ตลาดมอเตอร์ไซค์ไทยในปี 2568 กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังยอดขายครึ่งปีแรกทะลุ 1.06 ล้านคัน เติบโตถึง 101% เมื่อเทียบกับปีก่อน ไทยฮอนด้ายังคงครองตำแหน่งผู้นำแบบทิ้งห่างด้วยยอดขายกว่า 8.6 แสนคัน หรือส่วนแบ่งตลาดราว 81% และตั้งเป้าปีนี้ให้ได้ 1.36–1.40 ล้านคัน จากตลาดรวมที่คาดว่าจะปิดที่ 1.68–1.73 ล้านคัน

ไทยฮอนด้า ประกาศทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 ภายใต้แนวคิด “Leading The Future” พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่นสำคัญที่ครองทั้งตลาดรถครอบครัวและพรีเมียมสกู๊ตเตอร์ ได้แก่ All New Honda Wave125 และ New Honda Forza 350 Special Edition x Öhlins เสริมด้วยสีใหม่ของ Honda Giorno+ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยกลยุทธ์ “ยึดหัวใจลูกค้าทุกเซกเมนต์”
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 28 ปีแล้วที่ Honda Wave เป็นมากกว่ารถจักรยานยนต์ ที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยยอดขายสะสมกว่า 19 ล้านคัน ในวันนี้เราจึงกลับมาพร้อมการยกระดับกับ All New Honda Wave125 รุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ ความคุ้มค่า และสไตล์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
โดยเราได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง ‘โจอี้ ภูวศิษฐ์’ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ครอบครัวยุคใหม่ ตอกย้ำความผู้นำในกลุ่มรถครอบครัวที่หลายคนยกให้เป็นอันดับหนึ่ง
กลยุทธ์ Mass + Premium
-
Mass Market (รถครอบครัว)
Honda Wave ครองอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคกว่า 28 ปี มียอดขายสะสม 19 ล้านคัน รุ่นใหม่ All New Honda Wave125 จึงถูกพัฒนาทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และฟังก์ชัน เช่น Combine Brake System, Honda SMART Key, USB-C Charger เพื่อตอบโจทย์ผู้ขับขี่รุ่นใหม่
การดึง “โจอี้ ภูวศิษฐ์” นักร้องขวัญใจมหาชนมาเป็นพรีเซนเตอร์ เป็นการรีเฟรชภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มวัยทำงาน–ครอบครัวยุคใหม่
[ รักษาฐาน–ขยายตลาด:ใช้ Wave125 เป็น “หัวหอก” ยึดตลาดแมส พร้อมอัปเกรดภาพลักษณ์ให้ทันสมัย ]
-
Premium Market (สกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่)
New Honda Forza 350 Special Edition x Öhlins คือการจับมือแบรนด์โช้กอัพระดับโลก เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดพรีเมียม เน้นความนุ่ม หนึบ มั่นใจทุกโค้ง พร้อมดีไซน์ทองเอกลักษณ์และจำนวนจำกัด 500 คัน เจาะกลุ่มลูกค้าสปอร์ตไบค์ที่ต้องการความพิเศษ
[ สร้างความต่างในพรีเมียม: ใช้ Forza 350 x Öhlins สร้างคุณค่าผ่านความหรู และจำนวนจำกัด ]
-
Lifestyle & Fashion Segment
Honda Giorno+ เพิ่มสีใหม่ Matte Blue ภายใต้คอนเซปต์ “Rise to New High” เจาะกลุ่มคนเมืองและผู้รักแฟชั่นที่ต้องการสกู๊ตเตอร์ดีไซน์เก๋
[ ต่อยอด Lifestyle Marketing: Giorno+ เป็นเครื่องมือดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมือง ]
ไทยฮอนด้ากำลังใช้ “สูตร 3 เซกเมนต์” เพื่อครองตลาดทุกระดับ พร้อมปรับภาพลักษณ์ให้สดใหม่และต่อยอดความผู้นำด้านความปลอดภัย
เชื่อว่าโมเดลนี้ จะช่วยเสริมยอดขายและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง

คู่แข่งเริ่มขยับ เกมในอีก 3–5 ปีไม่ง่าย
แม้ฮอนด้าจะครองตลาดแมสได้อย่างมั่นคง แต่คู่แข่งก็เร่งเครื่อง
- Yamaha มีจุดแข็งด้านดีไซน์สปอร์ตและเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Blue Core พร้อมรุกตลาดสกู๊ตเตอร์พรีเมียมและเตรียมขยาย EV Bike จากต้นแบบ E01 และ EMF ซึ่งอาจแย่งส่วนแบ่งในเมืองใหญ่ได้
- GPX เน้นดีไซน์โดดเด่น ราคาจับต้องได้ เจาะตลาดวัยรุ่นและรถแต่งคัสตอม แม้ยังสู้เครือข่ายบริการของฮอนด้าไม่ได้ แต่มีโอกาสโตในตลาด Urban Ride
- แบรนด์นำเข้า อย่าง Vespa, Royal Enfield และ BMW Motorrad ครองตลาดบน สร้างเทรนด์และแรงกดดันให้เจ้าตลาดต้องพัฒนาไลน์พรีเมียมต่อเนื่อง
เทรนด์ EV Bike: จาก 3% สู่เกือบ 20% ในปี 2573
ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงตั้งไข่ ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2–3% ของตลาดรวม แต่มีแรงหนุนจากนโยบายรัฐที่ให้เงินอุดหนุน 18,000–20,000 บาทต่อคัน และต้นทุนแบตเตอรี่ที่คาดว่าจะลดลงราว 20% ภายในปี 2573
การคาดการณ์ระบุว่า สัดส่วน EV Bike จะโตเป็นราว 8–10% ภายในปี 2570 และ 15–18% ภายในปี 2573 ปัจจัยเร่งคือความต้องการจากกลุ่มเดลิเวอรีและโลจิสติกส์ที่มองหาวิธีลดต้นทุนเชื้อเพลิง
ภาพรวมตลาด–เป้าหมายปี 2568
ครึ่งปีแรก ตลาดรถจักรยานยนต์โต 101% มียอดขาย 1.06 ล้านคัน ไทยฮอนด้าครองส่วนแบ่ง 0.86 ล้านคัน โต 102% ทั้งปีตั้งเป้า 1.36–1.40 ล้านคัน สะท้อนความเชื่อมั่นในแบรนด์และความแข็งแกร่งของเครือข่ายผู้จำหน่าย

CSR และการสร้างคุณค่าแบรนด์
ในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้าเดินหน้าโครงการบริจาคหมวกกันน็อก 60,000 ใบ มูลค่า 60 ล้านบาท ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย พร้อมเชื่อมความร่วมมือกับดีลเลอร์ทั่วประเทศเพิ่มจำนวนหมวก เพื่อขยายการเข้าถึงชุมชน


โอกาสและความท้าทายของฮอนด้า
ฮอนด้ามีความได้เปรียบจากเครือข่ายดีลเลอร์กว่า 800 แห่ง ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นสถานีชาร์จและ Battery Swapping Network ได้ทันทีหากต้องการรุก EV Bike อย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงกว่าและโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุมยังเป็นความท้าทายสำคัญ การมีโมเดล EV ราคาต่ำกว่า 60,000 บาทและแผนโครงข่ายแบตเตอรี่สลับได้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าแมสในยุคพลังงานไฟฟ้า
ฮอนด้ายังแข็งแกร่งทั้งตลาดแมสและพรีเมียม แต่การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้นในอีก 3–5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะจาก Yamaha ที่รุกพรีเมียมและ EV และ GPX ที่สร้างฐานแฟนในกลุ่มวัยรุ่น ขณะที่เทรนด์ EV Bike จะขยายตัวจนเป็นแรงกดดันใหม่
หากฮอนด้าสามารถรักษาสมดุลระหว่าง Emotional Value และ Functional Value พร้อมรุก EV Bike ทันเวลา ก็มีโอกาสสูงที่จะครองบัลลังก์ต่อเนื่องในยุคมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า