Razer™ แบรนด์เกมมิ่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ เพื่อเกมเมอร์ โดยเกมเมอร์ วันนี้ประกาศเปิดตัว Razer BlackShark V3 Pro วิวัฒนาการของหูฟังสำหรับอีสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการแข่งขัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ประกอบด้วยรุ่นที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์ม PC, PlayStation® และ Xbox โดยแต่ละรุ่นให้เสียงไร้สายที่มีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ การสื่อสารด้วยเสียงที่คมชัด และการปรับแต่งเสียงที่เหมาะสมจูนมาอย่างดี
“ตระกูล BlackShark เป็นตัวเลือกที่ได้รับความไว้วางใจมานานในวงการเกมและการแข่งขัน” Jeffrey Chau Global Esports Director บริษัท Razer กล่าว “ด้วยตระกูล BlackShark V3 Pro เราได้ปรับปรุงคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญ เช่น คุณภาพเสียง ความสบาย และการตัดเสียงรบกวน โดยอิงจากคำติชมโดยตรงจากนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ เพื่อมอบประสิทธิภาพไร้สายที่เร็วที่สุดและเสียงที่มีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ ทุกรายละเอียดได้รับการปรับแต่งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นชั้นนำในยุคปัจจุบัน มอบความคมชัด ความเร็ว และสมาธิที่พวกเขาต้องการเพื่อทำผลงานได้ดีที่สุด”
ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำในการแข่งขัน
BlackShark เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 สำหรับเกม Battlefield ในระดับการแข่งขัน และได้รับชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในด้านความน่าเชื่อถือระดับทัวร์นาเมนต์ และเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 BlackShark V2 Pro ได้รับการจัดอันดับเป็นหูฟังอันดับ 1 บนเว็บ ProSettings โดย BlackShark V3 Pro รุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นจากชื่อเสียง ด้วยคุณสมบัติของเจเนอเรชันใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักกีฬาอีสปอร์ตระดับแนวหน้า
ผ่านการทดสอบโดยมืออาชีพ ได้รับการยอมรับจากผู้เล่น
พัฒนาขึ้นโดยได้รับข้อมูลโดยตรงจากตำนานนักกีฬาอีสปอร์ต อย่าง Nikola “NiKo” Kovač ตำนาน Counter-Strike ที่ยังถือเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของ Team Razer และ Shotzzy ผู้เล่น Call of Duty มืออาชีพของทีม OpTic มั่นใจได้ว่า BlackShark V3 Pro ได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อความเป็นเลิศในการแข่งขัน
“เสียงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจของผมระหว่างแข่งเกม” NiKo กล่าว “ด้วย BlackShark V3 Pro ทำให้ง่ายขึ้นในการฟังรายละเอียดเสียงที่ละเอียดอ่อนรอบทิศ การโหลดกระสุน การก้าวเท้า และการเปลี่ยนตำแหน่ง ซึ่งยากต่อการจับก่อนหน้านี้ ผมมีโอกาสได้ลองต้นแบบรุ่นแรกๆ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมของ Razer เพื่อช่วยปรับแต่งหูฟังให้เหมาะสมกับการเล่น CS2 ในระดับการแข่งขัน มันเป็นก้าวกระโดดที่ชัดเจน และเป็นการอัปเกรดที่ทำให้ผมมีสมาธิและมั่นใจยิ่งขึ้น”
“เสียงคมชัดและคุณภาพไมค์ดีมาก เป็นทุกอย่างที่ผมต้องการเพื่อตั้งสมาธิและสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้ถูกต้องทุกจังหวะ” Shotzzy กล่าว “ผมได้ใช้หูฟังรุ่นนี้ในการซ้อมและในการแข่งขัน ซึ่งความคมชัดโดดเด่นจริงๆ ผมยังได้แบ่งปันข้อเสนอแนะให้กับ Razer ในระหว่างการทดสอบด้วย เห็นได้ชัดว่าหูฟังสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงการเล่นแบบแข่งขันเป็นหลัก”
เสียงที่ปรับแต่งสำหรับทุกแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ
BlackShark V3 Pro แต่ละรุ่นได้รับการปรับปรุงให้มีคุณภาพเสียงระดับแข่งขันสำหรับแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง:
หูฟังรุ่นนี้รองรับโหมดการเชื่อมต่อที่หลากหลายมากถึงสี่โหมด ได้แก่ ไร้สาย 2.4 GHz, ไร้สาย Bluetooth, ต่อสาย USB-A และต่อสาย 3.5 มม. นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย HyperSpeed 2.4 GHz และ Bluetooth พร้อมกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องได้ เหมาะสำหรับการสนทนาด้วยเสียงในเกมหรือรับโทรศัพท์ขณะเล่นเกม
ด้วยโปรไฟล์ EQ ที่ปรับแต่งมาสำหรับเกม FPS ยอดนิยมกว่า 12 เกม และรองรับโปรไฟล์ EQ ที่กำหนดเองได้สูงสุด 9 โปรไฟล์ ซึ่งจัดเก็บไว้ในหูฟังโดยตรง ทำให้เกมเมอร์สามารถเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพแบบ plug-and-play ได้โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์
ขยายวงตระกูล BlackShark
นอกเหนือจาก BlackShark V3 Pro รุ่นเรือธงแล้ว Razer ยังเปิดตัวอีกสองรุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของเกมเมอร์:
ด้วยการเปิดตัวตระกูล BlackShark V3 ทาง Razer ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีเสียงอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของเกมเมอร์ระดับแข่งขันทั้งบน PC, PlayStation® และ Xbox ในขณะที่อีสปอร์ตและการเล่นเกมบนแพลตฟอร์มต่างๆ เติบโตขึ้น Razer ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกมเมอร์และชุมชนเพื่อกำหนดอนาคตของเสียงในเกม เพื่อให้มั่นใจว่าทุกเสียง ทุกการเรียก และทุกช่วงเวลาจะถูกส่งมอบด้วยความชัดเจน แม่นยำ และมีจุดประสงค์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Razer.com
ราคา และการวางจำหน่าย
รุ่นสำหรับ PC
ตระกูลหูฟัง Razer BlackShark V3 สำหรับ PC พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ผ่านตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศไทย
รุ่นสำหรับ Xbox
ตระกูลหูฟัง Razer BlackShark V3 สำหรับ XBOX จะนำเข้ามาวางจำหน่าย ผ่านตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศไทย เร็วๆ นี้
รุ่นสำหรับ PlayStation®
ตระกูลหูฟัง Razer BlackShark V3 สำหรับ PlayStation® จะนำเข้ามาวางจำหน่าย ผ่านตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศไทย เร็วๆ นี้