“แอล ดับเบิลยู เอส” เปิด 5 ทำเลเหมาะในการพัฒนาคอนโดฯ เพื่อสัตว์เลี้ยง
08 May 2024

 

“แอล ดับเบิลยู เอส” เปิด 5 ทำเลเหมาะในการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์กับความต้องการที่อยู่อาศัยของ Pet Parents ที่มีกำลังซื้อสูง


 

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล. ดับเบิลยู. เอส. วิสดอมแอนด์โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลวิจัยของฝ่ายวิจัยและสำรวจทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดเพื่อสัตว์เลี้ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า

จากผลการสำรวจของ แอล. ดับเบิลยู. เอส ในช่วงสิ้นปี 2566 พบว่า ณ สิ้นปี 2566 มีจำนวนอาคารชุดประเภทที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 23,031 หน่วย เพิ่มขึ้น 4,600.20 % จาก 490 หน่วย เมื่อเทียบกับปี 2554 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 353.86% ต่อปี

สะท้อนให้เห็นความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องหันมาพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อในกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวที่เรียกว่า Pet Parent หรือ Pet Humanization ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชากรที่เป็นโสด หรือแต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก และเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวมากกว่าที่จะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เหมือนในอดีต

 

จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว แอล. ดับเบิลยู. เอส. ได้วิเคราะห์ทำเลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ โดยคำนึงถึง 4 ปัจจัยหลักประกอบด้วย

1. ทำเลใกล้ระบบขนส่งมวลชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสำหรับการเดินทางไปทำงาน ข้างนอก โดยควรเลือกโครงการอาคารชุดที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อไปยังจุดอื่น ในระยะ 3-5 กม. เช่น รถไฟฟ้า BTS, MRT​ โดยควรอยู่ในระยะเดินได้ (ภายใน 1 กม.)  

 

2. ทำเลใกล้กับสาธารนูปโภคสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาลสัตว์ หรือ คลินิกสัตว์เลี้ยง ในรัศมีพื้นที่ 3-5 กม. จากผลการสำรวจของ LWS พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการโครงการอาคารชุดที่อยู่กับโรงพยาบาลหรือคลินิกสัตว์เลี้ยง หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที 

 

3. ทำเลโครงการตั้งใกล้กับพื้นที่ค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้ เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Pet Parent ที่นิยมออกไปทำกิจกรรมหรือพบปะสังสรรค์ ตามสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้สัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงจะถูกออกแบบให้มีร้านขายอาหารสัตว์หรืออุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาด้วย นอกจากพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นพักผ่อนแล้วยังสามารถแวะซื้อของใช้จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย 

 

4. ทำเลโครงการตั้งใกล้สวนสาธารณะ ควรอยู่ในระยะทางการเดินไม่เกิน 15 นาที จากผลการสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 56% ของคนมีสัตว์เลี้ยง​ชอบพาไปเดินเล่นออกกำลังกาย​ที่สวนสาธารณะ มากที่สุด 

 

จาก 4 ปัจจัยดังกล่าว แอล. ดับเบิลยู. เอส แนะนำ 5 ทำเลหลักที่เหมาะสำหรับการพัฒนาอาคารชุด ที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่

1. ปทุมวัน เป็นทำเลใจกลางเมืองที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์ถึง 2 โรงพยาบาล และติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกด้วย ประกอบกับในทำเลมียูนิตอาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ซึ่งขายหมดไปแล้ว จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ 

2. คลองสาน ทำเลในฝั่งธนบุรีไม่ไกลจากตัวเมือง พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสวนสาธารณะ โรงพยาบาลสัตว์ และในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุดที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการ​ใหม่ 

3. บางซื่อ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับสัตว์เลี้ยงทั้ง โรงพยาบาลสัตว์และสวนสาธารณะ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดง รวมไปถึงยังไม่มีโครงการที่รองรับสัตว์เลี้ยงในทำเล 

4. แจ้งวัฒนะ เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับสัตว์เลี้ยงครบ โรงพยาบาล ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะ และศูนย์การค้าที่รองรับสัตว์เลี้ยงอย่าง เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ​และในทำเลยังไม่มีโครงการอาคารชุด ที่รองรับสัตว์เลี้ยง เป็นโอกาสในการเปิดตัวโครงการ​ และยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดในอนาคตที่เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอีกด้วย 

5. โชคชัย 4 ถือว่าเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่ม Pet Parents เพราะเป็นทำเลที่มี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสวิลด์และ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ที่เป็นคอมมูนิตี้คนเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ที่การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และ ยังมีโรงพยาบาลสัตว์ ร้านค้าสัตว์เลี้ยง สวนสาธารณะรองรับโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารชุดคู่แข่งยังมีไม่มาก เป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการ 

 

 

“การพัฒนาโครงการอาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาโครงการอาคารชุดที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง จากผลการสำรวจพบว่าผู้ซื้ออาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้พร้อมจ่าย ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เกิน 2 ล้านบาทต่อหน่วย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในการพัฒนาโครงการ ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป” ประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

[อ่าน 550]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว “เจดับบลิว การ์เด้น” เขาหลัก พร้อมเดินหน้าหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนภายในปี 2593
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ตั้งเป้ารายได้ปี 2024 กว่า 9,400 ล้าน
เครือซีพี ชู 3 Big Goals สู่ความยั่งยืน ความเป็นกลางทางคาร์บอน, ลดขยะให้เป็นศูนย์
ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหกรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
'TMAN' เปิดยุทธศาสตร์มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเวชภัณฑ์ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตขให้ดียิ่งขึ้น
จิม ทอมป์สัน ส่งแคมเปญ 'Carry Everywhere' พากระเป๋ายักษ์สุดไอคอนิกบุกแลนด์มาร์กดังทั่วไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved