บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ร่วมกับ กลุ่มอลิอันซ์ และ สโมสรบาเยิร์น คัดเลือกเยาวชนวัย 14-16 ปีจากทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี จากการทดสอบสมรรถภาพและทักษะทางด้านฟุตบอลให้ไปเรียนรู้ กระทบไหล่นักเตะดาวดังบาเยิร์น มิวนิค สัมผัสประสบการณ์ระดับโลกไกลถึงเยอรมนี

สำหรับปีนีถือว่าพิเศษกว่าทุกปี จากการเปิดรับสมัครเยาวชนวัย14-16 ปี ที่มีความมั่นใจในตัวเอง สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เข้าร่วมโครงการ Allianz Explorer Camp 2019 ค่ายเยาวชนระดับโลกที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนจากทั่วโลกร่วมทำกิจกรรม โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง ฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกายกับโค้ชบาเยิร์น มิวนิค  พร้อมเยือนสนามอลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งมีเยาวชนตัวแทนประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือก 3 คนจะได้รับประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต ร่วมกับเยาวชนกว่า 50 คน จาก 20 กว่าประเทศทั่วโลก ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

สันต์ฐิติ เปรียบปรางค์ “โชกุน” นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนรักษ์วิทยา 1 ใน 3 คนที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้เล่าว่า ทราบข่าวจาก พี่ๆ ในโครงการนี้ ที่ไปเยี่ยมโรงเรียนว่า โครงการนี้ เป็นทุน 100% ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และยังได้พบนักเตะสโมสรบาเยิร์น มิวนิค   

การสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ เด็กทุกคนต้องอัดคลิปวิดีโอเพื่อแนะนำตัวในหัวข้อ “มองเห็นตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร?” สำหรับ โชกุน ได้จัดทำคลิปที่ตนเองแร็ปด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่งเองตั้งแต่ 3 ทุ่มถึง ตี 2  เพื่อ บอกเล่าว่า อยากทำเพลงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น พูดถึงความเท่าเทียมของเพศ สีผิว ต่อมาเมื่อผ่านคัดเลือก 20 คนก็ได้เข้าค่ายที่ประเทศไทย ทำกิจกรรมต่างๆ  ทั้งระดมความคิด  ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ รู้จักและเรียนรู้การทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ที่มีที่มา หลากหลายและมีทักษะที่แตกต่างกัน เปิดประสบการณ์ชีวิต และเมื่อ ได้รับคัดเลือกเป็น 1ใน 3 ที่ได้รับคัดเลือก ก็ยิ่งจะได้เรียนรู้ เปิดโลกทัศน์ มุมมองใหม่ๆ มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการฟังสำเนียงภาษาอังกฤษที่หลากหลายจากเพื่อนๆ หลายประเทศ

“สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราได้เรียนรู้ตามความฝัน ความกล้า ทัศนคติที่ดีและได้มุมมองความคิด เปิดโลกของเรามากยิ่งขึ้น  โครงการปีนี้ดีมาก เพราะไม่ได้จำกัดเฉพาะนักฟุตบอลแต่เปิดกว้างให้ทุกคนที่อยากเข้าร่วม เพียงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและมี ทัศนคติที่ดีอยากเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่  อยากให้โครงการเปิดโอกาสให้แก่เด็กมากขึ้นและเพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้น

ทุกคนที่สนใจอยากเข้าโครงการนี้ ขอให้กล้าออกจากพื้นที่ของตนเอง ออกจาก Comfort Zone ไม่ต้องกลัวอะไร ควรทำอะไรที่อยากทำ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร ความฝัน ความกล้าคิดกล้าลงมือทำ ล้วนเป็นทัศนคติ มุมมองที่ได้จากการร่วมเข้าโครงการนี้”    

ก้องภพ สุพุทธิพงศ์ “ไบรท์” นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เล่าว่า “รู้จักโครงการนี้จากคำแนะนำของแม่และสนใจ เพราะเป็นคนชอบฟุตบอลถึงจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอล อีกทั้งโครงการในปีนี้ก็เปิดกว้างให้แก่เด็กทุกคนที่สนใจเข้าร่วมได้ ซึ่งตนได้ทำวิดีโอส่งเข้าสมัครเกี่ยวกับการอยากผลิตสิ่งใหม่ที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก โดยยึดต้นแบบอย่างมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ในการสร้างสรรค์เฟสบุ๊ค จนเป็นที่รู้จักและใช้กันทั่วโลก อยากสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์แก่ทุกคน เมื่อผ่านการคัดเลือกเข้าค่ายที่ประเทศไทย ทำให้ได้เรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษ ความรู้จากนอกห้องเรียน และทักษะอื่นๆ โดยเฉพาะการปรับตัวเข้ากับคนที่หลากหลาย ยิ่งเมื่อได้ผ่านคัดเลือกไปเข้าค่ายที่ เยอรมนี เจอเพื่อนจากหลายประเทศก็ทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ การใช้ชีวิตและทำให้มั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เนื่องจากเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร ไม่มีใครตัดสินเรื่องพูดถูกพูดผิด หรือตำหนิคนที่พูดไม่ได้ แตกต่างจากการเรียนในชั้นเรียนก็ มักถูกตำหนิหากพูดไม่ได้หรือพูดผิด

“ที่ค่าย หากเราพูดผิดเขาก็จะช่วยแปล ช่วยแก้คำให้ถูกต้อง ได้รับมิตรภาพที่ดี รู้จักการให้และได้มิตรภาพที่สวยงามโครงการนี้ได้ให้ประสบการณ์ชีวิตอย่างที่เราคาดหวังไว้ ไม่ว่าจะจากเพื่อนใหม่ กิจกรรมใหม่ และทำให้จุดมุ่งหมายชีวิตชัดเจน กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ และกล้าที่จะมีจุดมุ่งหมาย”ไบร์ท กล่าว

 “ไบร์ท”ใฝ่ฝันอยากเป็นแพทย์ ซึ่งก็เหมือนกับเด็กทั่วไปที่เป้าหมายอาจจะมีความคลาดเคลื่อน แต่เมื่อได้เข้าร่วมโครงการ Allianz Explorer Camp2019 ทำให้เป้าหมายชัดเจนมากขึ้น มีความกล้าที่จะฝัน มีความกล้าในการทำอะไรใหม่ๆ โฟกัสไปยังจุดมุ่งหมาย

กนล มงคลปทุมรัตน์ “นล” นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย  เล่าว่า รู้จักโครงการนี้จากแม่และพี่ๆ ในโครงการที่ได้ไปโรดโชว์ที่โรงเรียนและสนใจ เพราะเป็นแฟนคลับของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค อยู่แล้ว ยิ่งทำให้เกิดความกระตือรือร้น และอยากเข้าร่วมทำฝันให้เป็นจริง  จึงได้อัดวิดีโอเรื่องอนาคตของตนเอง คือ การพากย์บอล และได้พบกับนักบอลที่เป็นไอดอลของตนเอง เพราะต่อให้ไม่ได้เป็นนักฟุตบอล แต่ความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล รวมถึงตัวนักฟุตบอลเป็นแรงบันดาลใจทำให้กล้าทำสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

“ค่ายนี้ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวมากมาย โดยเฉพาะการได้มิตรภาพจากเพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่เพียงมาใช้ชีวิต เรียนรู้ร่วมกันในระยะเวลาสั้นๆ แล้วจบไป แต่ยังทำให้ได้เครือข่ายเพื่อนที่ดีที่ยังคงติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ที่สำคัญ ทำให้รู้ว่าแต่ละวัฒนธรรม การใช้ชีวิต การสื่อสารของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ได้มุมมอง ของการทำงานร่วมกันของเพื่อนแต่ละประเทศที่กล้าคิด กล้าแสดงออกต่างกับ เพื่อนคนไทยที่มักจะ ไม่ค่อยกล้าพูดหรือแสดงความคิดเห็น  รวมถึงยังทำให้กล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เพราะต่อให้ผมเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียน แต่เมื่ออกนอกห้องเรียนก็ไม่ได้ใช้ เพื่อนคนไทยทุกคนก็พูดไทยกัน”  

“อยากให้ทุกคนเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองสมัครเข้าร่วมโครงการ Allianz Explorer Camp เป็นโครงการ มีประโยชน์ และเพิ่มเติมประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สามารถไปหาซื้อที่ไหนได้ อยากให้ทุกคนได้ลองลงมือทำ ลงมือสมัคร เพราะการไม่ลองก็ถือว่าเราตัดสิทธิ์ตัวเองไปแล้ว ผม อยากขอบคุณไปทาง อลิอันซ์ อยุธยา ที่ได้จัดโครงการดีๆ เหล่านี้ ให้เด็กไทยได้มีโอกาส ได้เปิดโลกทัศน์ ได้เห็นความฝัน และมีความกล้าในการลงมือทำสิ่งต่างๆ ที่สำคัญทำให้กล้าพูดภาษาอังกฤษ มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น”  

ตลอด 10 กว่าปี “อลิอันซ์ อยุธยา” มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคม เน้นพัฒนาเยาวชนไทย ภายใต้แนวคิด“ปันความรู้สู่เด็กไทย”ไม่ว่าจะเป็น กีฬา เทคโนโลยี การเงิน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและ อื่นๆ เพราะตระหนักว่าเยาวชนไทยมีความสามารถหลากหลาย และควรได้รับโอกาสในการการพัฒนาต่อยอดไปได้