
เป็นการต่อยอดความหลอนจากคลังสยองในโปรเจ็กต์คอลแลป “NOSE TEA x JUNJI ITO” ได้หลอนสะเทือนขวัญส่งท้ายฮาโลวีน (31 ตุลาคม 2568) เมื่อ “NOSE TEA” แบรนด์ชาชีสสัญชาติไทยที่มาแรงจัดงาน “NOSE TEA HALLOWEEN 2025” ขึ้นเป็นครั้งแรก แถมยังชวน “ฟาโรห์– เตชภณ คำสีแก้ว” ผู้ชื่นชอบนำเสนอเรื่องราวลี้ลับผ่าน YouTube ช่องดังอย่าง “The Common Thread” และ “หมอตังค์-มรรคพร ขัตติยะทองคำ” จากช่อง “Tang Makkaporn” ที่แท๊กทีมชวนกันมาเล่าคดีฆาตกรรมสยองสุดสะเทือนขวัญที่เป็นเรื่องจริงจากประเทศญี่ปุ่น แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ถึงสองเรื่องด้วยกัน

บรรยากาศ “NOSE TEA” สาขาปั๊มเชลล์ ถนนข้าวหลาม ถูกดีไซน์ให้เป็นธีมฮาโลวีนหลอน ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในงานไม่ว่าจะเป็นผู้โชคดีจากเพจ “The Common Thread” และ “Tang Makkaporn” รวมถึงลูกค้าชาว “NOSE TEA” ที่เดินทางมาร่วมส่งท้ายคืนวันฮาโลวีนนี้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง “ฟาโรห์” เป็นผู้เปิดเรื่องหลอนเรื่องแรกกับเรื่อง “Sachiko Eto (Taiko Killer) ไม้กลองสยองขวัญ เสียงสวรรค์มรณะ ที่เคยเกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีคศ.1994-1995 เป็นเรื่องราวของผู้นำลัทธิและฆาตกรต่อเนื่อง


ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้มีพลังจิต เธอ และลูกศิษย์ ช่วยกันทำพิธีกรรมประหลาดที่ประกอบด้วยการใช้อาวุธหนักและไม้ไทโกะ (Taiko Stick) ทุบตีมนุษย์ อ้างว่าเป็นการขับไล่ “ปีศาจอัปลักษณ์” โดยเหยื่อแต่ละคนต่างก็เป็นผู้ติดตามของ “Sachiko Eto” เองทั้งสิ้น ทั้งยังร่วมกันทำร้ายเหยื่อรายอื่นด้วยกันด้วยความศรัทธาในตัวผู้นำลัทธิอย่าง “Sachiko Eto นำไปสู่การค้นพบศพเน่าเปื่อยถึง 6 รายในบ้านที่ “Sachiko Eto อาศัยอยู่ เธอถูกตัดสินโทษในปี 2008 และถูกประหารชีวิตในปี 2012

ด้าน “หมอตังค์” มากับเรื่อง “Incident of Ryoko Ishida คดีการตาย เช้านั้นฉันโดนรั้วโรงเรียนทับหัว” ที่เกิดขึ้นจริงมาแล้วเมื่อปี 1990 ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวเริ่มต้นที่ Ryoko Ishida (เรียวโกะ อิชิดะ) นักเรียนวัย 15 ปี มาโรงเรียนสาย เช่นเดียวกับกลุ่มนักเรียนคนอื่นๆ แต่ด้วยกฎของโรงเรียน ครูเวรที่ได้รับมอบหมาย จะเริ่มปิดประตูหลังเสียงกริ่งดังตามเวลา นักเรียนคนอื่นๆ หยุดวิ่งเพราะรู้ว่าเข้าไปไม่ทัน แต่ Ryoko ต้องการจะเดินอ้อมผ่านคนอื่นๆ เพื่อวิ่งลอดช่องประตูเข้าไปในโรงเรียนให้ได้ จึงเกิดอุบัติเหตุเมื่อประตูที่กำลังปิดตัวลงนั้นกระแทกเข้าที่ศีรษะของเธอ ส่งผลให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุกคนพยายามจะช่วยเธอออกมา จนกระทั่งเธอถูกส่งตัวออกไปยังโรงพยาบาล และเสียชีวิตในภายหลัง คดีนี้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงกฎอันเข้มงวดว่ามันเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อจนส่งผลร้ายต่อเหล่าเด็กนักเรียนหรือไม่?

หลังการเล่า 2 เรื่องสยอง สะเทือนขวัญจบลง ทำเอาแขกผู้มีเกียรติในงานขนลุก พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้ง 2 เรื่องจริงน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และน่ากลัว กลับมีอีกหลายมุมให้เราคิดตามไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึง ความเชื่อในพิธีกรรมต่างๆ การให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ มากกว่าความเป็นมนุษยชน เป็นต้น เชื่อว่าฮาโลวีนในค่ำคืนที่ผ่านมา 2 เรื่องหลอนจากทั้ง “ฟาโรห์” และ “หมอตังค์” ที่ต่อยอดจากคลังสยองของโปรเจ็กต์คอลแลป “NOSE TEA x JUNJI ITO” จะทำให้ใครหลายคนคิด วิเคราะห์มากขึ้น ระมัดระวังตัวมากขึ้น และใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท

ส่วนแฟนตัวจริงของทั้ง “ฟาโรห์” และ “หมอตังค์” อยากฟังเรื่องราวชวนหลอน สามารถติดตามได้ที่ YouTube ช่อง “The Common Thread” และช่อง “Tang Makkaporn” ส่วนแฟนคลับสายมังงะคลังสยองสามารถเดินทางมาเช็คอินถ่ายภาพ ทำคอนเทนต์จากโปรเจ็กต์คอลแลป “NOSE TEA x JUNJI ITO” ที่ “NOSE TEA” สาขาปั๊มเชลล์ ถนนข้าวหลาม ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2568 รับรองว่าคลังสยองนี้จะหลอกหลอนจนคุณลืมไม่ลง!!





