เตรียมพบกับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Thailand Coffee Fest 2025: Drink Better Coffee เทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในวาระพิเศษ ครบรอบ 10 ปี กับแนวคิดที่ชวนคนทั้งวงการกาแฟมาร่วมกันตั้งเป้าหมายใหม่ วางวิสัยทัศน์ร่วมกัน และดื่มกาแฟที่ “ดีขึ้น” ไม่ใช่แค่ในรสชาติ แต่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและโลก
จากการเริ่มต้นในปี 2559 บนพื้นที่ 4,800 ตารางเมตร ในวันนี้ Thailand Coffee Fest เติบโตจนกลายเป็นเวทีระดับภูมิภาค ที่ใช้พื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 300 ราย และผู้เข้าร่วมงานจากกว่า 58 ประเทศทั่วโลก พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายใหม่ในการเป็นหนึ่งใน Coffee Destination ระดับโลก ที่คนกาแฟต้องปักหมุดไว้ในปฏิทินทุกปี
จากกาแฟหนึ่งถ้วย สู่พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความยั่งยืน
ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา คือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และลงมือทำร่วมกันของผู้คนในห่วงโซ่กาแฟไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือการยกระดับคุณภาพกาแฟไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ และเป็นแรงขับเคลื่อนที่แท้จริงของสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
“เราพิสูจน์แล้วว่า กาแฟไทยมีศักยภาพไม่แพ้ใครในโลก ทั้งในแง่คุณภาพ ความยั่งยืน และการสร้างคุณค่าร่วมในชุมชน 10 ปีแรก เราเรียนรู้และลงมือทำร่วมกัน แต่ 10 ปีถัดไป...เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบให้กาแฟไทยกลายเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้จริง”
ปัจจุบัน คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 1.7 แก้วต่อคนต่อวัน ในปี 2568 นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย ประเมินว่า ภาพรวมมูลค่าตลาดกาแฟไทยอยู่ที่ 65,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ากาแฟพิเศษไทยประมาณ 30,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 46% ของมูลค่าตลาดกาแฟทั้งหมดในประเทศไทย และภาพรวมของตลาดกาแฟพิเศษไทยมีการเติบโตต่อเนื่องสูงถึง 15% ต่อปี สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความนิยมบริโภคกาแฟพิเศษมากขึ้นด้วยความโดดเด่นของรสชาติ ประสบการณ์ รวมถึงค่านิยมการให้คุณค่าของกาแฟพิเศษที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติที่ดี แต่ต้องมาจากแหล่งปลูกที่ดี ขณะเดียวกัน ร้านกาแฟก็หันมาจำหน่าย และสร้างสรรค์เมนู Specialty Coffee มากขึ้นด้วย
เมื่อกาแฟพิเศษคือคำตอบของการฟื้นฟูป่า และการพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง
สิ่งที่ทำให้กาแฟพิเศษแตกต่างจากการเป็นเพียงสินค้า คือ คุณค่าที่เกิดจากระบบความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ทั้งผู้ปลูก ผู้คั่ว ผู้เสิร์ฟ และผู้ดื่มหลายพื้นที่ต้นน้ำในประเทศไทยที่เคยเผาป่าเพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยว หรือเผาพื้นที่ว่างเปล่าเพื่อทำการเกษตร กลับกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟพิเศษที่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร ขายได้ราคาดีกว่าเดิมหลายเท่า และที่สำคัญคือ ไม่ต้องทำลายป่าอีกต่อไป การปลูกกาแฟใต้ร่มเงาของป่า ทำให้ป่ายังอยู่ ดินยังสมบูรณ์ และระบบนิเวศยังคงทำงานต่อไป
กาแฟพิเศษจึงไม่เพียงสร้างผลผลิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เสริมความมั่นคงให้เกษตรกร และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กลับมาทำงานกับบ้านเกิดด้วยวิธีคิดใหม่
“คุณค่าที่แท้จริงของกาแฟพิเศษอยู่ที่ความเข้าใจและความเชื่อมโยงของผู้คนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่เริ่มเข้าใจรสนิยมของผู้บริโภค ร้านกาแฟที่หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งที่มา หรือผู้บริโภคที่อยากรู้ว่าเบื้องหลังเมล็ดกาแฟคือใคร Thailand Coffee Fest ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมจิ๊กซอว์เหล่านี้เข้าด้วยกัน จนเกิดเป็น ecosystem ที่แข็งแรง และมีเป้าหมายร่วมกันคือกาแฟที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน”
ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Coffee Fest กล่าวเสริมว่า ไฮไลต์กิจกรรมงานปีนี้ จะชวนทุกคนดื่มด่ำไปกับกาแฟ และอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย:
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีล่วงหน้าได้ที่
https://register.thailandcoffeefest.org
เพราะ “กาแฟที่ดี” ไม่ได้เปลี่ยนแค่รสชาติในถ้วย
แต่มันเปลี่ยนชีวิต เศรษฐกิจ ป่าเขา และอนาคตของโลกได้จริง