ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (ALLY) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 381.3 ล้านบาท และสามารถสร้างกำไรสุทธิจากการลงทุน 140.3 ล้านบาท พร้อมกันนี้ คณะกรรมการของทรัสต์ ALLY ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2568 ในอัตรา 0.1100 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ร้อยละ 9.3 ต่อปี

ทั้งนี้ ทรัสต์ ALLY ยังคงรักษาอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยในภาพรวมได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 92.7 สะท้อนถึงศักยภาพและความต้องการเช่าพื้นที่ในทรัพย์สินของทรัสต์ฯ ที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

นอกจากนี้ ทรัสต์ ALLY ยังคงมุ่งมั่นในการขยายฐานทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีศักยภาพจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ "ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ" และโครงการ "วิลเลจ ฮับ สายไหม" ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2568 การลงทุนดังกล่าวจะส่งผลให้ทรัสต์ฯ มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาวต่อไป

อัตราเช่าพื้นที่ยังทรงตัวสูง
ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 กองทรัสต์มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Occupancy Rate) อยู่ที่ 92.7% แบ่งเป็นโครงการในแหล่งท่องเที่ยว เช่น แอมพาร์ค จุฬา (98%) และกาดฝรั่ง วิลเลจ เชียงใหม่ ที่ฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว ส่งผลให้อัตราเช่าสูงและยอดขายผู้เช่าเพิ่มขึ้น ขณะที่โครงการในชุมชนอย่าง เดอะ ซีน ทาวน์อินทาวน์ และ เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล ก็มีอัตราการเช่าสูงถึง 99% และเติบโตต่อเนื่องตลอดปี

รุกขยายพอร์ต–เพิ่มสินทรัพย์ใหม่
เพื่อรองรับดีมานด์พื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ กองทรัสต์เตรียมลงทุนเพิ่ม 2 โครงการ ได้แก่ “ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ” บนถนนติวานนท์ มูลค่า 16 ล้านบาท (อัตราเช่าปัจจุบัน 100%) และ “วิลเลจ ฮับ สายไหม” มูลค่า 30 ล้านบาท (อัตราเช่า 97%) คาดแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 ช่วยหนุนผลตอบแทนระยะยาวประมาณร้อยละ 10 ต่อโครงการ

กลยุทธ์ปี 2568: ยั่งยืน–สร้างสุข
ภายใต้แนวคิด “Investing in Greener, Happier Communities” ALLY วาง 3 กลยุทธ์หลัก คือ

1. Asset Management Strategy – ปรับปรุงสินทรัพย์และคัดสรรผู้เช่าใหม่ เช่น ร้าน Teenoi BBQ, Shabu Baru, ชาจีน และ Kidzoona เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและประสบการณ์ผู้ใช้

2. Investment & Capital Strategy – ขยายพอร์ตลงทุน 1–2 โครงการคุณภาพต่อปี พร้อมปรับโครงสร้างทางการเงินลดต้นทุน

3. ESG Strategy – ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย Net Zero ผ่านการ Reduce, Reuse, Recycle และออกแบบพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางชุมชน

ปฏิทินปันผล

• ขึ้นเครื่องหมาย XD: 29 พฤษภาคม 2568

• ปิดสมุดทะเบียน (Book Closing): 4 มิถุนายน 2568

• จ่ายปันผล: 25 มิถุนายน 2568

Key Takeaways

• กำไรสุทธิ Q1/68 โต 0.8% QoQ สู่ 140.3 ลบ.

• ปันผล 0.11 บ./หน่วย ยิลด์สูง 9.3%

• อัตราเช่าเฉลี่ย 92.7% โครงการท่องเที่ยว–ชุมชนเติบโตแข็งแกร่ง

• ลงทุนคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ 2 แห่ง มูลค่า 46 ลบ. ช่วยหนุนผลตอบแทนระยะยาว

• ยึด 3 กลยุทธ์หลัก Asset Management, Investment & Capital, ESG

ภาพรวมผลการดำเนินงานและทิศทางการขยายธุรกิจของ ALLY REIT ในไตรมาสแรกปี 2568 อย่างครบถ้วนและกระชับ ตามสไตล์กรุงเทพธุรกิจเพื่อให้นักลงทุนและผู้อ่านเข้าใจง่ายในหัวใจสาระสำคัญของกองทรัสต์