

POP MART Thailand เดินหมากกลยุทธ์ระดับโลก เปิดตัว “POP LAND EXCLUSIVE FESTIVE EVENT IN THAILAND” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชน – ททท. สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ – สร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมชูคอนเซ็ปต์ “Experience that Connects to Heart” ส่งต่อความสุข ความสร้างสรรค์ และพลัง Soft Power ไทย สู่สายตาโลก

POP LAND จากอาร์ตทอยส์สู่ปรากฏการณ์เศรษฐกิจสร้างสรรค์
“POP LAND EXCLUSIVE FESTIVE EVENT IN THAILAND” คือการต่อยอดจากความสำเร็จของ “POP LAND Beijing” ที่เปิดตัวในปี 2023 โดยครั้งนี้ POP MART Thailand ภายใต้การบริหารของ คุณศิริพร แผลงจันทึก Country General Manager ได้นำโมเดลสู่ประเทศไทย เพื่อสร้างพื้นที่ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและความบันเทิงเชิงสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ในโลก
อีเวนต์นี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร บริเวณ สยามพารากอนและสยามเซ็นเตอร์ ถือเป็น Outdoor Pop-Up Event ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ POP LAND ซึ่งผสานดีไซน์ ความคิดสร้างสรรค์ และการเล่าเรื่องเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัส “โลกของคาแรกเตอร์” ผ่านประสบการณ์จริง
ภายในงานโดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กหลัก “ปราสาทป๊อปแลนด์” และ Big Figure MOKOKO สูงกว่า 5 เมตร พร้อมคาแรกเตอร์สุดฮิตระดับโลกอย่าง MOLLY, SKULLPANDA และ HIRONO ที่นำเสนอในรูปแบบ immersive experience เสริมด้วยกิจกรรม Interactive เช่น “POP SLIDE: Finding MOKOKO” และโซนของไอศกรีมดีไซน์พิเศษ “POPSICLE” ที่มีเฉพาะในประเทศไทย
สิ่งที่ POP LAND นำเสนอจึงไม่ใช่เพียงสินค้าอาร์ตทอยส์ แต่คือ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่” ที่ดึงดูดทั้งคนรุ่นใหม่ ครอบครัว และนักสะสมจากทั่วโลก ผ่านการออกแบบประสบการณ์ที่ “จับต้องได้” และ “เชื่อมถึงหัวใจ” ของผู้บริโภค

กลยุทธ์บุกตลาดไทย จากฐานนักสะสมสู่ฐานเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม
ศิริพร แผลงจันทึก กล่าวในงานเปิดตัวว่า POP MART Thailand ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ศูนย์กลางแห่ง POP Culture ของโลก ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมผ่านคาแรกเตอร์อาร์ตทอยส์ ซึ่งสะท้อน Soft Power ของคนรุ่นใหม่
“เรามุ่งสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าอีเวนต์ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับความสุข ความทรงจำ และแรงบันดาลใจ ผ่านงานดีไซน์และความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก” ศิริพรกล่าว
ในเชิงกลยุทธ์ POP MART Thailand เดินหน้าใช้ “Experiential Marketing” เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ โดยเปลี่ยนจากการขายสินค้า (Product-centric) สู่การขายประสบการณ์ (Experience-centric) ผ่านการจัดงานที่ผู้บริโภค “ใช้เวลา” อยู่กับแบรนด์
นอกจากนี้ การร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่าง ททท. และ ศูนย์การค้าสยามพารากอน–สยามเซ็นเตอร์ ยังถือเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายจาก “แฟนคาแรกเตอร์” ไปสู่ “นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคทั่วไป” ที่มองหากิจกรรมสร้างสรรค์ในช่วงเทศกาลปลายปี
พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ Soft Power ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจริง

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึง การบูรณาการ Soft Power กับเศรษฐกิจจริง อย่างชัดเจน อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า การจัดงานนี้ไม่เพียงช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาส–ปีใหม่ ซึ่งเป็น High Season ของการท่องเที่ยวไทย
“เราต้องการสร้างแรงจูงใจให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศแทนการเดินทางออกต่างประเทศ ผ่านประสบการณ์ Grand Moment ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งตอบโจทย์ทั้งครอบครัว คนรุ่นใหม่ และนักสะสม” อภิชัยกล่าว

ขณะเดียวกัน ธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการสยามพารากอน ชี้ว่า การร่วมมือครั้งนี้คือการต่อยอดจุดแข็งของสยามพารากอนในฐานะ Global Destination ที่สร้าง “World Class Extraordinary Experiences” ให้ผู้มาเยือนจากทั่วโลก
“สยามพารากอนในวาระ 20 ปี ต้องการมอบประสบการณ์เหนือระดับด้วยสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน POP LAND คือหนึ่งในโปรเจกต์ที่สะท้อนความร่วมมือระดับโลก และสร้างมิติใหม่ของเทศกาลปลายปีให้กรุงเทพฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง” ธณพรกล่าว
พันธมิตรทั้ง 3 ฝ่าย—POP MART, ททท., และสยามพารากอน—จึงกลายเป็นตัวอย่างของ Public–Private Partnership (PPP) ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

Connect to Heart Experience เมื่อประสบการณ์เชื่อมถึงหัวใจ
คอนเซ็ปต์หลักของ POP LAND Thailand คือ “Experience that Connects to Heart” แนวคิดนี้สะท้อนถึงจุดเปลี่ยนของแบรนด์ POP MART ที่มอง “การตลาดแห่งความรู้สึก” (Emotional Marketing) เป็นกลยุทธ์หลัก
ภายในพื้นที่จัดงาน ผู้เข้าชมไม่ได้เพียงถ่ายรูปกับคาแรกเตอร์ แต่ได้ “มีส่วนร่วม” กับเรื่องราวของแต่ละตัวละคร ผ่านแสง สี เสียง การเคลื่อนไหว และกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์ เช่น การค้นหา MOKOKO ในเขาวงกต หรือการเลือกของสะสมลิมิเต็ดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับงานนี้
ผลลัพธ์คือการสร้าง “Brand Love” และ “Community Effect” ที่แข็งแรงในหมู่แฟน POP MART ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การเติบโตของตลาดอาร์ตทอยส์ในประเทศไทย
นอกจากนี้ POP MART ยังใช้กลยุทธ์ “Localization” อย่างแยบยล ด้วยการออกแบบรสชาติพิเศษของไอศกรีมและสินค้าคอลเลกชันเฉพาะประเทศไทย เพื่อสร้างความรู้สึก “เฉพาะที่” (Sense of Place) และเพิ่มแรงจูงใจให้คนมาเยือน
POP LAND กับบทบาทใหม่ของไทยในเวที Soft Power โลก
จากจุดเริ่มต้นของอาร์ตทอยส์ในตลาดเฉพาะกลุ่ม สู่วันนี้ที่ POP MART กำลังขยายตัวเป็น “Global POP Culture Powerhouse” การเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดงานระดับโลกสะท้อนศักยภาพของกรุงเทพฯ ในฐานะ ศูนย์กลาง Creative & Pop Culture City
สำหรับประเทศไทย “POP LAND EXCLUSIVE FESTIVE EVENT IN THAILAND” ไม่เพียงเป็นอีเวนต์ศิลปะและความบันเทิง แต่คือ โมเดลต้นแบบของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยุคใหม่ ที่ผสานระหว่างศิลปะ วัฒนธรรม และการตลาดได้อย่างลงตัว
การสร้างประสบการณ์ที่ “เชื่อมถึงหัวใจ” ไม่ได้เพียงดึงดูดผู้คน แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ภาคค้าปลีก การท่องเที่ยว ไปจนถึงธุรกิจคาแรกเตอร์และคอนเทนต์ ซึ่งเป็นแกนสำคัญของ Soft Power ไทยในอนาคต

“POP LAND EXCLUSIVE FESTIVE EVENT IN THAILAND” จัดระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 – 11 มกราคม 2569 ณ พาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ popmart.com/th และทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย POP MART Thailand






