ซีพีเอฟ จับมือ เอสเอพี นำโซลูชันดิจิทัลยกระดับการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการเติบโตยั่งยืน
26 Apr 2024

เอสเอพี (SAP) ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ประยุกต์ใช้ชุดโซลูชันอันหลากหลายของ เอสเอพี ขับเคลื่อนการเติบโต ความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาด และเพื่อความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และองค์กรในอนาคต

 

ซีพีเอฟ เป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรระดับโลก ผู้ผลิต หมู ไก่ กุ้ง และปลา  ดำเนินธุรกิจใน 17 ประเทศ ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปยังกว่า 50 ประเทศ เข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า 4 พันล้านคนทั่วโลก ซีพีเอฟกำลังดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลด้วยการประยุกต์ใช้โซลูชัน RISE with SAP, SAP Sustainability Footprint Management, SAP Sustainability Control Tower, และ SAP Environment Management เพื่อธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตและรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก

 

ความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของซีพีเอฟ มุ่งสู่การเป็น “ครัวของโลกที่ยั่งยืน”  ซีพีเอฟเป็นบริษัทผลิตอาหารบริษัทแรกในโลกที่ได้รับอนุมัติทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว สอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคเกษตรและอาหาร จากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi) การประยุกต์ใช้โซลูชันด้านความยั่งยืนของ เอสเอพี เพื่อบันทึก รายงาน และดำเนินการกับข้อมูลด้านความยั่งยืน จะสามารถช่วยในการขับเคลื่อนการบัญชีคาร์บอน ทั้งในระดับองค์กรและผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero)  ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขต 1 และ 2 ลง 42% และขอบเขตที่ 3 ลง 30.3% ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573  และภายในปี พ.ศ. 2593 บริษัทมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซขอบเขต 1 และ 2 ลง 90% และขอบเขต 3 ลง 72%

 

 

ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เป็นเพียงทางออกเดียวในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซีพีเอฟตระหนักและมุ่งมั่นมีส่วนร่วมช่วยลดผลกระทบที่มีต่อโลกใบนี้ มุ่งมั่นผลิตอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และดีต่อโลก ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ตั้งแต่การทำปศุสัตว์ จนถึงการผลิตอาหาร ไปสู่อาหารบนจานของผู้บริโภคก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยโซลูชัน RISE with SAP และ SAP sustainability solutions ช่วยให้ซีพีเอฟสามารถบันทึกและผู้บริหารได้รับรายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ซีพีเอฟสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว มีข้อมูลครบถ้วน และช่วยในการดำเนินงานที่ยั่งยืนเพื่อโลกของเรา”

 

เทคโนโลยี เอสเอพี ช่วยสนับสนุน ซีพีเอฟ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบคาร์บอนในอนาคตที่กำลังจะมีขึ้นในตลาดต่างๆ รวมถึง มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (EU C-BAM) หรือ SEC climate risk disclosures ของสหรัฐอเมริกาด้วย

หัวใจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเน้นไปที่ลดการปล่อยก๊าซในห่วงโซ่อุปทาน หรือ ขอบเขตที่ 3 ของซีพีเอฟ ซึ่งมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การทำงานร่วมกับ SAP Services, YASH Technologies เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนของบริษัท และทำการโฮสต์บน Amazon Web Services (AWS)

ซีพีเอฟจะสามารถใช้โซลูชันด้านความยั่งยืนของ เอสเอพี เพื่อบันทึกและรายงานผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1 และ 2 ในประเทศไทย และบันทึกขอบเขตที่ 3 (3.1 และ 3.4) สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งแบบ FLAG และ non-FLAG และในช่วงระยะต่อไปของการดำเนินการก็จะขยายขอบเขตให้ครอบคลุมไปทั้งการดำเนินงานทั่วโลก


 

ความยั่งยืนของคลาวด์ 

 

 

พอล แมริออท ประธานกรรมการ เอสเอพี ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า

“ความยั่งยืนคือโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับธุรกิจทั่วเอเชีย การใช้ RISE with SAP และโซลูชันด้านความยั่งยืนของเราจะช่วยให้ ซีพีเอฟ ก้าวนำหน้ากฎระเบียบด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคตเท่านั้น และช่วยผลักดันธุรกิจเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ด้วยการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น และสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน และสร้างความแตกต่างทางธุรกิจกับคู่แข่งได้”

 

เยี่ยมชมศูนย์ข่าว SAP News Center หรือติดตาม เอสเอพี ได้ที่ @SAPNews

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cpfworldwide.com/en/media-center/list/sustainability  

[อ่าน 158]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรูมั่นใจ “ศักยภาพเทคโนโลยี” ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า “โครงการบ้านชื่นสุข” สร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ “ความกตัญญู”
สิงห์ เอสเตท เดินหน้าปลูกป่า 1 ล้านตารางเมตร มุ่งสู่องค์กรเป็นกลางทางคาร์บอน
เจโทรฯ จัดงาน JAPAN PREMIUM HOTATE ระดมสมองดันยอดส่งออกโฮตาเตะมาไทย
"โคคา-โคล่า" ปล่อย "โค้ก" ซีโร่ ครีเอชั่นส์ K-Wave รสชาติใหม่ ลิมิเต็ดอิดิชั่น
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมเปิดให้บริการ 27 กันยายน 2567
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved