ทีเอ็มบีผนึกธนชาต วางเป้าหมายขับเคลื่อนองค์กรสร้างนิยามใหม่วงการธนาคารมุ่งสู่ ONE DREAM
28 Jan 2020

 

ทีเอ็มบีผนึกธนชาตเป็นหนึ่งเดียว มุ่งสู่ ONE DREAM สร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคาร สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น (Financial Well-being) ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ภายใต้ ONE TEAM ที่แข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียว ร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน ตั้งเป้าหมาย ONE GOAL เป็นธนาคารที่คนชื่นชอบและบอกต่อมากที่สุด เปิดตัวทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่ มุ่งเป็นที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญหนุนด้วยเทคโนโลยี วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล (Data-Driven Strategy) เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการทางการเงินที่ดีที่สุด รองรับความต้องการของลูกค้าทุกช่วงชีวิต และสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกช่องทาง ย้ำให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมกันโดยเฉพาะเรื่อง Health-Wealth-Skill เพิ่มทักษะพนักงานให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ที่แท้จริงและมีคุณภาพที่สุด

 

 

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี เปิดเผยว่า การดำเนินการตามแผนการจับมือทางธุรกิจรวมกิจการอย่างบูรณาการของทั้งสองธนาคารก้าวข้ามความท้าทายมาได้อย่างราบรื่นและมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งในปีนี้ ทั้งสองธนาคารจะเริ่มผนึกกำลังหลอมรวมทีมงานจากทั้งสองฝั่งให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้ ONE DREAM, ONE TEAM, ONE GOAL  เพื่อลูกค้าของทั้งสองธนาคาร โดยเป้าหมายการรวมกิจการในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง แต่ผลลัพธ์ต้องเท่ากับสาม เพื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าของทั้งสองธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตของตนเองได้

โดยต้องการสร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคารที่มุ่งเน้นสร้างประโยชน์ให้กับผู้คน เป็นผู้นำวงการธนาคารที่ใส่ใจลูกค้า กล้าที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ลูกค้าตลอดทุกช่วงชีวิต ผ่านที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและหนุนด้วยเทคโนโลยี

 

“ความมุ่งหวังของเราคือ ต้องการที่จะสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี หรือ Financial Well-being ให้กับลูกค้าและคนไทยทั้งประเทศ เพราะเราเชื่อว่ามันคือรากฐานที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ เมื่อเรามี ONE DREAM ที่เป็นจุดหมายเดียวกันแล้ว และเราก็มี ONE TEAM ที่จะร่วมกันทำให้ฝันของเราเป็นจริง ดังนั้น การรวมกันในครั้งนี้ สิ่งมีค่าที่สุดที่เราได้จึงไม่ใช่สินทรัพย์ใดๆ แต่คือทีมงานชั้นยอดที่จะช่วยกันขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในวันนี้เป็นโอกาสดีสำหรับการแนะนำทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่ที่แข็งแกร่ง และพร้อมจะ มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันในการร่วมกันสร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคาร เพื่อตอบโจทย์ในการสร้างชีวิต  ทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งหวังว่าจะทำให้ธนาคารใหม่นี้ขึ้นแท่นเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบและบอกต่อ มากที่สุด (The Most Advocated Bank)”

 

 

ทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่นี้ เป็นทีมผู้บริหารจากทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความเข้าใจลูกค้าคนไทย และมีความเชี่ยวชาญระดับโลก เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว เชื่อมั่นว่าจะนำพาองค์กรไปยังเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งประกอบด้วย นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่, นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย, นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์, นางมารี แรมลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมลูกค้ารายย่อย, นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ, นายฮัน คริเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารความเสี่ยง, นางประภาสิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน, นายมาร์คัส โดเลงก้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีและปฏิบัติการ, นางวิจิตรา ธรรมโพธิทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล, นางกาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ซึ่งมีผลตั้งแต่ต้นปี และนางภิตติมาศ สงวนสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตรวจสอบ จะมีผลในไตรมาส 2 ปี 2563

 

 

นางมารี แรมลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมลูกค้ารายย่อย กล่าวว่า การสร้างคุณภาพชีวิตทางการเงินให้แก่ลูกค้าจะยึดหลักสำคัญคือ ช่วยให้ลูกค้ามีการใช้จ่ายที่เหมาะสมกับตัวเองผ่านช่องทางที่สะดวกสบาย รู้จักการออมและการลงทุนที่เพียงพอ มอบความคุ้มครองที่อุ่นใจ และการกู้ยืมเท่าที่จำเป็น โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เกิดจากการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ให้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงโดยยึดหลักความปลอดภัยของข้อมูล ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าและใช้เพื่อประโยชน์ของลูกค้าเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างโซลูชันที่ตรงใจสำหรับแต่ละคนโดยเฉพาะที่สำคัญต้องส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันใจสอดรับกับความต้องการ รวมทั้งมอบรางวัลที่ทำให้ลูกค้าอุ่นใจด้วย ตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้ารายได้ระดับกลางที่มีครอบครัว ค่าใช้จ่ายสูงเพราะต้องดูแลทั้งครอบครัว แต่ก็อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี เรามีโซลูชันที่นำมาตอบโจทย์ให้ชีวิตทางการเงินดีมากยิ่งขึ้น

โดยลูกค้าสามารถตั้งเป้าหมายและฝากเงินเพื่ออนาคตลูก ผ่านบัญชีเพื่อออมโนฟิกซ์ ดอกเบี้ยสูง 1.6% ออมอย่างมีวินัยผ่านการเตือนเพื่อออมเมื่อถึงเวลาที่กำหนด  หายห่วงในยามฉุกเฉินหรือเร่งด่วนจากภาระค่าเทอมลูก หรือเข้าโรงพยาบาลด้วยสินเชื่อ Instant Loan หากลูกค้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันยังได้เงินประกันสูงสุด 3 ล้านบาทผ่านบัญชีเพื่อใช้ออลล์ฟรีที่มอบฟรีประกัน 20 เท่าจากเงินฝาก และเพื่ออนาคตที่ดีกว่าด้วยแผนการลงทุนอัตโนมัติที่ช่วยนำเงินจากการออมไปลงทุน

 

 

ด้านนายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ขับเคลื่อนวงการสินเชื่อรถยนต์ การให้ความสำคัญเรื่องการให้กู้ยืมอย่างมีคุณภาพ (Healthy Borrowing) ของสินเชื่อรถยนต์  จะช่วยขับเคลื่อนชีวิตทางการเงินของผู้คนให้ดีขึ้น และจะช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้

 

“คำว่าชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในมิติของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์นั้น แม้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์เงินกู้แต่เรามองออกภาพเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือสินเชื่อเช่าซื้อรถเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นหรือนำไปประกอบกิจการ หรือแม้แต่การนำรถมาแลกเงินเพื่อเป็นทุนให้กับชีวิตในด้านใดด้านหนึ่ง ก็เป็นการขับเคลื่อนให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในขณะเดียวกัน เราเองก็ปล่อยสินเชื่อ แบบมีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้ายังคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันโดยใช้ Scoring Model ที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้และการปล่อยกู้เพื่ออนุมัติสินเชื่อที่เหมาะสม เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้า ทั้งเป็นการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ได้ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย

นอกจากนี้ ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ และเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่หลากหลายและครบทุกบริการ เราจึงใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล (Data-Driven Strategy) เพื่อนำมาซึ่ง บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และคู่ค้า เช่น Cross Area Booking ทำความเข้าใจการขายของคู่ค้าในช่องทางออนไลน์ ที่มีการให้บริการข้ามพื้นที่ เพื่อให้การขายมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากขึ้น และ ALDX ระบบปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าตั้งแต่สมัครสินเชื่อ ติดตามผลอนุมัติ จนกระทั่งบริการและสิทธิประโยชน์จากเรา” นายป้อมเพชรกล่าว

 

 

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย กล่าวว่า การรวมสองธนาคารจะทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านราย ธนาคารต้องดูแลรับผิดชอบให้ดีที่สุด โดยธนาคารเองมีช่องทางบริการมากมาย เช่น ช่องทางสาขา เครื่อง ATM / ADM โมบายแอป Contact Center หรือ Relationship Manager ความท้าทายคือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์จากการทำธุรกรรมของธนาคารที่เชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ ในทุกช่องทาง และได้รับความสะดวกสบายจากการมีหลากหลายช่องทาง และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา (anywhere, anytime) โดยสิ่งสำคัญที่ธนาคารต้องทำคือการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้เป็นอาวุธสำคัญในการนำเสนอโซลูชันที่  ตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการที่สุด ในเวลาที่เหมาะสม และเป็นการนำเสนอ ให้คำปรึกษาและข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นด้วย

 

“ในบรรดาช่องทางบริการทั้งหลาย พนักงานสาขาทั้งหมดคือหน้าบ้านและถือเป็นด่านแรกที่จะพบกับลูกค้า จึงจำเป็นที่จะต้องมีทักษะในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่แท้จริงและมีคุณภาพที่สุดโดยเราจะมีการอบรมอย่างเข้มข้นและโค้ชชิ่งอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างให้พนักงานสาขากลายเป็นที่ปรึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อจะส่งต่อและแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมและตรงใจลูกค้าได้มากที่สุด” นายอนุวัติร์กล่าว

 

 

ขณะที่ นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตแบบกระจุกตัว และมีความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง ธุรกิจขนาดเล็ก (SME) ที่มีจำนวนมากถึง 3 ล้านบริษัท และมีการจ้างงานสูงถึง 85% กลับให้สัดส่วนของรายได้ต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่าบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีเพียง 6,000 บริษัท ดังนั้น การจะช่วยเศรษฐกิจไทย ช่วยธุรกิจขนาดเล็กให้มีชีวิตทางการเงินที่ดี ธนาคารต้องเริ่มจากธุรกิจขนาดใหญ่โดยการปล่อยสินเชื่อที่ยั่งยืน นั่นคือ มอบแหล่งเงินทุนให้ธุรกิจอย่าง  ถูกประเภท ถูกเวลา ไม่เกินตัว และตรงความต้องการจริง และธนาคารต้องนำเสนอธุรกรรมการเงินที่ตอบโจทย์ และพร้อมเชื่อมต่อ eco-system ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงเล็กทั้งด้านข้อมูลและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้การทำธุรกรรมการเงินสะดวกและการบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นช่วยให้ลูกค้าธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

“นอกจากเรื่องของธุรกิจ ธนาคารสามารถช่วยให้ลูกค้าธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้อีก โดยดูแลในเรื่องบุคลากร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเจริญเติบโตของธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่เจ้าของธุรกิจ พนักงานและครอบครัว ผู้คนรอบตัว ชุมชน รวมทั้งสังคม เพราะธุรกิจจะเดินหน้าได้ พนักงานต้องมีความสุข คนรอบตัวมีความสุข  มีผลตอบแทนที่ดี รายได้ ที่เหมาะสม นั่นจึงเรียกว่า มีชีวิตทางการเงินที่ดีในเชิงธุรกิจอย่างแท้จริง” นายเสนธิปกล่าว

 

 

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า เป้าหมายหลักของธนาคารในตอนนี้คือ การรวมเป็นหนึ่งเดียวภายในกรกฎาคม 2564 โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับบริการเป็นหลัก ว่าต้องไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จึงได้มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างดี โดยธนาคารมีแผนที่จะเริ่มทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละธนาคารให้ลูกค้าของอีกธนาคารได้รู้จักและทดลองใช้ และกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการ Co-Location/ Co-Brand Branch ที่เป็นสาขาร่วมระหว่างสองธนาคาร ซึ่งปีนี้วางแผนจะเปิดทั้งหมด 90 สาขา ครอบคลุมจังหวัดหลักๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้นในการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของทั้งสองธนาคาร ขณะที่ในเดือนมีนาคม ลูกค้าทั้งสองธนาคารจะได้รับความสะดวกจากการใช้บริการ ATM /  ADM จำนวนกว่า 4,700 เครื่อง ฟรีค่าธรรมเนียมฝาก ถอน โอน ลูกค้าทีเอ็มบี ทัช สามารถทำรายการกดเงินไม่ใช้บัตรจากเครื่องของธนชาตได้ และบิลสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิตของธนชาต ก็สามารถชำระได้ที่เครื่องของทีเอ็มบี

 

“ส่วนพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กร ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ในเรื่องของสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Employee Well-being) ซึ่งทีมบริหารได้คำนึงถึง 3 สิ่งด้วยกัน ได้แก่ Health ด้วยการมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่ให้น้ำหนักกับเงินก้อนช่วยเหลือฉุกเฉินยามเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งจะสร้างผลกระทบที่มากกว่า ด้วยจำนวนเงินที่ต้องใช้จ่ายมากกว่าการเจ็บป่วยปกติ ในส่วนของ Wealth เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งทางการเงินในระยะยาวสำหรับพนักงาน

โดยเราให้เงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ในอัตราที่สูงกว่าตลาด ให้พนักงานสามารถเก็บออมได้เพียงพอไว้ใช้ยามเกษียณ และ สุดท้ายเป็นเรื่อง Skill หรือการพัฒนาทักษะของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากดิจิทัลเทคโนโลยี (Digital Disruption)” นายประพันธ์กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ทางธนาคารจะมีการสื่อสารเรื่องความก้าวหน้าของการรวมกิจการเป็นระยะ การคัดเลือกผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ จากทั้งสองธนาคารเพื่อนำเสนอต่อลูกค้า ธนาคารจะคำนึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก การรวมกิจการในครั้งนี้ จะสร้างนิยามใหม่ของวงการธนาคาร เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง

 

[อ่าน 1,607]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซูเปอร์สปอร์ต X อาดิดาส จัดงานวิ่งกลางกรุง 'Supersports 10 Mile Run Series 2024 Bangkok Presented by adidas'
ทรู คอร์ปอเรชั่นชวนเที่ยวใต้แล “เกาะลับ สัญญาณล้ำ” เมืองสุราษฎร์ฯ สวยจังฮู้
มาสด้าเผยเทคโนโลยีแห่งอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าพลังโรตารี่ Mazda MX-30 e-SKYACTIV R-EV
นีเวีย ซัน จับมือ วัตสัน “เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย”
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปลื้ม “โครงการมิวนีค เจริญกรุง” ยอดขายปังทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายใน 1 วัน
HARLEY-DAVIDSON® เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 ชูไฮไลท์รุ่น CVO™ Road Glide™ ST
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved