
หลายๆ คน คงจะเคยได้ยินคำว่า Leasehold กันมาบ้าง ซึ่งเป็นคำที่ใช้กันบ่อยๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอนโดมิเนียม แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายและความสำคัญของคำศัพท์นี้จริงๆ ซึ่งการทำความเข้าใจ Leasehold ว่าคืออะไร จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการยิ่งขึ้น
Leasehold คืออะไร?
Leasehold คือ กรรมสิทธิ์เช่าระยะยาว ซึ่งจะแตกต่างจากคำว่า Freehold ที่เป็นกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอย่างสมบูรณ์ แต่ในกรณีของ Leasehold ผู้ซื้อจะไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินและตัวอาคารอย่างแท้จริง หากแต่จะได้รับสิทธิ์ในการเช่าเพื่อใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินนั้นเป็นระยะเวลาที่กำหนด เช่น 30 ปี ซึ่งหลังจากระยะเวลาที่กำหนด ผู้ซื้ออาจมีสิทธิ์ต่อสัญญาเช่าเพิ่มเติมได้อีก
ทำไมต้องรู้จัก Leasehold?
การรู้จักกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า Leasehold มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจะตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ใดสักแห่ง เพราะเป็นการตัดสินใจระยะยาวที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคุณ ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงสิทธิและข้อจำกัดของ Leasehold จะช่วยให้คุณประเมินค่าและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ
ความสำคัญของ Leasehold ต่อการเลือกบ้าน
- ระยะเวลาการถือครอง: Leasehold คือสิ่งที่ผู้ซื้อจะต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน โดยเฉพาะระยะเวลาการถือครองที่จำกัด โดยผู้ซื้อ Leasehold จะต้องพิจารณาถึงแผนการใช้ชีวิตระยะยาวของตนเองว่าสอดคล้องกับระยะเวลาการเช่าหรือไม่
- มูลค่าทรัพย์สิน: ทรัพย์สิน Leasehold มักจะมีมูลค่าต่ำกว่า Freehold เนื่องจากสิทธิในการถือครองที่จำกัด ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดอาจเลือกซื้อ Leasehold ได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยสิทธิที่น้อยลง
- การต่อสัญญา: เมื่อใกล้ถึงกำหนดสิ้นสุดสัญญาเช่า ผู้ซื้อ Leasehold อาจต้องต่อสัญญาเช่าเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไป
- การขายต่อ: การขายทรัพย์สิน Leasehold อาจทำได้ยากกว่า Freehold เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่มักต้องการกรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์
- กฎหมายและข้อบังคับ: ทรัพย์สิน Leasehold มักจะมีกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุด ซึ่งผู้ซื้อต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ Leasehold
- ระยะเวลาการเช่า: ตรวจสอบระยะเวลาการเช่าที่เหลืออยู่ และเงื่อนไขการต่อสัญญาเช่า
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: ตรวจสอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา และค่าต่อสัญญาเช่า
- กฎหมายและข้อบังคับ: ศึกษาข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน Leasehold
- อนาคตของทรัพย์สิน: พิจารณาถึงอนาคตของทรัพย์สิน เช่น การพัฒนาโครงการในอนาคต หรือการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย
- เปรียบเทียบกับ Freehold: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ Leasehold กับ Freehold เพื่อตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตนเอง
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: Leasehold มักจะมีราคาถูกกว่า Freehold ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดสามารถเข้าถึงทรัพย์สินในทำเลที่ดีได้
- ผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในระยะสั้น: หากคุณวางแผนที่จะอยู่อาศัยในทรัพย์สินเพียงระยะเวลาสั้นๆ Leasehold อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น: Leasehold ให้ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยได้ง่ายกว่าแบบ Freehold
Leasehold คือรูปแบบการถือครองทรัพย์สินที่แตกต่างจาก Freehold การตัดสินใจเลือกซื้อแบบไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ส่วนบุคคล ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมก็จะดีที่สุด
[อ่าน 1,630]