Jenosize ลุยโมเดลธุรกิจใหม่ Technology & Marketing Consulting
26 Feb 2019

 

Jenosize ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่รับปี 2562 ด้วยการรุกโมเดลธุรกิจใหม่ Technology & Marketing Consulting เป็นธุรกิจที่วางอยู่เหนือยุทธศาสตร์เดิมที่เป็น Integrated Marketing Agency และเป็นธุรกิจที่ตลาดยังเวอร์จิ้น เพื่อทำการตลาดแบบ O2O ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ พร้อมเปิดตัว HR แอปพลิเคชัน HappyWork ตอกย้ำ Passion องค์กร “ความสำเร็จเริ่มที่ความสุขพนักงาน” เผยชูกลยุทธ์ Growth 2x พร้อมตั้งเป้าเป็น Top of Mind บริษัท Technology & Marketing Consulting สัญชาติไทยรายแรกและทะยานสู่ตลาดโลกในอีก 3-5 ปี

 

ณัฐเศรษฐ์ ไตรทิพย์เจริญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจโนไซส์ จำกัด เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์ใหม่ปี 2562 ว่า บริษัทฯ เดินหน้าโมเดลธุรกิจใหม่ Technology & Marketing Consulting ซึ่งเป็นธุรกิจที่ปรึกษาเพื่อทำการตลาดแบบ O2O ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์อย่างบูรณาการในองค์รวม เนื่องจากพบช่องว่างทางธุรกิจจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงกับลูกค้าและองค์กรต่างๆ จำนวนมากที่ต่างก็ล้วนทำการตลาดทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เว็บไซต์ โฆษณา ไวรอล (Viral) ฯลฯ มาแล้วทั้งสิ้น

 

อีกทั้งยังลงทุนทั้งการตลาดและเทคโนโลยีกันหลายสิบล้านบาทจนถึงหลักร้อยล้านบาท แต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ทั้งที่การทำการตลาดทำนองนี้ แต่ละองค์กรต่างก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่เมื่อทำได้สักระยะก็จะตระหนักได้ว่า การทำการตลาดแบบ O2O นั้นควรใช้มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่า

 

“จากปัญหาดังกล่าว สิ่งที่ต้องถามกลับก็คือ บริษัทเหล่านั้นได้มีการวางยุทธศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีและการตลาด ทั้งระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่ เพราะในการทำธุรกิจจริงๆ อาจมีการเปลี่ยนทิศทางการดำเนินธุรกิจหรือการเปลี่ยนแปลงปรับรูปแบบธุรกิจใหม่ นี่จึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่า บริษัทฯ ได้เตรียมการสำหรับเรื่องเหล่านี้ในระยะ 1 ปี, 3 ปี และ 5 ปีหรือไม่

หรือในด้านการทำ Digital Marketing ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย การจะรวบรวมข้อมูลที่ได้ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อนำมาใช้ประโยชน์นั้น (Data Lake) บางครั้งไม่ได้ออกแบบโครงสร้างที่สมบูรณ์เพื่อรองรับข้อมูลไว้พัฒนาต่อไป

ตรงนี้จึงเป็นปัญหาที่สำคัญของลูกค้าหรือองค์กรธุรกิจที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอที่จะวาง Marketing & Technology Architecture ในระยะ 1 ปี, 3 ปี และ 5 ปีว่าจะต้องเป็นอย่างไร ซึ่งตรงนี้จึงเกิดเป็นช่องว่างที่โมเดลธุรกิจใหม่ Technology & Marketing Consulting ของเราสามารถเข้ามาเติมเต็มได้เป็นอย่างดี”

 

เมื่อ Technology + Marketing ต้อง Jenosize 

ยุทธศาสตร์ด้าน Technology & Marketing Consulting ของ Jenosize คือบริการที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีไอที บวกกับความเชี่ยวชาญด้านการตลาดแบบ 360 ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ความเชี่ยวชาญลักษณะนี้เป็นส่วนผสมที่หาได้ยากในเมืองไทยปัจจุบัน เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วความเชี่ยวชาญจะเป็นเพียงสาขาใดสาขาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ตลาดของ Technology & Marketing Consulting ที่ Jenosize ตัดสินใจเดินหน้ารุกอย่างเต็มที่นั้นจึงยังถือเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีคู่แข่งน้อยราย

ณัฐเศรษฐ์ กล่าวต่อไปถึงโมเดลธุรกิจใหม่ Technology & Marketing Consulting ของบริษัทว่า เพื่อให้การทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อม สภาพตลาดและการวางยุทธศาสตร์ของลูกค้าเป็นไปอย่างแม่นยำมากขึ้น การทำงานในส่วนนี้จึงประกอบด้วย 3 มุมมอง ได้แก่ 

 

1) Business & Market Insight ประกอบด้วย

  • Customer Insight การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและการวิเคราะห์ลูกค้า พร้อมทั้งการแบ่งกลุ่มหรือเซ็กเม้นท์ของลูกค้า ตลอดจนการทำความเข้าใจกับ Customer Journey ซึ่งเป็นทฤษฎีที่อธิบายพฤติกรรมลูกค้าว่า กว่าลูกค้าจะพบสินค้าของเราจะต้องพบอะไรบ้างเปรียบเสมือนการเดินทางของลูกค้า นั่นคือ การรับรู้, การหาข้อมูล, การเปรียบเทียบ, การตัดสินใจซื้อและหลังจากที่ลูกค้าซื้อ (Post Purchase) และการค้นหา Pain Points หรือความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็มหรือยังไม่ได้รับการตอบสนอง
  • Business Insight การวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจและคู่แข่งขัน เพื่อวางกลยุทธ์ที่แตกต่างและการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงและวิเคราะห์แนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
  • Technology Insight การวิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยี การเลือกใช้เทคโนโลยีทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ธุรกิจ

 

2) Strategy การวิเคราะห์ Insight เพื่อสร้างยุทธศาสตร์ใหม่ที่มีส่วนผสมทางด้านเทคโนโลยีและการตลาด (Technology & Marketing Strategy) ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของลูกค้า

 

3) Implement การแปรยุทธศาสตร์ออกมาเป็น Tactics Execution เพื่อให้สามารถใช้งานได้จริงในทางปฏิบัติ โดยการวาง Tactics Roadmap ในช่องทางต่างๆ เช่น การวางจุดยืน (Positioning) ในโซเชียลมีเดียแต่ละช่องทางและเว็บไซต์ลูกค้าว่าควรจะต้องแสดงออกไปเป็นอย่างไร, รากฐานของเทคโนโลยีเบื้องหลังต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง (Technology Stack), ระบบทางการตลาดดิจิทัลจะต้องออกแบบลักษณะใดเพื่อรองรับ Customer Journey ของลูกค้า ทั้งในแง่เครื่อง Marketing Technology Stack และระบบ Automation, จำเป็นต้องมี Chatbot หรือ Data Lake (ที่เก็บส่วนกลางซึ่งช่วยจัดเก็บข้อมูลที่มีและไม่มีโครงสร้างในทุกขนาดได้) หรือไม่ และต้องนำมาใช้อย่างไรจึงจะเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพได้สูงสุด รองรับการสร้าง AI ในอนาคต เป็นต้น

 

“ยุทธศาสตร์ Technology & Marketing Consulting ที่เรารุกหนักในปีนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่เราวางอยู่ส่วนบนของยุทธศาสตร์เดิมที่เป็น Integrated Marketing Agency เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการ การวางกลยุทธ์เชิงลึกเพื่อสร้างผลลัพธ์ในระยะยาว

โดยในส่วน Integrated Marketing Agency ของเราคือการให้บริการในเชิงการตลาดดิจิทัลเป็นส่วนๆ อาทิ โซเชียลมีเดีย, ไวรอล วีดีโอ (Viral Video), อีเว้นท์, แคมเปญการตลาด, เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, งานประชาสัมพันธ์ ซึ่งเรายังคงมีบริการเหล่านี้อยู่เพื่อรองรับการทำงานอย่างต่อเนื่องของลูกค้า”

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ Jenosize ปีนี้คือ ตั้งเป้าที่จะให้แต่ละหน่วยธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักเรื่อง Technology & Marketing Consulting ซึ่งขณะนี้มี 7 ธุรกิจย่อยภายใต้ Jenosize Digital Group ดังนี้

 

ธุรกิจด้านที่ปรึกษาและทรานฟอร์เมชั่น (Consulting & Transformation)

  • Jenosize Technology & Marketing Consulting (ธุรกิจที่ปรึกษา)
  • Jenosize Academy (ทรานฟอร์เมชั่นและอะคาเดมี่เอเจนซี่)

ธุรกิจด้านเทคโนโลยี

  • Jenosize Pixel & Code (เว็บไซต์และแอปพลิเคชันเอเจนซี่ )
  • Jenosize Startup (โปรดักท์ของสตาร์ทอัพ)

ธุรกิจด้าน 360ํ Marketing

  • Jenosize Digital (ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่)
  • Jenosize Event (อีเว้นท์เอเจนซี่)
  • Jenosize PR (พีอาร์เอเจนซี่)

 

Passion สู่ Growth 2x 

ณัฐเศรษฐ์ มีแนวคิดการทำงานว่า Passion ของพนักงานคือ แรงขับเคลื่อนให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ ฉะนั้น การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต จะส่งผลให้พนักงานในองค์กรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุขมากยิ่งขึ้น

“สิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากเราในฐานะที่ปรึกษา คือการหาทางออกเพื่อชี้ทางสว่างให้กับลูกค้าว่าจะต้องวางกลยุทธ์อย่างไร เพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปต่อได้ ดังนั้นเราเองก็ต้อง Transform มากกว่าธุรกิจอื่นๆ หลายเท่ามาก”  ณัฐเศรษฐ์ กล่าวและว่า

“โดยส่วนตัวผมตั้งเป้าหมายที่ Growth 2x (การเติบโต 2 เท่าทุกปี) แต่ต้องเป็นการเติบโตภายใต้แนวคิด “การทำงานอย่างมีความสุข (Happiness is here and now) : โตเร็วด้วย ทำงานที่รักและมีความสุขไปด้วย” ในขณะเดียวกันทำให้ Jenosize ต้องพัฒนาคนให้เก่งขึ้น 2 เท่าของทุกปี ด้วยปัจจัยความสำเร็จที่ประกอบด้วย Passion, Challenge และ Can Do Attitude องค์กรต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง กล้าที่จะทำ กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone และเรียนรู้สร้างสิ่งใหม่ๆ

เช่น เราไม่เคยทำธุรกิจอีเวนท์เลย แต่ลูกค้ามองเห็นศักยภาพว่าเราสามารถทำได้และอยากให้เราดูแล ทีมก็คุยกัน เสนองาน ลุยไปด้วยกัน กล้าที่จะท้าทายตนเองแล้วสร้างสรรค์งานแรกของเราออกมาให้ดีที่สุด จนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าประทับใจเกิดการบอกต่อ กลายมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเราที่ทำเงินให้บริษัทกว่า 40% จนถึงทุกวันนี้

ซึ่งความแตกต่างของ “คน” นี่แหละที่จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ องค์กรเราเป็นองค์กรที่รับคนที่มีความแตกต่างและมีจุดเด่นที่เด่นมากๆ แตกต่างกันเข้ามาทำงานร่วมกัน เนื่องจากธุรกิจของเราครอบคลุมถึงหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การตลาด อีเวนท์ เมื่อคนที่มีภูมิหลังแตกต่างกันทั้งไลฟ์สไตล์ องค์ความรู้ พื้นฐานการศึกษา ฯลฯ ต้องมาทำงานร่วมกัน ผมเชื่อว่านี่จะช่วยให้เกิดกระบวนการสร้างสรรค์ การทำงานของเราเน้นให้พนักงานมีกระบวนการคิดแบบ Disruptor เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในองค์กร” 

 

HappyWork

 

Big Idea ของ HR App

จาก Passion ที่ต้องการเติบโต 2X บวกกับความแตกต่าง ความหลากหลายของชาว Jenosize จึงทำให้เกิด “HappyWork” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันของ HR ที่เข้ามาตอบโจทย์ Pain Point ของพนักงานที่เป็นคนทำงานดี มีความตั้งใจแต่บ้านไกล 

 

“HappyWork” เป็นแอปพลิเคชันงานบุคคลที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล ช่วยลดการทำงานของฝ่ายบุคคล แต่สามารถดูแลพนักงานได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น สร้างประสิทธิภาพการทำงานไปพร้อมๆ กับสร้างความสุขให้กับคนในองค์กร ซึ่งเป็น digital product ที่คิดจากรูปแบบของเราที่ตั้งต้นจากการคิดแบบสตาร์ทอัพ ด้วยการหา Pain Point ของพนักงานและผู้บริหาร แล้วไปเชื่อมกระบวนการคิด Big Idea และการตลาดแบบนักโฆษณาส่งผลให้แอปพลิเคชันนี้เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้และตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและถึงใจผู้บริโภค มีฟังก์ชันที่หลากหลาย เหมาะสมกับการทำงานขององค์กรทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น องค์กรมหาชน, Enterprise หรือ SMEs 

  • ระบบการเข้า-ออกงานที่สามารถทำได้ทั้งในออฟฟิศและนอกสถานที่ แม้ว่าจะมีสาขาตั้งอยู่หลายแห่งข้อมูลเวลาของพนักงานก็จะถูกส่งตรงสู่ส่วนกลางทันที
  • ระบบปรับเวลาการเข้างานเฉพาะบุคคล เหมาะกับองค์กรที่มีเวลาการทำงานที่หลากหลาย 
  • ระบบคำขออนุมัติการลา เบิก จ่าย สะดวกง่ายโดยไม่ต้องใช้เอกสาร และความพิเศษยังอยู่ที่ผู้อนุมัติคำขอสามารถทำได้หลายระดับ ลดเวลา และยุ่งยากจากการตามล่าลายเซ็น
  • ระบบการให้คะแนนแก่กันสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน รวมไปถึงสร้างประสิทธิภาพการทำงานได้อีกด้วย 

 

นอกจากนี้ยังมีระบบอีกมากมายที่ออกแบบมาช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุขและมีศักยภาพมากขึ้น ที่สำคัญผู้บริหารและฝ่ายบุคคล ก็สามารถดูแลพนักงานได้อย่างทั่วถึง และ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับพนักงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทั้งนี้ มีผลการวิจัยรองรับว่า การที่องค์กรจะดึงศักยภาพของพนักงานได้นั้น ต้องประกอบด้วยปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ คือ

  1. ความยืดหยุ่นในการทำงาน 
  2. ประสบการณ์และโจทย์ใหม่ๆ ที่ท้าทาย
  3. รางวัลแห่งความสำเร็จและการเป็นที่ยอมรับ 
  4. ชีวิตที่ Work - Life มีความสมดุลกัน

 

“HappyWork จึงเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการให้พนักงานมี Work Life Integration มีความยืดหยุ่นในชีวิต และแสดงศักยภาพ (Performance) ที่สูงมากขึ้น จากการทำงานที่มีความสุข สะดวกด้วยระบบการบริหารจัดการที่รวดเร็ว ทันสมัย” ณัฐเศรษฐ์ สรุปปิดท้าย

 

 

[อ่าน 11,280]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Thailand Pavilion เตรียมเฉิดฉายในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN สู่แรงหนุนสำคัญในการสร้างไทยให้เป็น Medical Hub
ส่องเหตุผล OMODA E5 รถยนต์พลังงานสะอาดที่ผู้นำระดับโลกให้การยกย่อง
KRUNGSRI PRIVATE BANKING ดูแลความมั่งคั่งโดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึก และรอบด้านเพื่อต่อยอดสิ่งที่สร้างให้งอกงามไม่สิ้นสุด
แสงสีสุดตระการตา ไอคอนสยามเปิดศักราชใหม่ด้วยการเฉลิมฉลองปีมังกร
KRUNGSRI PRIVATE BANKING ดูแลความมั่งคั่งโดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึก และรอบด้าน
เพื่อต่อยอดสิ่งที่สร้างให้งอกงามไม่สิ้นสุด
กรีนสมาร์ทซิตี้ จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved