมมีความมั่นใจอย่างมาก เรียกได้ว่าเต็ม 100% ว่าเขาจะมาไทยแน่นอน โดยเขากำลังเลือกอยู่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ไหน โดยที่ดินที่เขาต้องการพื้นที่ 2,000 ไร่ และไม่ใช่โรงงานประกอบรถยนต์อย่างเดียว แต่จะเป็นการผลิตซัพพลายเชนของเทสล่าทั้งหมดในไทย จะมีการจ้างงานและการลงทุนมหาศาล”

(ที่มา: bangkokbiznews.com/business/economic/1102641)

ถือเป็นสัญญาณที่ดีในอุตสาหกรรมการลงทุนรถยนต์ EV และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ที่ต้องเร่งปรับตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม คือ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในตลาดเดิม

คงต้องติดตามในปี 2567 ต่อไปถึงการส่งเสริมและการลงทุนที่ภาครัฐจะมีอะไรเพิ่มมากขึ้น

บทความจากนิตยสาร MarketPlus ฉบับที่ 163 มกราคม-กุมภาพันธ์ 2567