‘เทเลนอร์เอเชีย’ เผย คนไทยเปิดรับ AI แต่เรียกร้อง ‘จริยธรรม–ทักษะ–การกำกับดูแลโดยมนุษย์’
19 Aug 2025

‘เทเลนอร์เอเชีย’ แถลงผลสำรวจรายงานประจำปีฉบับที่ 4 Telenor Asia Digital Lives Decoded 2025: Building Trust in Thailand’s AI Future เผยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยเปิดรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) อย่างกว้างขวาง แต่ยังคงให้ความสำคัญกับ ‘ความรับผิดชอบส่วนบุคคล’ และต้องการให้มีกรอบจริยธรรมมที่ชัดเจนมารองรับการใช้งาน

สำหรับรายงานฉบับที่ 4 นี้ อ้างอิงผลสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยจำนวน 1,000 คน เพื่อสะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยอย่างไร พร้อมตอกย้ำถึงความสำคัญของการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ อยู่ภายใต้กรอบจริยธรรมที่ชัดเจน และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้

 

 

Jon Omund Revhaug, Head of Telenor Asia กล่าวว่า

“ปีนี้นับเป็นปีที่ 25 ที่เทเลนอร์ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรายังคงเดินหน้าสนับสนุนเป้าหมายด้านดิจิทัลของประเทศอย่างต่อเนื่อง รายงานฉบับนี้สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI แต่สิ่งที่จะกำหนดผลลัพธ์ที่แท้จริงคือ ‘วิธีการใช้งาน’ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจึงมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มั่นคง เพื่อรองรับการพัฒนา AI ที่น่าเชื่อถือ โดยการเชื่อมต่อคือจุดเริ่มต้น และ ‘ความไว้วางใจ’ ต้องถูกฝังอยู่ในทุกระดับของการออกแบบระบบ”

 

 

ณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า

“AI เป็นพลังสำคัญที่สามารถขับเคลื่อนความก้าวหน้าของประเทศได้จริง ด้วยศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทั้งวิธีทำงานและวิถีชีวิตของคนไทย แต่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเรานำมาใช้อย่างมีจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน การพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้กรอบจริยธรรมที่รัดกุม และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนนวัตกรรมให้เป็นคุณค่าที่ยั่งยืนต่อสังคมไทย”

 

 

ดร. Ieva Martinkenaite, SVP and Head of AI at Telenor Group กล่าวเสริมว่า

“ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยคาดหวังให้ระบบ AI มีความโปร่งใส เข้าถึงได้ และยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งควรเป็นมาตรฐานพื้นฐานของทุกองค์กร ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นชัดว่า AI ที่มีความรับผิดชอบไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างแท้จริง องค์กรจึงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการข้อมูลอย่างรอบคอบ การพัฒนาทักษะบุคลากร และการสร้างวัฒนธรรมที่มีกลไกด้านจริยธรรมเป็นส่วนหนึ่งของทุกขั้นตอนของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI”

 

เมื่อ AI กลายเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ในชีวิตประจำวันของคนไทย

ผลสำรวจชี้ว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทย 91% ตระหนักว่าตนเองมีการใช้งาน AI ในบางรูปแบบ เพิ่มขึ้นจาก 77% ในปี 2024 โดยกว่าครึ่งมีการใช้งานเครื่องมือ AI อย่างน้อยวันละครั้ง และ 28% ใช้หลายครั้งต่อวัน ขณะที่สัดส่วนผู้ที่นำ AI มาใช้ในกิจวัตรประจำวันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 19% ในปี 2024 เป็น 40% ในปี 2025

คนไทยใช้ AI เพื่อเสริมทักษะในหลายด้าน ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล (62%) การสร้างสรรค์ผลงาน (52%) และการสื่อสาร (35%) ขณะเดียวกันยังตระหนักถึงทักษะที่จำเป็นในยุค AI เช่น การเขียนพรอมต์ (prompt) อย่างมีประสิทธิภาพ (54%) และความเข้าใจในประเด็นจริยธรรมและอคติ (25%) โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าการพัฒนาทักษะด้าน AI เป็นความรับผิดชอบของตนเอง สะท้อนแนวโน้มการพึ่งพาตนเองมากขึ้นในการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI

 

การปลดล็อกศักยภาพของ AI ในที่ทำงาน

ที่ทำงานกำลังกลายเป็นสมรภูมิสำคัญของการนำ AI มาใช้ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทย 4 ใน 10 คนใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้นถึง 93% จากปีก่อนซึ่งมีเพียง 21% เท่านั้น

ผู้ใช้ AI ในที่ทำงานส่วนใหญ่ใช้เพื่อการพัฒนาคอนเทนต์ (61%) การวิเคราะห์ข้อมูล (54%) และการให้บริการลูกค้า (53%) โดยผู้ใช้กลุ่มนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกมากกว่ากลุ่มอื่นในด้านผลกระทบของ AI ต่อความมั่นคงในอาชีพและเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ดี มีเพียง 3 ใน 10 ของผู้ใช้ AI ในที่ทำงานที่ระบุว่าบริษัทมีแผนหรือกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจน สะท้อนถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องกำหนดทิศทางและให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง เพื่อใช้ประโยชน์จาก AI ได้เต็มศักยภาพ พร้อมทั้งสื่อสารแผนดังกล่าวให้พนักงานรับรู้และมีส่วนร่วม

 

 

Gen Z ใช้ AI หนักสุด–คุมเข้มด้านจริยธรรม

กลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) และ Gen Z ขึ้นแท่นกลุ่มคนที่นำ AI มาใช้มากที่สุด ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ไปจนถึงการขอคำปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์ โดย Gen Z มีแนวโน้มระมัดระวังและสนับสนุนการกำกับดูแลมากกว่ามิลเลนเนียล ซึ่งมีท่าทีเปิดกว้างและมุมมองเชิงบวกต่อบทบาทของ AI ในสังคม ขณะที่ Gen X และเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomers) แสดงความกังวลในระดับปานกลาง แต่ยังสนับสนุนการพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม Gen Z โดดเด่นทั้งในฐานะผู้ใช้และนักวิจารณ์การใช้ AI อันดับหนึ่ง โดยกว่า 8 ใน 10 คน ใช้เครื่องมือ AI แต่ขณะเดียวกัน 56% เชื่อว่าการใช้ AI ในบางกรณีอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสังคม และ 61% สนับสนุนการชะลอการพัฒนา AI จนกว่าจะมีกลไกคุ้มครองที่รัดกุม ความกังวลของของคนรุ่นนี้ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องความเป็นธรรม ความเห็นอกเห็นใจ ไปจนถึงปัญหาอคติ สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่คาดหวังให้ AI เป็นมากกว่าแค่นวัตกรรมล้ำสมัย

 

AI เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยในโลกออนไลน์ แต่ทักษะผู้ใช้ต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี

แม้ความปลอดภัยในโลกออนไลน์ยังเป็นประเด็นสำคัญในประเทศไทย โดย 83% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกังวลเรื่องความปลอดภัยของบัญชีออนไลน์ และ 78% เห็นว่าการติดตามข้อมูลภัยคุกคามทำได้ยาก

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจชี้ว่าคนไทยมีมุมมองเชิงบวกและมั่นใจต่อศักยภาพของ AI ในการปกป้องความปลอดภัยในโลกออนไลน์ โดยกว่า 2 ใน 3 (68%) เชื่อว่า AI สามารถช่วยยกระดับความปลอดภัยได้ โดยผู้ที่มีมุมมองเช่นนี้มักไว้วางใจเนื้อหาที่สร้างโดย AI มากกว่า และยอมรับการใช้งานของ AI ในด้านที่เห็นประโยชน์และประสิทธิภาพได้ชัดเจน เช่น การสร้างภาพ (image generation) ระบบจดจำใบหน้าเพื่อความปลอดภัย และการให้บริการลูกค้า

 

คนไทยต้องการบริการที่ดีกว่า แต่ไม่ยอมแลกกับความโปร่งใสและสิทธิ์การควบคุม

แม้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยส่วนใหญ่จะรู้สึกคุ้นเคยกับการผสาน AI เข้ากับบริการต่าง ๆ แต่ยังมีความคาดหวังสูงต่อการใช้อย่างมีจริยธรรม โดยเฉพาะการกำกับดูแลโดยมนุษย์ในส่วนงานที่มีความละเอียดอ่อน อีกทั้งยังคงมีความกังวลเรื่องความโปร่งใสและความเป็นธรรม โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและบริการทางการเงิน โดยมีเพียง 49% ที่มองว่าการใช้ AI ในกระบวนการคัดเลือกพนักงานเป็นเรื่องยุติธรรม ขณะที่เกือบ 1 ใน 5 มองว่าไม่ยุติธรรมอย่างมาก สะท้อนถึงความสำคัญของการคงบทบาทการตัดสินใจของมนุษย์ในเรื่องที่กระทบต่อชีวิตคนโดยตรง

แม้การใช้ AI ในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ใช้งานยังมีท่าทีระมัดระวัง โดยผู้ใช้งานกว่าครึ่งกังวลเรื่องการพึ่งพา AI มากเกินไป รวมถึงการขาดกฎระเบียบและความโปร่งใส ขณะเดียวกันมีเพียง 13% ที่มั่นใจว่าสามารถแยกแยะระหว่างคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI และคอนเทนต์ที่สร้างโดยมนุษย์ได้ อย่างไรก็ตาม 77% ของผู้ใช้งานยินดีแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวเพื่อรับบริการที่ดียิ่งขึ้น หากแต่ต้องมีความโปร่งใสและสิทธิ์ในการปฏิเสธการใช้งานข้อมูล (opt-out) โดย 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าตนเองควรเป็นผู้กำกับดูแลการใช้ AI มากกว่ารัฐบาลหรือบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการเปลี่ยนทิศทางจากปี 2024 ที่คนส่วนใหญ่ยังอยากให้สถาบันรัฐและผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในโลกออนไลน์

 

Jon Omund Revhaug กล่าวสรุปว่า “ในขณะที่ประเทศไทยเดินหน้าสู่ยุค AI สิ่งสำคัญคือการกำหนดทิศทางอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมส่งเสริมให้ทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และกลุ่มเปราะบาง ให้มีทักษะและความรู้ในการใช้ AI อย่างรอบคอบและสร้างสรรค์ เพราะความเชื่อมั่นและความปลอดภัยคือรากฐานของสังคมดิจิทัล และเทเลนอร์ยังคงยึดมั่นในพันธสัญญาเดิมในการสนับสนุนอนาคตดิจิทัลที่ทั้งฉลาดกว่า ปลอดภัยกว่า และมีความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อทุกคน”

[อ่าน 49]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“บี.กริม เพาเวอร์” ร่วมกับ “GC Estate” ลงนามสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย
“ต๋า เซินเซิน” หัวเรือใหญ่แห่ง เอ็มจี ร่วมทดสอบ NEW MG IM6 รุ่น Premium LONG RANGE
เออร์โก ปักหมุดรุกตลาดประกันภัยไทยด้วยวิสัยทัศน์ระดับโลก พร้อมชูกลยุทธ์ผ่าน Digital First
กิฟฟารีนเขย่าวงการขายตรง เปิดตัว “AI Coach” พลิกเกมธุรกิจ MLM ไทย
Beyoncé และ Levi’s® เปิดตัว The Denim Cowboy
เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง ผนึก TOA สร้างบ้านยุคใหม่สู่ Green Living เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved