บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ตอกย้ำความสำเร็จโมเดลธุรกิจ ‘The Ecosystem for All’ แถลงวิสัยทัศน์การพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ The Central พหลโยธิน – The Flagship of the Future ศูนย์การค้าระดับแฟล็กชิพมูลค่าโครงการ 21,000 ล้านบาท ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่พร้อมยกระดับกรุงเทพฯ สู่มหานครระดับโลก สะท้อนศักยภาพย่านพหลโยธินที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเทียบชั้น CBD กรุงเทพฯ เตรียมเป็นย่านที่อยู่อาศัยและย่านเศรษฐกิจคุณภาพสูงทางตอนเหนือของเมือง ทั้งนี้โครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 49 ไร่ พื้นที่ (GBA) 457,409 ตร.ม. พร้อมด้วย Convention Hall ขนาดใหญ่กว่า 6,700 ตร.ม. คาดก่อสร้างแล้วเสร็จใน Q4/2569
รับชมวิดีโอโครงการ : https://youtu.be/ltawSUuWHVs
ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“ตลอด 45 ปีที่ผ่านมาเซ็นทรัลพัฒนาภูมิใจที่โครงการระดับ World-Class และทุกโครงการของเราเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับย่านต่างๆ ของเมือง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นของ ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ซึ่งเป็น Mixed-Use แห่งแรกของไทย และ เป็นโครงการ Visionary Shift สร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการรีเทลของไทย ซึ่งยังคงประสบความสำเร็จอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน
วันนี้ย่าน ลาดพร้าว–พหลโยธิน ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและ “The Central พหลโยธิน” มูลค่าโครงการกว่า 21,000 ล้านบาท จะเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับโลกที่ต่อยอดความสำเร็จของเรา เพื่อผลักดันย่านนี้ให้เต็มศักยภาพสูงสุด และยกระดับสู่ The Next CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2569”
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“โครงการต่างๆ ของเราได้บุกเบิกย่านและกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญทั่วกรุงเทพฯ สำหรับการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ เรามุ่งมั่น พัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มี Quality of Life ที่ดีที่สุดเมืองหนึ่ง รวมถึงลงทุนพัฒนาโครงการในระดับ Flagship ที่จะมาพลิกโฉมย่าน สร้าง New Cultural Hub & Business District แห่งใหม่ให้กับเมือง เช่นเดียวกับมหานครชั้นนำของโลกอย่างนิวยอร์ก, ลอนดอน, กรุงโซล และโตเกียว
ทั้งนี้เรามีความเชื่อมั่นในโครงการ The Central ด้วยศักยภาพใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. Location Power: ศักยภาพของโลเคชั่น โครงการตั้งอยู่บนถนนสองสายหลัก คือ วิภาวดีรังสิต และ พหลโยธิน ปัจจุบันมีรถยนต์สัญจรผ่าน 337,000 คันต่อวัน รวมถึง MRT สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 15,600 คนต่อวัน และ BTS สายสีเขียวมีผู้โดยสาร 35,100 คนต่อวัน และในอนาคตหลังศูนย์เปิดคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 30% อีกทั้งย่านนี้ยังเชื่อมไปสู่ สนามบินดอนเมืองที่ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคนต่อปี และกำลังเตรียมขยายโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพตามแผนงานของรัฐ ทำให้ดึงคนไทยและต่างชาติเข้ามายังย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน
2. Market Magnet: โครงการ The Central พหลโยธินจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตใหม่ๆ และจะเป็นตัวเร่งสำคัญที่ยกระดับย่านให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยย่านนี้มีดีมานด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง Catchment Area มีประชากรประมาณ 2.5 ล้านคนและจากฐานข้อมูลของเราอ้างอิงจากเซ็นทรัลพัฒนา พบว่าในย่านนี้มีกลุ่มลูกค้า Wealth Segment กำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ถึง 2.3 เท่า, อีกทั้งยอดขายต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45% และจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยถึง 2.19 เท่า
3. Flagship of Sub-Culture Communities: พื้นที่ที่เปิดรับคนรุ่นใหม่และคนทุกกลุ่ม รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ Urban Sport Community, Immersive Art Destination, Experiential Discovery Zone และ Family Entertainment อีกทั้งยังเป็น Collective Social Ground พื้นที่ของทุกคน นอกจากนี้ พื้นที่การจัดงานยังรองรับ Multi-Cultural Events และในส่วน Convention Hall มีพื้นที่กว่า 6,700 ตร.ม. สามารถรองรับคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ระดับโลกอีกด้วย”
อิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing – Fashion & Luxury บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“The Central พหลโยธิน มีศักยภาพที่โดดเด่น รองรับการเปิดแฟล็กชิพของแบรนด์ทั้งไทยและระดับโลก เพื่อให้แบรนด์ได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ด้วยการออกแบบโครงการแบบ Flagship-Reimagined Destination สร้างมาตรฐานใหม่ของรีเทลให้กรุงเทพฯ ตอนเหนือ ทั้งนี้พหลโยธินกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ยกระดับสู่การเป็น Commercial & Business District ดังนี้
พหลโยธินมีศักยภาพเทียบชั้นย่านราชประสงค์: ในฐานะย่านที่เป็นทำเลยุทธศาสตร์เหมาะกับการพัฒนาโครงการระดับ World-Class ได้แก่
1) Transit-Oriented Development: เติบโตบนฐานโครงสร้างคมนาคมหลัก ทั้ง BTS, MRT และถนนสายสำคัญ เป็นจุดเชื่อมต่อการใช้ชีวิต–การทำงาน–การเดินทาง
2) High-Density & Mixed Demand: รายล้อมด้วยดีมานด์คุณภาพสูง ทั้งที่อยู่อาศัยระดับกลาง–บน อาคารสำนักงาน โรงแรม และสถาบันการศึกษา
3) Anchor of Flagship Brands: เช่นเดียวกับที่ centralwOrld เป็น ‘Flagship Landmark’ ของราชประสงค์ ดังนั้น The Central พหลโยธิน จะเป็น ‘The Landmark of Northern Bangkok’ ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของย่าน
อัตราการเติบโตสูงเทียบชั้นย่าน Central CBD: จากข้อมูลปีล่าสุด พหลโยธินช่วงต้นติด Top 10 ทำเลราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยปี 68 โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา อัตราการเติบโตสูงถึง 5% (มากกว่าย่าน เพลินจิต-ชิดลม, สุขุมวิท, สีลม, สาทร) ซึ่งตัวเลขนี้การันตีถึงศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจน
ย่านที่มีฐานกำลังซื้อแข็งแกร่ง: เรามองเห็นการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน โครงการที่อยู่อาศัยที่แวดล้อมศูนย์การค้า The Central พหลโยธิน มีมากถึง 472 โครงการและมากกว่า 50% เป็นโครงการในระดับ Upper Segment ขึ้นไป นอกจากนี้ อาคารสำนักงานต่างๆ ยังมีแนวโน้มขยายตัวสู่ย่านรอบนอก โดยเฉพาะในแนว North Corridor พหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ดังนั้นกลุ่มคนทำงานจะเข้ามาในพื้นที่และเป็นกำลังซื้อที่มหาศาล ในส่วนอาคารสำนักงานที่ตั้งรอบโครงการมีถึง 52 แห่งในจำนวนนี้ 15 แห่งเป็น Grade A Office สะท้อนถึงคุณภาพของทำเลและศักยภาพการเป็นศูนย์กลางWorkplace แห่งอนาคตของกรุงเทพฯ ในส่วนของ Quality Neighbourhood โครงการยังแวดล้อมด้วยโรงเรียนชั้นนำ 51 แห่ง (เป็นโรงเรียนอินเตอร์ 6 แห่ง), มหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง, และโรงแรม 41 แห่ง”
จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ Head of Business Development บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“The Central’ พหลโยธิน จะเป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่คือ Curated Community ของคนรุ่นใหม่และครอบครัวทุกเจเนอเรชัน โดยจะตอบรับเทรนด์การออกแบบแห่งอนาคต ทั้งงานออกแบบภายในด้วย คอนเซ็ปต์คือ The Central Playlist เปรียบเสมือนการ Shuffle เพลย์ลิสต์ของกรุงเทพฯ ที่จะเต็มไปด้วยความหลากหลายและการค้นพบใหม่ๆ เราได้ร่วมมือกับ World-Class Designers และ Local Leading Designers”
จุฑาธรรมกล่าวต่อไปว่า “โดยทั้งโครงการมีการออกแบบ Indoor–Outdoor Seamless Journey มีไฮไลท์ อาทิ Central Stage ที่เชื่อมโยง International Food ในชั้นบน กับ Street Food ในชั้นล่าง และจะมี Pop-Up Food Events, Market Hall ออกแบบพื้นที่ให้มีความ Dynamic ทำให้การมาแต่ละครั้งเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่, Waterfall Courtyard เป็นโอเอซิสที่เต็มไปด้วย Edible Garden ในแนวคิด From Farm to Table, Fashion Playlist มีตั้งแต่ Curated Fashion Houses ถึง Street Remix ที่เป็นศูนย์รวม New Age Sports Fashion, และ Weekender Playlist ที่สะท้อนความหลากหลายของลูกค้า และ Creative Playlist ที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวและตอบโจทย์ Next Generation
อีกทั้งงาน Architecture ใช้แนวคิด Collective Rhythms ที่มีการออกแบบที่หลากหลาย โดยเราแทรกรอยยิ้มหรือ Smile ไว้ในทุกๆ Design Element ส่วน Landscape Design มีคอนเซ็ปต์ที่เชื่อมโยงกันด้วยแนวคิดการโอบกอดหรือ Hug ให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ”
เตรียมพบกับโครงการ The Central พหลโยธิน – The Flagship of the Future บนทำเลศักยภาพ ถนน 2 สายหลัก วิภาวดีรังสิตและพหลโยธิน เชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคม ทั้งรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและ BTS สายสีเขียว พร้อมสร้างปรากฏการณ์ The Landmark of Northern Bangkok
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนสู่อนาคตภายใต้เจตจำนงค์ของแบรนด์ Imagining better futures for all โดยตลอด 45 ปี ได้สนับสนุนสังคมและชุมชนกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน, พื้นที่สาธารณประโยชน์ และโอกาสทางการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม เราเดินหน้าสู่ Net Zero 2050 ได้รับการจัดอันดับ DJSI Best-in-Class 7 ปีซ้อน และเป็นอสังหาฯ รายแรกที่ออก ‘Green Bond’ อีกทั้งทุกศูนย์การค้าติดตั้ง Solar Rooftop, EV Charging Station พร้อมขับเคลื่อนโครงการ Green Partnership เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับพันธมิตรร้านค้า
ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนาคลิก https://www.centralpattana.co.th/th/shopping/shopping-update/lifestyle-activities