นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย อัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา, สุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ดร.นายแพทย์พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, แพทย์หญิงมิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และ Manatsu ICHINOKI Deputy Secretary General Japan Association for the 2025 World Exposition เข้าร่วมงานแถลงข่าวความพร้อมการจัดทำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา ประเทศญี่ปุ่น
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
“อุตสาหกรรมการแพทย์เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ ที่ภาครัฐมุ่งหวังให้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub โดยในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับจากกระทรวงที่ดูแลเรื่องสุขภาพของคนไทย เป็นกระทรวงที่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศซึ่งสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติที่กำหนดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2569 แบ่งออกเป็น 4 ผลผลิตหลัก คือ
1. ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub)
2. ศูนย์กลางบริการรักษาพยาบาล (Medical Service Hub)
3. ศูนย์กลางบริการวิชาการ (Academic Hub)
4. ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub)
ปัจจุบันได้มีการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ โดยใช้ศักยภาพความแข็งแกร่งด้านระบบบริการสุขภาพของประเทศผนวกกับ 7 จุดแข็งที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย
1. แหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงที่ชาวต่างชาติรู้จัก
2. มีความพร้อมของสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงได้มาตรฐานในระดับโลก ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร ซึ่งคนทั่วโลกให้การยอมรับ
3. มีแพทย์และบุคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญรองรับความต้องการในการรักษาพยาบาลของชาวต่างชาติ
4. อัตราค่าบริการในการรักษาพยาบาลมีความเหมาะสมเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
5. คนไทยมีเซอร์วิสมายด์ในการบริการ เรามียิ้มสยาม เป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความใจดี ความโอบอ้อมอารี ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เราควรรักษาไว้
6. ประเทศไทยมีสิ่งอำนวย ความสะดวกที่ครบถ้วน
7. ประเทศไทยมีภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และมีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยที่ได้รับ การรับรองคุณภาพจากหน่วยงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
จุดแข็งทั้ง 7 ที่กล่าวมาแล้ว ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ไทยมีศักยภาพ มีความพร้อมที่จะพัฒนาและยกระดับให้ประเทศไทย สามารถก้าวไปสู่การเป็น Medical Hub ได้อย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวสำเร็จได้นั้น ส่วนหนึ่งจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อแสดงศักยภาพ ทางการแพทย์ของไทยในระดับนานาชาติ นับเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN โดยมีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในการดำเนินการจัดนิทรรศการ
สำหรับแนวคิดหลัก ของการจัดงานในครั้งนี้ คือ “Designing Future Society For Our Live” การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุข และสุขภาพดี ธีมหลักของนิทรรศการไทย คือ “THAILAND Connecting Lives for Greatest Happiness”สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ และธีมรอง คือ Thai-Smile Connecting Happiness World Destination ยิ้มสยามที่ก่อให้เกิดความสุขเป็นเป้าหมายปลายทางของคนทั่วโลก
โดยแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทย เน้นความเป็นไทยร่วมสมัยและนำแนวคิดหลักของงานมาพัฒนา ต่อยอดให้เป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อคนทั้งโลกได้ตั้งแต่ ภูมิจากธรรมชาติ ภูมิจากวิถี วัฒนธรรม นวัตกรรม จนถึงภูมิคุ้มกันจากศักยภาพ และความพร้อมด้านสาธารณสุข
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการเข้าร่วมงานครั้งนี้คือ ประเทศไทยได้ขยายโอกาสในการลงทุนด้านสุขภาพ และได้นำเสนอความเป็นไทยสู่สายตาชาวต่างชาติ เพื่อให้ได้รับรู้ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันและมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และพร้อมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านสุขภาพด้านการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ประชาชนไทยทุกคนยังได้มีส่วนร่วม และรู้สึกภาคภูมิใจที่รอยยิ้มไทยจะถูกนำไปเผยแพร่ สร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติสมกับที่เป็นสยามเมืองยิ้ม และ ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมอาคารนิทรรศการไทย ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ณ นครโอซากา ในระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 ร่วมแสดงพลังสร้างสรรค์ เพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพ ของคนทั้งโลก”
จาก “วิมานไทย” สู่ “ภูมิพิมาน” แนวคิดของอาคารนิทรรศการไทยที่งามสง่าด้วยอัตลักษณ์ภูมิไทยหลากหลายแขนง ผสานเข้ากับแนวคิดการออกแบบนิทรรศการ คือ “ภูมิคุ้มกัน” เพื่อให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยมีดีที่ “ภูมิ” เป็นประเทศแห่งการกินดี อยู่ดี มีภูมิคุ้มกัน โดยสะท้อนการออกแบบผ่าน 2 อัตลักษณ์สำคัญประจำภูมิพิมาน ได้แก่
พร้อมนำเสนอนิทรรศการที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทย มีดี โดยเรายกศักยภาพ และความพร้อมด้านสาธารณสุข รวมถึงตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศแห่งการกินดี อยู่ดี เชื่อมโยงแนวคิด SMILE เข้ากับ การเล่าเรื่องภายในนิทรรศการ : โดยแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
อาคารนิทรรศการของประเทศไทย ตั้งอยู่ใน พื้นที่ A13 โซน Connecting Lives ที่ใช้ชื่อว่า “วิมานไทย (VIMANA THAI)” จะเป็นอาคารที่มีความสวยงาม โดดเด่น ด้วยอัตลักษณ์ของไทยที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานแนวคิดการลดการใช้พลังงานและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมนิทรรศการหมุนเวียน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมจัดงานอย่างคับคั่ง คาดว่า อาคารนิทรรศการ “วิมานไทย (VIMANA THAI)” จะดึงดูดสายตาผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก จากทั่วทุกมุมโลก และสะท้อนความเป็นไทยได้อย่างดีเยี่ยม
จึงขอเชิญชวนทุกท่านสัมผัสเสน่ห์ของอาคารนิทรรศการไทย ในงานนิทรรศการ EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม พ.ศ.2568