AIS Business กางแผนธุรกิจ ปี 2567-2568 พร้อมเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมดิจิทัล AIS EEC แห่งแรกใน Thailand Digital Valley
02 Jul 2024

 

ปี 2567 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความท้าทาย จากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นั่นทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “ดิจิทัล” ได้กลายมาเป็นบรรทัดฐานของการสร้างสรรค์ Business Model ที่แตกต่างและแข็งแกร่งให้กับทุกธุรกิจ ดังนั้นการที่ธุรกิจจะเดินหน้าได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืน จำเป็นอย่างมากที่จะต้อง Transform องค์กรด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถใหม่ๆ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ล่าสุด AIS Business ในฐานะผู้ให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชันส์ และ ​ICT สำหรับองค์กรภาคธุรกิจ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาธุรกิจไทยโดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี ได้ออกมาตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยผ่านแผนธุรกิจ 2567-2568 ภายใต้แนวคิด “AIS Business Digital Evolution: Sustainable Business for a Sustainable Nation”

โดยนำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายอัจฉริยะที่ถือเป็นความเชี่ยวชาญของ AIS มาติดสปีดการทำงานให้กับองค์กรภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อหนุนขีดความสามารถและความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศ

 

 

ภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS เปิดเผยว่า

“ด้วยแนวคิด ‘AIS Business Digital Evolution: Sustainable Business for a Sustainable Nation’ ทาง AIS พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือความท้าทาย ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลก และหน่วยงานหลักด้านนวัตกรรม รวมไปถึงสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชน ผ่าน 5 ขุมพลังด้านดิจิทัล ”

 

 

โดย 5 ขุมพลังด้านดิจิทัล ภายใต้แผนธุรกิจที่ AIS วางไว้ ประกอบด้วย

 

​ 1.   5G Ecosystem: ขุมพลัง 5G อัจฉริยะ

เสริมแกร่งธุรกิจด้วยจุดแข็งของ AIS ในเรื่องของเทคโนโลยี 5G ที่มีทั้งศักยภาพและคลื่นความถี่ซึ่งมีมากที่สุดและในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Network Slicing, Private Network เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ล่าสุดโรงงาน Midea Smart Factory ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ได้เลือกใช้ AIS Dedicated 5G Private Network เป็นโครงข่ายหลักภายในโรงงาน ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของทั้ง AIS และ Midea

นอกจากนั้น AIS ยังมี Paragon Platform แพลตฟอร์มที่รวบรวม 5G โซลูชันส์เอาไว้ด้วยกัน ทั้ง 5G Network Orchestrator, MEC, Edge, Cloud และ Application Ecosystem ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 17 องค์กรนำแพลตฟอร์มนี้ไปไปใช้งานกับธุรกิจแล้ว

 

​2.   Intelligent Network and Infrastructure: ขุมพลังแห่งโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ

เป็นการนำจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานมายกระดับการบริหารจัดการองค์กรและการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ที่พร้อมให้บริการเพื่อตอบโจทย์องค์กรตั้งแต่ On-Premis Cloud ไปจนถึงระดับไฮเปอร์สเกล ที่สำคัญ AIS ยังร่วมมือกับ Oracle ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในไทยในการให้บริการ Cloud ที่สนับสนุนการบริหารจัดการสำหรับองค์กร

โดยการลงทุนครั้งนี้เรียกได้ว่า เป็นการนำเทคโนโลยีระดับโลกจากสิงคโปร์มาติดตั้งที่ AIS เลยทีเดียว นั่นหมายความว่า AIS จะสามารถให้บริการ Cloud Service ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย เพื่อติดสปีดให้กับภาคธุรกิจไทยไปอีกขั้น

 

3.   AI and Data Analytics: ขุมพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

ด้วยการเปิดตัวบริการ ‘Analytic X’ บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก(Data Insight) ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างตรงจุด

 

4.   Digital Platform and APIs: ขุมพลังแห่งการเชื่อมต่อ

สร้างการเชื่อมต่อให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง AIS Open APIs มาตรฐานระดับโลกของ GSMA และ CAMARA ที่ทำให้นักพัฒนาสามารถออกแบบบริการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึง AIS CPaaS - Communication Platform as a service แพลตฟอร์มการสื่อสารบน Cloud ที่ช่วยยกระดับการสื่อสารขององค์กรให้สามารถสื่อสารได้แบบเรียลไทม์ ทั้ง เสียง วิดีโอ และ SMS 

ตัวอย่างความร่วมมือที่ผ่านมา คงต้องพูดถึง “บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด” (ปณท.) ที่เลือกใช้บริการนี้ของ AIS เป็นช่องทางการสื่อสาร ระหว่างบุรุษไปรษณีย์กับผู้รับ ผ่านระบบสมาร์ทคอล “1505” ที่นอกจากจะช่วยให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ และแก้เพนพอยท์ความกังวลเรื่องมิจฉาชีพได้อีกด้วย

 

5.   Industry Transformation: ขุมพลังการยกระดับภาคอุตสาหกรรม

สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปทรานส์ฟอร์มองค์กร โดยให้ความสำคัญกับองค์กรในทุกระดับ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต, ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก, SME, องค์กรสาธารณะและภาครัฐ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ

 

 

AIS EEC ศูนย์กลางเทคโนโลยีโซลูชันส์เพื่อภาคธุรกิจ

นอกจากแผนธุรกิจข้างต้นแล้ว AIS Business ยังสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลาง Thailand Digital Valley ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของไทย

โดยร่วมมือกับทาง depa เปิดตัว “AIS EEC - Evolution Experience Center” หรือ ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจ ที่ตั้งเป้าสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น 5G, Cloud, AI & Data Analytics, Digital Platform ทั้งในมิติด้านองค์ความรู้ การทดลอง ทดสอบ สัมผัสประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีเพื่อทรานส์ฟอร์มภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้เสมือนจริง พร้อม Use case จริงสุดล้ำ เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็นรูปธรรม

 

โดย AIS Business ได้กำหนดเป้าหมายในการใช้งาน AIS EEC ไว้ 3 เป้าหมายหลักด้วยกัน ประกอบด้วย

  • “Evolution Technology” ส่งเสริมและสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในโครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะมาช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้เอาชนะความท้าทายทางธุรกิจ
  • “Experience Digital Transformation” สัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงในการนำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรมและโซลูชันส์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจ
  • “Center of Collaboration” เพื่อเป็นศูนย์แห่งการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ สมาคม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการโซลูชันส์ นักพัฒนา และหน่วยงานอื่นๆในการทดสอบ ทดลอง แลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อสร้างการเติบโตตามแนวทาง Ecosystem Economy หรือเศรษฐกิจแห่งการแบ่งปันอันเป็นแนวทางที่ AIS ยืดถือมาโดยตลอด ด้วยการทำงานร่วมกันแบบข้ามอุตสาหกรรม

 

 

ภายใน AIS EEC แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ “Exhibition Area” ประกอบด้วย 4 โซนย่อย คือ

  • โซน 1 Digital Infrastructure & Platform ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มอย่าง 5G Network & Cloud, Communication Platform (CPaaS & Open API) และ Data Analytic Platform
  • โซน 2 Digital Industry Evolution การปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยดิจิทัลที่ประกอบด้วย Smart Manufacturing และ Smart Property & Retail
  • โซนที่ 3 คือ Sustainable Nation ภายในโซนนี้ประกอบด้วยเรื่องของ Smart City และ Public Sector Service, Smart Agriculture, Smart Health
  • โซนที่ 4 Modern Business Transformation ซึ่งมีทั้งในเรื่องของ Smart Solution และ IoT Solution สำหรับธุรกิจ

 

นอกจากส่วนที่เป็น Exhibition Area แล้ว ภายใน AIS ECC ยังประกอบด้วยส่วนของ Meeting Area, Laboratory Area และ Matching Area อีกด้วย

ซึ่งทาง AIS พร้อมเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมแล้ววันนี้ ไม่เพียงติดสปีดให้ภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ AIS ยังได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) ทั้ง 8 ศูนย์ผู้เชี่ยวชาญความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรม ภายใต้ 6 เครือมหาวิทยาลัย ได้แก่

มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ, วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ, สถาบันพัฒนาบุคลากร สาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และสถาบันไทย-เยอรมัน เพื่อยกระดับทักษะด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้กับบุคลากรและตลาดแรงงานให้มีขีดความสามารถพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ

โดยศูนย์ผู้เชี่ยวชาญข้างต้นทั้ง 8 กลุ่ม ประกอบด้วย ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน Automation, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยว, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนตร์ไฟฟ้า, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านพาณิชย์นาวี, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแมคคาทรอนิกส์, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านอากาศยาน, ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี Digital AI & 5G

 

 

ภูผา เอกะวิภาต กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า

“จากการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถใช้ศักยภาพของดิจิทัลเทคโนโลยีมาสนับสนุน และช่วยทรานส์ฟอร์มภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานครั้งนี้ไม่เพียงขับเคลื่อนการเติบโตเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ”

 

ด้วยศักยภาพดิจิทัลโซลูชันส์อัจฉริยะผ่าน 5 ขุมพลังด้านดิจิทัลที่ล้วนสำคัญ และสอดรับกัน ประกอบกับการตั้งศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจอย่าง AIS EEC ที่ปักหมุดใจกลาง Thailand Digital Valley ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ถือเป็นหัวใจหลักในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว

เป้าหมายในการติดสปีดการทำงานของภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการเป็นแรงส่งให้อุตสาหกรรมไทยเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนตามที่ AIS ตั้งใจไว้ คงไม่ไกลเกินไปนัก

 

[อ่าน 5,112]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย จับมือ การ์มิน ส่ง JAECOO 6 EV วิ่งนำใน “Garmin Run Thailand 2024”
“Big C Supplier Conference 2024” ฉายภาพความสำเร็จปี 2024 - ทิศทางปี 2025
ไฮเออร์ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 22 ปี จัดมินิมาราธอน “Haier Run 2024 Run to the Future”
บ้านปู ประกาศผล 3 ผู้ชนะ Banpu Champions for Change ปีที่ 13
เคทีซีรุกตลาดเครื่องกรองน้ำ ผนึกโคเวย์เป็นพันธมิตรรายแรกในไทย
แมริออท เปิดตัวเครื่องมือวัดผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับการจัดอีเวนต์ลดโลกร้อนง่ายๆ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved