ดานอน ประเทศไทย ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญ เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ สู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนและเท่าเทียม
30 Oct 2025

ดานอน ประเทศไทย แถลงความก้าวหน้าการดำเนินพันธกิจด้านความยั่งยืนประจำปี 2568 ภายใต้งานแถลงข่าว 2025 Sustainability Press Conference พร้อมเปิดเวทีเสวนา ดึงผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น นักวิชาการด้านนวัตกรรมโภชนาการ การหมุนเวียนทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ และธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและนำเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนอนาคตอาหาร (The Future of Food) ที่ดีต่อสุขภาพ เป็นธรรม และยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

 

“งานแถลงข่าวในวันนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อบอกเล่าความสำเร็จของการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดคุยกันถึงก้าวต่อไปของพวกเราทุกคนด้วย” แดนิช ราห์มัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดานอน ประเทศไทย กล่าว

“เพราะงานเสวนาในวันนี้สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือและเป้าหมายร่วมกันของหลายภาคส่วน ดานอนในฐานะผู้นำด้านโภชนาการเฉพาะทาง ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้านโภชนาการ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมกันกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอนาคตของระบบอาหารในประเทศไทย”

“ผมเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตร และชุมชน เราสามารถร่วมกันออกแบบวิธีการผลิต บริโภค และให้คุณค่ากับอาหารในรูปแบบใหม่ ที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้คนและโลกใบนี้ได้จริง ทุกนวัตกรรมและทุกการลงมือทำจะนำพาเราไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน”

 

 

แนวทางจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างอนาคตอาหารยั่งยืน

งานในครั้งนี้ ดานอน ประเทศไทย ยังเปิดเวทีเสวนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา เพื่อร่วมหาแนวทางในการสร้างอนาคตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นธรรม และยั่งยืนอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดย รศ.ดร.ธัญญ์นลิน วิญญูประสิทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า

“ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ปัญหาสุขภาพอย่างภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสมก็ยังคงมีอยู่มาก จากข้อมูลงานวิชาการ มี 4 ปัจจัยหลักที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคสินค้าเพื่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น (1) ติดฉลากโภชนาการหน้าบรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจน (2) ลดน้ำตาลและเกลือในสูตรอาหาร (3) การเสริมอาหารที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย (4) การพัฒนานวัตกรรมอาหารที่คำนึงถึงผู้บริโภค”

พร้อมย้ำว่าการพัฒนาระบบอาหารของประเทศไทยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลสุขภาพจริง และการทำงานร่วมกับชุมชน ผู้บริโภค รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ จึงจะเกิดทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้จริง นอกจากนี้ ยังควรต้องสามารถวัดผลและเปิดเผยข้อมูลได้อย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม สอดคล้องกับหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และยินดีที่จะลงทุนมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนคุณค่าเหล่านี้

 

ด้าน อีเบง ตัน ผู้อำนวยการ B Market Builder SEA หน่วยงานผู้ดูแลการรับรองมาตรฐาน B Corp ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวถึงกระแสธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใสในทุกกระบวนการดำเนินงานว่า

“ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราทำงานกับหลากหลายบริษัท อย่างดานอน ประเทศไทย ที่มองว่าอาหารไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือความรับผิดชอบ เมื่อธุรกิจให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใส ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยค่านิยมที่ดี จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้น”

และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับรอง B Crop ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการวัดและรายงานผลลัพธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับผลประกอบการทางธุรกิจ เพราะความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สร้างความไว้วางใจได้ดีที่สุด — เราจึงเชื่อว่ามาตรฐาน B Corp และการรายงานผลอย่างโปร่งใสจะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว” สิ่งที่โดดเด่นคือแนวทางนี้ไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้หันมาผสานความยั่งยืนเป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ และยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสและผลกระทบเชิงบวกในภูมิภาคนี้

 

 

วินเซนต์ เต รองประธานฝ่ายโภชนาการเฉพาะทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากดานอน เล่าถึงนวัตกรรมโภชนาการเพื่อยกระดับสุขภาพเด็กไทยที่ดานอนดำเนินการว่า

“หนึ่งในภาวะที่ต้องการการแก้ไขในระดับเร่งด่วนในเด็กเล็ก คือภาวะขาดไมโครนิวเทรียนหรือสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพียงเล็กน้อย แต่มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วง 2,000 วันแรกของชีวิต นี่จึงเป็นสาเหตุที่นวัตกรรมด้านโภชนาการของเราต้องเริ่มต้นจากวิทยาศาสตร์และความเข้าใจว่าคนในท้องถิ่นต้องการอะไร—เพื่อพัฒนาทางออกที่เข้าถึงง่าย ราคาเหมาะสม และใช้งานได้สะดวก”

 

โดยดานอนได้มีแนวทางในการจัดการกับ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia: IDA) ซึ่งเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีมีโอกาสเสี่ยงถึงกว่า 1 ใน 3 ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตรเสริมวิตามินเพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กถึงสามเท่า นอกจากนี้ ดานอนยังได้พัฒนาสูตรซินไบโอติก (Synbiotic Formulas) ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสุขภาพลำไส้ของเด็กผ่าคลอด (C-section) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการแพ้และปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน ผ่านการทดสอบทางคลินิก และเป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของดานอนในการเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง โดยเฉพาะในช่วง 2,000 วันแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาไปกว่า 90% และโภชนาการที่เหมาะสมจะมีผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

นอกจากนี้ ดานอน ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ กรมอนามัย (DOH) และกรุงเทพมหานคร (BMA) โดยในปีนี้ ดานอนได้สนับสนุนโครงการระดับชาติ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ด้วยการสนับสนุนการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตในเด็กทั่วประเทศ ผ่านการให้ยืมอุปกรณ์หาความเสี่ยงภาวะ IDA แบบไม่เจาะเลือด จัดนิทรรศการให้ความรู้ และร่วมวางแนวทางป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการทำให้ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น กลายเป็นสิ่งที่ป้องกันได้จริง เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแรงตั้งแต่วันแรกของชีวิต

 

 

ด้าน นุ่น - ศิรพันธ์ วัฒนจินดา นักแสดงมากความสามารถ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนแนวทางการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้แบ่งปันมุมมองในฐานะผู้บริโภคว่า

“ทุกการตัดสินใจของเรา สิ่งที่เราซื้อ ใช้ หรือทิ้ง ล้วนมีผลต่อโลกที่เราอยู่ เมื่อผู้บริโภครู้ว่าทุกการเลือกสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เราทุกคนก็ได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอนาคตที่ยั่งยืน ผู้บริโภคทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์น้อย สนับสนุนแบรนด์ที่ลงทุนด้านความยั่งยืน หรือเพียงตั้งคำถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของอาหาร เพราะการตัดสินใจเล็กๆ เหล่านี้คือแรงผลักดันให้ระบบอาหารของเรายั่งยืนและเท่าเทียมมากขึ้น”

“เมื่อผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้เห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงจากสิ่งที่ตัวเองเลือก เราก็จะไม่ได้เป็นเพียงผู้มีส่วนร่วม แต่จะกลายเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่า” คุณนุ่น กล่าวปิดท้าย

[อ่าน 306]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ACSC ผนึก Meta–หน่วยงานต่างประเทศ เปิดปฏิบัติการ “Joint Disruption Week” กวาดล้างแก๊งสแกมข้ามชาติในอาเซียน
สเปอร์ส–ลิเวอร์พูล ดวลเดือดนัดพิเศษ ชูพลังฟุตบอลระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเด็ก วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคมนี้
เดอะมอลล์ ผนึก เอกชนสุขุมวิท ทุ่ม 200 ล้าน สร้าง “EXTRAVAGANZA SUKHUMVIT COUNTDOWN 2026” ดันสุขุมวิทสู่แลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์โลก
WELOVEGOLF Tournament 2025 ผสานพลังสมาชิกและพันธมิตร ส่งมอบความรักและความสุข ให้น้องๆ
กสิกรไทยเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จับมือกรมลดโลกร้อน หนุนผู้ประกอบการเข้าโครงการ G-Green
TOA เปิดตัวเทรนด์สี 2026 ‘The Pigmentum’ เมื่อสีสันคือพลังขับเคลื่อนชีวิต
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved