
ข้อมูลของ JCB ระบุว่า ญี่ปุ่นยังเป็นปลายทางอันดับ 1 ของผู้ถือบัตรไทย โดยสัดส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นเติบโตถึง 20% ขณะที่จำนวนผู้เดินทางไทยไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียง 7% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ถือบัตร JCB ใช้บัตรเป็น “หลัก” ในการทำธุรกรรมระหว่างเดินทาง ไม่ใช่เพียงบัตรเสริมเพื่อรับโปรโมชั่นระยะสั้น
หลังเดินทางกลับไทย ผู้ถือบัตรยังใช้บัตรต่อเนื่องในหมวดร้านอาหารและบริการเดลิเวอรี สะท้อนภาพ “บัตรสำหรับทุกจังหวะชีวิต” มากขึ้น ไม่ได้ผูกเพียงการเดินทางต่างประเทศ
กลุ่มลูกค้าพรีเมียม โดยเฉพาะบัตร JCB Ultimate ยังเติบโตโดดเด่น โดยมีจำนวนผู้ถือบัตรใหม่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และยอดใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนกำลังซื้อของกลุ่มพรีเมียมที่ยังแข็งแรงแม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่
“ผู้บริโภคพรีเมียมยังให้ความสำคัญกับคุณค่าและคุณภาพของประสบการณ์ ทั้งความสะดวกสบายและเอกสิทธิ์เฉพาะตัว” เป็นความเห็นจาก JCB ที่มองว่าลูกค้ากลุ่มนี้ไม่เพียงเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงภาพลักษณ์และความคุ้มค่าที่ได้รับในแต่ละครั้งที่ใช้บริการ
ยอดใช้จ่ายในประเทศในหมวดที่เป็นประจำวัน เช่น แอปเดลิเวอรี ซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นผลลัพธ์ของการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจตั้งแต่ผู้ออกบัตร ไปจนถึงร้านค้าต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจุดรับชำระและออกแคมเปญส่งเสริมการใช้บัตร
ในปีที่ผ่านมา ธุรกรรมผ่านแอปเดลิเวอรีเติบโต 16% ร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น 23% และในหมวดคมนาคม เติบโต 33% จากระบบ Tap-to-Pay ที่มีการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายยูสุเกะ มัตสุย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“เรายังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายประสบการณ์การชำระเงินให้ครอบคลุมทุกจุด ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ถือบัตรได้รับความสะดวก ความปลอดภัย และความคุ้มค่าทุกครั้งที่ใช้บัตร”
เพื่อต่อยอดการเติบโต JCB เดินหน้าธุรกิจด้วยกรอบกลยุทธ์หลัก “RISE” ซึ่งประกอบด้วย
R – Redefined Targeting
I – Impactful Branding
S – Superior Privileges
E – Ecosystem Collaboration
แม้การแข่งขันในตลาดบัตรเครดิตยังสูง แต่การขยายฐานสู่ลูกค้าพรีเมียมและนักเดินทาง พร้อมการสร้างอีโคซิสเต็มการชำระเงินที่สะดวกทุกจุด จะช่วยเพิ่มบทบาทของ JCB ทั้งในฐานะบัตรท่องเที่ยวและบัตรใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปพร้อมกัน
เพื่อสื่อสารตัวตนและจิตวิญญาณของแบรนด์ JCB เปิดตัวแบรนด์คอนเซปต์ “JCB SAY HAI” สะท้อนแนวคิด “พลังแห่งการให้” (The Power of Giving) ผ่านคำว่า “ให้ – Hi – はい” ที่หมายถึง
ให้สิทธิประโยชน์แบบจับต้องได้
สื่อถึงความเป็นมิตร
ถ่ายทอดจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น

ด้าน คุณพลอยภาวัน เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารการตลาด กล่าวว่า
“ภารกิจสำคัญของเจซีบีคือการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายและส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง JCB คือแบรนด์ที่พร้อม ‘SAY HAI’ กับลูกค้าเสมอ พร้อมมอบโปรโมชัน เอกสิทธิ์ และประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง”
ทิศทางธุรกิจของ JCB ในไทยสะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อ ประกอบกับความนิยมเดินทางต่างประเทศและการบริโภคพรีเมียมที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง กลยุทธ์ RISE และคอนเซปต์แบรนด์ “JCB SAY HAI” จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว ทั้งในแง่การใช้จ่ายรายวัน การใช้จ่ายข้ามประเทศ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถือบัตรและแบรนด์ในมิติที่ลึกขึ้น





