“สยาม ไวเนอรี่” สานต่อความสำเร็จ “โครงการติดตั้งโพรงรังเทียมของนกเงือกจากถังไวน์”
21 Feb 2020

 

กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ ตอกย้ำความสำเร็จ “โครงการทดลองพัฒนาโพรงรังเทียมของนกเงือกจากถังไวน์เก่า” นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หลังติดตั้งในป่าธรรมชาติหลายพื้นที่ มีนกเงือกเข้าทำรังต่อเนื่อง พร้อมสานต่อเจตนารมณ์รักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างสมดุลแก่ผืนป่าทั่วประเทศ  

 

ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 ที่กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ ได้ร่วมกับโครงการศึกษานิเวศวิทยาของนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้การดูแลของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. พิไล  พูลสวัสดิ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการนำวัสดุเหลือใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างถังไวน์เก่าที่ไม่ใช้แล้วนำมาดัดแปลงปรับเปลี่ยนเป็นโพรงรังเทียมของนกเงือก ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์ชาคร ผาสุวรรณคณะมัณฑนศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ก่อเกิดเป็นความสำเร็จในการเพิ่มโอกาศในการขยายพันธุ์ทดแทนโพรงจากป่าธรรมชาติซึ่งต้องเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันนับว่าหาได้ยากจากป่าธรรมชาติ จากการขาดโพรงในการขยายพันธุ์จึงเป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้นกเงือกลดจำนวนจนอยู่ในเกณฑ์ที่จะสูญพันธุ์ ที่รองลงมาจากการล่าของมนุษย์

 

 

ทั้งนี้ความสำเร็จของโครงการนับเป็นครั้งแรกของโลกที่นำถังไวน์เก่าซึ่งเป็นของใช้แล้วในภาคอุตสาหกรรมมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อนกเงือกและติดตั้งในป่าธรรมชาติถือเป็นนวัตกรรมแห่งการอนุรักษ์ ที่เอื้อประโยชน์แก่ระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยในปีที่ผ่านมาโครงการได้ทำการติดตั้งโพรงรังเทียมในหลายพื้นที่ อาทิในป่าบริเวณไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ ของบริษัท สยาม ไวเนอรี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, สถานีวิจัยสัตว์ป่า ป่าพรุ ป่าฮาลา-บาลาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส, สวนป่าพระนามาภิไธย ภาคใต้ ส่วนที่ 2 (ตชด.ที่ 445 จ.ยะลา)ในอุทยานแห่งชาติบางลาง อ.ธารโต จ.ยะลา, อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส,โครงการพระราชดำริสวนป่าหาดทรายใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

 

 

จากผลสำเร็จของโครงการดังกล่าวนำมาซึ่งความสมบูรณ์ของผืนป่าและระบบนิเวศ เพราะข้อมูลจากมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือกระบุว่า นกเงือกคือนกปลูกป่าตัวจริง จากการกินผลไม้ป่าเป็นอาหารหลักมากกว่า 100 ชนิด และแต่ละตัวจะกินผลไม้มากถึง 100 เมล็ดต่อวัน การกินแล้วคายเมล็ดทิ้งในป่าของนกเงือกจึงเป็นการปลูกป่าโดยธรรมชาติ แม้เมล็ดพันธุ์ที่คายออกมาจะมีโอกาสงอกเป็นกล้าไม้และเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ได้เพียงร้อยละ 5 แต่ด้วยปริมาณการกินและคายที่มากก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้มากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งพฤติกรรมการบินในระยะทางที่ไกลของนกเงือกยังทำให้มีโอกาสในการนำพาเมล็ดพันธุ์ต้นไม้จากผืนป่าหนึ่งไปกระจายพันธุ์ยังถิ่นอื่นด้วย ฉะนั้นการคงอยู่และเพิ่มขึ้นของจำนวนนกเงือกจึงนับว่าเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าได้เป็นอย่างดี

[อ่าน 1,978]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LINE MAN ผนึก ช่องวัน 31 พลิกโฉมประสบการณ์ดูซีรีส์ 
ด้วย “Taste-perience”
Chang Canvas เปิดพื้นที่ Brewhouse สุดไอคอนิก ส่งต่อความสุขเทศกาลดนตรีระดับโลก
ทรู ผนึกกำลังการีนา เปิดศึก RoV สุดมันส์ทั่วไทย!
หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ร่วมออกบูธในงาน Set in the City 2025
โปรแกรมตรวจรับคอนโด ผู้ช่วยที่ทำให้การตรวจรับเป็นเรื่องง่ายขึ้น
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย รุกตลาด “High Net Worth” ชูแนวคิด “PRULegacy: Your Mark Lives On”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved