

บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เผยเรื่องราวความสำเร็จของ “ข้าวหอมบัวจัสมิน” ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า Shopee สามารถพาสินค้าภาคการเกษตร ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนบนโลกอีคอมเมิร์ซ ไม่เพียงการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายโอกาสการสร้างรายได้ให้แก่สู่ชุมชนและคนในพื้นที่ได้จริง
“ข้าวหอมบัวจัสมิน” แบรนด์ข้าวสาร SME จากกาญจนบุรี ที่ต่อยอดธุรกิจครอบครัวกว่า 40 ปี สู่การขายออนไลน์เต็มรูปแบบ สร้างยอดขายจากหลักหน่วย สู่หลักพันออเดอร์ต่อวัน คว้ารางวัล DBD Influencer Award และสร้างรายได้ยั่งยืนให้คนในชุมชนจากความสำเร็จของบัวจัสมิน สู่การคืนกลับให้ชุมชน พร้อมทั้งส่งต่อความรักด้วยข้าวสารและสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้บน Shopee

ศิริรัตน์ อินทร์คล้าย หรือคุณปุ๊ก กรรมการบริษัท และทายาทรุ่นที่สองของครอบครัว เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ข้าวหอมบัวจัสมินว่า
“กิจการข้าวสารนี้สืบทอดมาจากคุณพ่อคุณแม่ที่ทำมากว่า 40 ปี หลังเรียนจบ ปุ๊กตั้งใจกลับมาช่วยต่อยอด เพราะอยากให้คนไทยได้ทานข้าวหอมคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ แบรนด์ยืนหยัดด้วย ความซื่อสัตย์และคุณภาพ เราไม่เคยบอกเกินจริงว่าข้าวของเราเป็นข้าวหอมมะลินาปี แต่บอกตามจริงว่าเป็นข้าวหอมนาปรัง ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ไม่หัก ไม่ป่น และไม่ผสมข้าวแข็ง”
จากความท้าทายสู่โอกาส: พลิกกลยุทธ์ด้วย Shopee รันยอดขายได้แม้ตอนหลับ
เส้นทางธุรกิจออนไลน์ของ ข้าวหอมบัวจัสมิน เริ่มต้นจากความท้าทายจาก“น้ำหนักของสินค้าข้าวสาร”เพราะถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการขายออนไลน์ ทำให้ในปีแรกแทบไม่มียอดขายเลย คุณปุ๊กเล่าว่า “ช่วงแรกที่เริ่มขายออนไลน์ค่าขนส่งสูงมาก ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อออนไลน์แพงกว่าซื้อที่ร้านใกล้บ้าน ทำให้ยอดขายแทบไม่มีเลยค่ะ”
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อคุณปุ๊กตัดสินใจเปิดร้านบน Shopee ซึ่งเป็นการพลิกธุรกิจจากความท้าทายสู่การเจอโอกาส “Shopee เป็นแพลตฟอร์มแรกที่เราเลือก เพราะมีฐานลูกค้าใหญ่ น่าเชื่อถือ มีระบบสนับสนุนผู้ขายครบ อีกทั้งการเปิดร้านบน Shopee ยังไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงเหมือนตั้งหน้าร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ถึงจะมีค่าขนส่งและแพ็กสินค้า แต่ยังคุ้มกว่า และยังสามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ”
คุณปุ๊กอธิบายว่า “โค้ดส่วนลดและโค้ดค่าขนส่งคือ สะพานเชื่อมระหว่างร้านค้ากับลูกค้า ที่ช่วยลดความลังเลในการสั่งซื้อ ถ้าไม่มีส่วนลด ลูกค้าอาจรู้สึกว่าราคารวมค่าขนส่งแพงกว่าซื้อที่ร้าน แต่พอมีโค้ดเข้ามาช่วย เขาก็ตัดสินใจง่ายขึ้น และหลายคนกลับมาซื้อซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำ หลายคนถึงขั้นให้ร้านสอนโหลดแอป Shopee ตอนมาซื้อหน้าร้าน เพราะรู้ว่าคุ้มกว่าซื้อออฟไลน์อีก”

นอกจากโปรโมชั่นที่ช่วยดึงดูดลูกค้าแล้ว ความมั่นใจในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มยังมาจาก Shopee Guarantee (ช้อปปี้การันตี) ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น ลูกค้าจะได้รับสินค้าก่อนแล้วจึงกดยืนยันการรับสินค้า หรือถ้าหากสินค้ามีปัญหา ก็สามารถขอคืนเงินหรือคืนสินค้าได้อย่างสะดวก ในฝั่งผู้ขายเอง Shopee ยังมีระบบให้บริการลูกค้าและศูนย์ช่วยเหลือผู้ขาย ที่ให้คำแนะนำและสนับสนุนตลอดเส้นทางการขาย ทำให้คุณปุ๊กมั่นใจว่าแบรนด์สามารถดำเนินธุรกิจบน Shopee ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
โดยอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ให้กับข้าวหอมบัวจัสมิน เมื่อคุณปุ๊กได้นำเครื่องมืออย่าง Shopee Live และ Shopee Video มาใช้ เพื่อสร้างยอดขายอย่างเต็มรูปแบบ
“ยอดขายเริ่มโตแบบก้าวกระโดดจริง ๆ ตอนนั้นจำได้ว่าลอง เริ่มทำ Shopee Live ช่วงปลายปี 2566 จากเดิมที่ขายได้วันละไม่กี่ออเดอร์ กลายเป็น 200–400 ออเดอร์ต่อวัน ยิ่งในช่วงแคมเปญ เช่น 9.9 ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 200% บางวันแตะถึง 1,000–2,000 ออเดอร์เลยค่ะ”
Shopee Live ช่วยให้ลูกค้าเห็นสินค้าจริงและมั่นใจในการซื้อ ส่วน Shopee Video และ Shopee Affliate ช่วยให้ร้านขายสร้างยอดขายได้แม้ในเวลาพักผ่อน “มันดีตรงที่... ต่อให้เราไม่ได้ไลฟ์ หรือแม้แต่ตอนเราหลับ วิดีโอก็ยังรันอยู่ ลูกค้าก็จะเห็นสินค้าของเราและกดสั่งซื้อได้เลยค่ะ”
จาก CEO ผู้ลองผิดลองถูกในเส้นทางขายออนไลน์ สู่ผู้ชนะจากเวที The Influencer Journey: TiJ#2
จุดเริ่มต้นความสำเร็จบนช่องทางออนไลน์ของคุณปุ๊ก เริ่มจากการเข้าร่วมโครงการ The Influencer Journey: TiJ#2 ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือ DBD ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ซึ่งถือเป็นประตูก้าวแรก ที่ทำให้เริ่มเข้าสู่โลกการค้าออนไลน์อย่างแท้จริง โดยโครงการดังกล่าว ได้พัฒนาทักษะการไลฟ์ การปั้นตัวตนเจ้าของธุรกิจให้เป็น CEO Influencer จำหน่ายสินค้าของตนเองได้
โดยโครงการฯ ได้เป็นจุดเชื่อมโยงแบรนด์ข้าวหอมบัวจัสมิน ให้รู้จักกับแพลตฟอร์ม Shopee และได้รับการสนับสนุนสิทธิพิเศษต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง
คุณปุ๊กมองว่า ความร่วมมือระหว่าง DBD กับพันธมิตรหลายภาคส่วน โดยเฉพาะกับ Shopee ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยรายเล็กสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในโลกออนไลน์ได้ “โครงการนี้เปิด ‘พื้นที่’ ให้ SME ขนาดเล็กอย่างเราได้มีโอกาสยืนบนเวทีเดียวกับผู้ประกอบการรายใหญ่ และความรู้เชิงเทคนิคที่นำไปใช้ได้จริง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาอย่างมืออาชีพมากขึ้นค่ะ”
คุณปุ๊กกล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างเข้าร่วมโครงการฯมีการใช้เครื่องมือ Shopee Live ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการวัดผลและแข่งขันของผู้ประกอบการ มีการกำหนดมิชชั่นด้านยอดขายจากการไลฟ์จริง มีสนับสนุนด้วยคูปอง เพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงลูกค้าใหม่ “ปุ๊กได้นำความรู้จากหลักสูตรมาพัฒนาและปรับใช้อย่างเต็มที่ ทั้งการจัดแสง จัดไฟ เทคนิคการนำเสนอ และการเปิด ปิดไลฟ์อย่างมืออาชีพ สิ่งที่เรียนรู้ในโครงการคือของจริง นำมาปรับใช้ได้ทันที และเห็นผลเลยค่ะ”

การไม่หยุดพัฒนาและลงมือทำนี้ทำให้ยอดขายของร้านเติบโตอย่างชัดเจน และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ข้าวหอมบัวจัสมินคว้ารางวัลชนะเลิศ DBD Influencer Award ปี 2025 ภายใต้โครงการ The Influencer Journey: TiJ#2 มาครองได้สำเร็จ
จากความสำเร็จของข้าวหอมบัวจัสมิน สู่การคืนกลับให้ชุมชน: ส่งต่อความรักด้วยข้าวสาร เติบโตอย่างยั่งยืนบน Shopee
ความสำเร็จของ “ข้าวหอมบัวจัสมิน” เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า Shopee สามารถพาสินค้าภาคการเกษตร ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนบนโลกอีคอมเมิร์ซ เพราะไม่เพียงการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายโอกาสการสร้างรายได้ให้แก่สู่ชุมชนและคนในพื้นที่ได้จริง
คุณปุ๊กอธิบายเพิ่มเติมว่า “เพราะด้วยความที่บริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งห่างจากตัวเมืองกว่า 40 กิโลเมตร การเปิดร้านบน Shopee จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้และอาชีพใหม่ให้คนในพื้นที่ ปุ๊กพาน้อง ๆ ในชุมชนมาฝึกทำงาน ทั้งทีมไลฟ์ ทีมตอบแชท และงานหลังบ้าน มันคือการสร้างรายได้จริง ๆ ให้กับคนในพื้นที่จากการขายบน Shopee”
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณปุ๊กประทับใจ คือการเห็นลูกค้าใช้ Shopee สั่งซื้อข้าวหอมบัวจัสมิน เพื่อ ส่งมอบความรักและกำลังใจ ผ่านข้าวสาร ไม่ว่าจะเป็นลูก ๆ ที่ทำงานในกรุงเทพฯ ให้ทางร้านช่วยเขียนโน้ตไปพร้อมกับส่งข้าวให้แม่ที่อยู่ต่างจังหวัด, หรือแม้แต่ลูกค้าที่ยอมใช้คูปองช้อปปี้ทั้งหมด เพื่อสั่งข้าวไปมอบให้ทหารและชาวบ้านตามแนวชายแดน
“Shopee ส่งได้ทุกที่ แม้ในพื้นที่ที่ขนส่งทั่วไปเข้าไม่ถึง มันทำให้เราเห็นว่าสินค้าเศรษฐกิจไทยอย่างข้าวสารก็กลายเป็นสื่อของความรักได้จริง ๆ ซึ่งพอเราได้ลงขายใน Shopee ก็เห็นเลยค่ะว่ามีลูกค้าอีกเยอะมากที่อยากซื้อสินค้าเรา แค่เปิดช่องทางออนไลน์ ก็สร้างยอดขายเติบโตและเดินต่อไปได้”
แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ข้าวหอมบัวจัสมินยังคงมียอดขายต่อเนื่อง เพราะคุณปุ๊กเชื่อในพลังของการเรียนรู้และการปรับตัว คุณปุ๊กเล่าต่ออย่างตรงไปตรงมาว่า“หากวันหนึ่งไม่มี Shopee ธุรกิจอาจยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม เราคงยังขายแบบเดิมทุกวัน ไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่มีอะไรใหม่ และอาจจะกลายเป็นคนหนึ่งที่นั่งโพสต์ในโซเชียลว่า ‘วันนี้ขายไม่ดีเลย เศรษฐกิจไม่ดี’ แบบนั้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งยอดขายตอนนี้สัดส่วนคือ ออนไลน์ 70% ออฟไลน์ 30% ถือว่าออนไลน์ประสบความสำเร็จและยอดขายเติบโตมากทีเดียว"
วันนี้ข้าวหอมบัวจัสมิน ได้พิสูจน์แล้วว่าเมื่อผู้ประกอบการไทยเปิดใจเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีอย่างถูกทาง เลือกแพลตฟอร์ตที่ใช่ โอกาสในการสร้างรายได้ก็ไม่เคยมีคำว่าสิ้นสุด
สามารถติดตามเรื่องราวของคุณปุ๊กและข้าวหอมบัวจัสมินเพิ่มเติม เพื่อรับแรงบันดาลใจจากผู้ประกอบการตัวจริง เสียงจริง ได้ในวิดีโอสัมภาษณ์ทาง Shopee Youtube https://youtu.be/LSNOMdxAq6g และเลือกช้อปสินค้าจาก“ข้าวหอมบัวจัสมิน” โดยโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับซื้อสินค้าในร้าน กรอก PRASERTPHANICH รับส่วนลด 100 บาท ไม่มีขั้นต่ำการสั่งซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 พร้อมทั้งร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการไทย จากโครงการ สุขใจซื้อของไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์และช้อปปี้ได้ที่ https://shopee.co.th/m/dbdonline
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store, Google Play Store และ App Gallery






