ล่าสุด คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR IN GOYANG ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5–6 กรกฎาคม 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่น่าจับตา เมื่อศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่าง BLACKPINK ผนึกกำลังกับ YG Entertainment และ Tetra Pak Korea เปิดตัว “BLACKPINK WATER” น้ำดื่มกล่องดีไซน์พิเศษที่มากกว่าแค่เครื่องดื่มคลายร้อนในอีเวนต์ แต่เป็น “สัญลักษณ์ของอนาคต” และบทพิสูจน์ว่าการสื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อมสามารถเริ่มต้นได้จากสิ่งเล็กๆ อย่าง “กล่องน้ำ”
BLACKPINK WATER มาในบรรจุภัณฑ์ Tetra Prisma® Aseptic ขนาด 330 มล. โทนสีชมพู-ดำ ซึ่งนอกจากจะสะท้อนตัวตนของ BLACKPINK แล้ว ยังถูกออกแบบให้ “รีไซเคิลได้ 100%” ตัวกล่องผลิตจากเยื่อไม้ที่ได้รับการรับรองจาก FSC (Forest Stewardship Council) มีน้ำหนักเบา ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกระบวนการขนส่ง และใช้ทรัพยากรวัตถุดิบเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขวดพลาสติกหรือขวดแก้ว
จุดขายไม่ได้อยู่ที่ดีไซน์เพียงอย่างเดียว แต่คือ “แนวคิดเบื้องหลัง” ที่แบรนด์เลือกจะสื่อสาร — เพราะในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณค่าและจุดยืนของแบรนด์มากกว่าฟังก์ชันเพียงอย่างเดียว การที่น้ำดื่มหนึ่งกล่องบอกเล่าเรื่องราวของการลดพลาสติก การรีไซเคิล และความร่วมมือข้ามภาคส่วน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้จบลงที่แค่การวางจำหน่ายกล่องน้ำในพื้นที่คอนเสิร์ต แต่ถูกต่อยอดเป็น “ประสบการณ์” ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบภายในงาน เช่น บูธ “Be a BLINK, Make the Right Move” ที่แฟนๆ สามารถเรียนรู้เรื่องการรีไซเคิลผ่านเกมควิซ, สแกน QR โค้ดเพื่อรับของที่ระลึก และร่วมกันแยกกล่องน้ำใช้แล้วที่จุดรีไซเคิลกว่า 21 จุดทั่ว Goyang Sports Complex
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือการมีส่วนร่วมของแฟนคลับอย่างคึกคัก บางคนถึงขั้นเก็บกล่องน้ำกลับไปเป็นของสะสม เพราะความน่ารักของดีไซน์ ซึ่งแม้จะย้อนแย้งกับเป้าหมายการรีไซเคิลเล็กน้อย แต่ในเชิงกลยุทธ์ นี่คือภาพสะท้อนว่าโปรดักต์ชิ้นนี้ “เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค” ได้จริง
“BLACKPINK WATER” คือตัวอย่างของ Emotional Branding ที่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่เพียงแค่ใช้ศิลปินเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจ แต่ยังเชื่อมโยง “อารมณ์” กับ “ความรู้สึกดี” ของแฟนคลับที่รู้สึกว่าตนเองได้มีส่วนร่วมในการดูแลโลก การดื่มน้ำจากกล่องนี้จึงไม่ใช่แค่การดับกระหาย แต่คือการมีส่วนใน “วัฒนธรรมรักษ์โลก” ที่กำลังจะกลายเป็นกระแสหลัก
Tetra Pak เองก็ได้ประโยชน์จากความร่วมมือนี้ในฐานะแบรนด์บรรจุภัณฑ์ที่สามารถ Reposition ตัวเองจาก “ผู้ผลิตกล่อง” มาเป็น “พาร์ตเนอร์ด้านความยั่งยืน” ในอุตสาหกรรมบันเทิงโลก
สิ่งที่น่าสนใจในมุมกลยุทธ์ คือการใช้ “วัฒนธรรมป๊อป” เป็นเครื่องมือสื่อสารเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อย่างแนบเนียน เพราะหากแบรนด์สื่อสารผ่านสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม ผลลัพธ์อาจไม่ทรงพลังเท่านี้ แต่เมื่อไอดอลที่แฟนคลับเคารพชื่นชมออกมาแสดงจุดยืน กลับส่งแรงกระเพื่อมได้กว้างกว่าในทุกกลุ่มวัย
นอกจาก BLACKPINK และ Tetra Pak แล้ว ฝ่ายจัดงานยังใช้การสื่อสารหลายมิติร่วมกัน ทั้งงานดีไซน์ กิจกรรมหน้างาน และบูธให้ความรู้ สะท้อนว่า "ความยั่งยืน" ไม่ใช่แค่หัวข้อ CSR แต่คือส่วนหนึ่งของ DNA คอนเสิร์ตยุคใหม่
ในวันที่ผู้จัดอีเวนต์ถูกตั้งคำถามมากขึ้นถึงร่องรอยสิ่งแวดล้อมที่ฝากไว้ “กล่องน้ำสีชมพู” ใบเล็กๆ นี้ อาจกลายเป็นต้นแบบของความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอีเวนต์ทั่วโลก คล้ายกับที่ Starbucks ยกเลิกหลอดพลาสติก หรือ IKEA เลิกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก
การผสาน “ความบันเทิง” เข้ากับ “การขับเคลื่อนความยั่งยืน” จึงไม่ใช่เพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นสิ่งที่แฟนเพลงรุ่นใหม่คาดหวัง และเป็นมาตรฐานใหม่ที่แบรนด์ต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัว
BLACKPINK WATER คือมากกว่าน้ำดื่มในคอนเสิร์ต แต่คือบทเรียนด้านการตลาด วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ที่ทุกแบรนด์ควรศึกษา เพราะในวันที่ “คุณค่าที่แบรนด์ยืนอยู่ตรงไหน” สำคัญพอ ๆ กับคุณภาพของสินค้า โปรเจกต์เล็กๆ ที่เริ่มจาก “กล่องน้ำ” ก็อาจมีพลังมากพอจะเปลี่ยนโลกใบนี้ได้ทีละน้อย — โดยเฉพาะเมื่อพลังนั้นขับเคลื่อนด้วยเสียงกรี๊ดของ BLINK ทั่วโลก