Minor Hotels กลุ่มโรงแรมที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์โรงแรมต่างๆ เช่น Anantara, Avani, NH Hotels, Elewana Collection และ Tivoli รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ยืนยันแผนที่จะเพิ่มโรงแรม 200 แห่งทั่วโลก หรือเพิ่ม 36% ภายในสิ้นปี 2569

กลุ่มบริษัทโรงแรมที่มีฐานบัญชาการอยู่ในไทย วางแผนการเติบโตโดยต้องการเพิ่มห้องพักมากกว่า 30,000 ห้อง จากที่มีอยู่ในขณะนี้ 80,000 ห้อง

ขณะเดียวกันยังประกาศเดินหน้ารุกตลาด "อินเดีย" ตั้งเป้าขยายโรงแรม 50 แห่ง ภายใน 10 ปี พร้อมเปิดสำนักงานในเมืองบังกาลอร์ และนับถอยหลังสู่การเปิดตัวโรงแรมอนันตราแห่งแรกในประเทศอินเดีย ภายใต้ชื่อ Anantara Jaipur Hotel ในปลายปีนี้

โดยกลยุทธ์การบุกตลาดอินเดียของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะเน้นไปที่กลุ่มโรงแรมระดับบน (upper-upscale) และกลุ่มหรูหรา (luxury) สำหรับแบรนด์ที่มีแก่นที่โดดเด่นและแตกต่างอย่าง Anantara Hotels & Resorts เป็นแบรนด์ที่เหมาะกับโรงแรมในกลุ่มสถานบำบัดเพื่อสุขภาพแบบอายุรเวท ที่พักท่ามกลางธรรมชาติ และปราสาทราชวังอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

ในขณะที่แบรนด์ Avani Hotels & Resorts จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดของกลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ในประเทศอินเดีย ส่วนแบรนด์ที่เชื่อว่าจะดึงดูดโอกาสทางธุรกิจจากกลุ่มโรงแรมตลาดระดับบน จะเป็นแบรนด์ NH Collection Hotels & Resorts

นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นถึงโอกาสสำหรับแบรนด์โรงแรมกลุ่มตลาดอัพสเกล (upscale) อย่าง NH Hotels & Resort โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองรองและเมืองที่มีสนามบินซึ่งมีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันจะมองหาโอกาสธุรกิจแบบสัญญาบริหารจัดการโรงแรม และเน้นโครงการพัฒนาใหม่ (Greenfield developments) ในจุดหมายปลายทางหรือทำเลที่กำลังมาแรง เพื่อสานต่อกลยุทธ์ในการสร้างจุดหมายปลายทางที่เป็นรากฐานขององค์กรมาอย่างยาวนานตลอด 46 ปี

Skift แพลตฟอร์มข่าวกรองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดที่ให้ข้อมูลเชิงลึก ข่าวสาร และการตลาดแก่ภาคส่วนสำคัญของการเดินทาง ได้สรุปเป็นประเด็นสำคัญจากรายงานผลประกอบการและการอภิปรายของฝ่ายบริหารของ Minor Hotels ดังนี้

• Minor Hotels มีแผนเพิ่มจำนวนโรงแรม

“ยอดจองล่วงหน้าที่แข็งแกร่งส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและเป็นปีที่ดีอีกปีข้างหน้า” ดิลิป ราชากาเรียร์ ซีอีโอของ Minor Hotels และซีอีโอกลุ่มของ Minor International กล่าว “เราคาดหวังว่าการเติบโตนี้จะดำเนินต่อไปในขณะที่เราขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมของเราและปรับปรุงข้อเสนอของเราทั่วโลก”

•  มุมมองของโรงแรม

ในยุโรป Minor Hotels มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยยอดจองล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคมสูงกว่าปีที่แล้วถึง 12%

ในประเทศไทย รายได้จากห้องพักในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยอดจองผ่านหนังสือเพิ่มขึ้น 26% ในไตรมาสแรก อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 81% เทียบกับระดับก่อนการแพร่ระบาด

สถานะสำคัญของไตรมาสแรกปี 2567 ในด้านผลกำไร

• Minor Hotels รายงานการเติบโตเชิงบวกในอัตรารายวันโดยเฉลี่ย โดยตัวเลขทั้งระบบเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี
• บริษัทฯ พลิกไปสู่ความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสนี้ โดยสร้างรายได้สุทธิประมาณ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,140 ล้านบาท)
• รายรับเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็นประมาณ 820 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,600 ล้านบาท)

ปัจจุบัน Minor Hotels เป็นเจ้าของและบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท รวมถึงที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ต่างๆ กว่า 540 แห่ง ใน 56 ประเทศ ด้วยความยืดหยุ่นและปรับตัวตามแนวโน้มของตลาด จึงขับเคลื่อนการเติบโตผ่านแบรนด์โรงแรมทั้ง 8 แบรนด์ ควบคู่ไปกับกลุ่มธุรกิจการบริการที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแบรนด์โรงแรมชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก

Minor Hotels นำโดยแบรนด์เรือธงของเราอย่าง Anantara Hotels & Resorts ซึ่งถือเป็นแบรนด์หลักที่หรูหรา และได้ยกระดับตนเองขึ้นเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมการบริการระดับโลก การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Anantara Hotels & Resorts และ Avani Hotels & Resorts และการเข้าซื้อแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Tivoli Hotels & Resorts, Oaks Hotels, Resorts & Suites, NH Hotels, nhow Hotels, NH Collection และ Elewana Collection ทำให้ Minor Hotels อยู่ในตลาดสำคัญทั่วโลก

Minor Hotels เป็นส่วนหนึ่งของ Minor International (MINT) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้านการบริการและการพักผ่อนหย่อนใจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก MINT ยังมีชื่อเสียงในด้านแบรนด์ค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ระดับสากล และมีบริษัทย่อยคือ Minor Food Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีสาขามากกว่า 2,100 แห่งใน 20 ประเทศ

 

#MinorHotels #ธุรกิจโรงแรม #MarketPlusDaily #MarketPlusUpdate