GMM MUSIC เปิดกลยุทธ์การเติบโต ปี 62 ทำกำไร 472 ล้านบาท เติบโต 13.2%
12 Mar 2020

 

ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจต้องเผชิญกับแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว ภาวะการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่ถดถอยและกระแส Disruption ที่ถาโถมใส่ทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ ธุรกิจเพลง ที่ได้รับผลกระทบหนักทั่วโลกเช่นกัน แต่สำหรับ “จีเอ็มเอ็ม มิวสิค” สามารถฝ่าวิกฤต และสร้างการเจริญเติบโต แบบสวนกระแสทำรายได้รวมสูงถึง 4,014 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 10 ปี มีกำไร 472 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกำไรที่ 13.2% แกรมมี่รอดแล้ว !!!

 

 

ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงความสำเร็จของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ในครั้งนี้ ได้แรงส่งสำคัญจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ที่ถือได้ว่าเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญของแหล่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งชี้ถึงโอกาสของการเจริญเติบโตในระยะยาวประกอบด้วย 

  • ธุรกิจ Digital Music เติบโตสูงถึง 31% และมียอดรายรับสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งแผนก ทะลุ 1 พันล้านบาทเป็นครั้งแรกโดยมีรายรับที่ 1,123 ล้านบาท
  • ธุรกิจ Showbiz เติบโตขึ้น 36% มีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจเพลง โดยมียอดรายรับที่ 524 ล้านบาท
  • ธุรกิจการบริหารลิขสิทธิ์ เติบโตขึ้น 25% และมียอดรายรับที่ 313 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่ได้ทำการบริหารจัดการ

 

สัดส่วนรายได้ของ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ในปี 2562 

“ไม่มีความสำเร็จใดที่เกิดขึ้นได้ด้วยคนเพียงคนเดียวผมขอขอบคุณพี่น้องชาวจีเอ็มเอ็ม มิวสิคทุกคน ศิลปิน ทีมงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกชีวิต ที่ทุ่มเทสุดพละกำลังที่ทำให้การเติบโตอย่างสวนกระแสในครั้งนี้ให้เกิดขึ้นได้อันที่จริงแล้วความสำเร็จนี้เป็นเพียงแค่การผ่านพ้นบันไดขั้นที่ 1 เพียงเท่านั้น ซึ่งผมเคยกล่าวเอาไว้ในวันที่เข้ารับตำแหน่งว่า ความสำเร็จที่ยั่งยืน คือ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดในความรับผิดชอบนี้ การเดินทางอาจไม่สวยงามและไม่สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น แผนยุทธศาสตร์ของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค จึงได้ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นเป็นบันได 3 ขั้นที่ต้องปีนขึ้นไปเพื่อการเติบโตสู่อนาคตที่มั่นคง สดใส และยั่งยืน”

 

 

 

ความสำเร็จของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค เกิดขึ้นได้เพราะกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบบันได 3 ขั้น บันไดขั้นที่ 1 คือสิ่งที่ได้ทำมาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ได้แก่

  • Restructure การปรับโครงสร้าง ต้องเป็นการปรับเพื่อร่วมมือกันระหว่างความเชี่ยวชาญแบบเดิม และความเชี่ยวชาญแบบใหม่ ให้ทุกคนทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัดมากที่สุด
  • Refocus การทำสิ่งเดียวให้ดีที่สุด จัดระบบทีมงานและองค์กรให้เน้นความสำคัญกับสิ่งเดียว แล้วทำให้ดี เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  • Restabilize การสร้างเสถียรภาพของรายได้

 

 

ในปี 2563 นี้ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค กำลังก้าวเข้าสู่กลยุทธ์บันไดขั้นที่ 2 เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยมีทั้งหมด 7 องค์ประกอบ ดังนี้

1.New Content Strategy & New Artist Development  

  • การสร้างศิลปินและแนวเพลงให้มีประสิทธิภาพทุกหมวดหมู่ ครอบคลุมทุก Segment การลงทุนทำ Full album จะถูกนำกลับมาทำอย่างเต็มรูปแบบ ทุกแนวเพลงดนตรี โดยแบ่งเป็น Mega album และ Digital album ซึ่งการทำ Full album ดังกล่าวบริษัทไม่ได้ยึดติดการทำแต่ศิลปินเฉพาะในจีเอ็มเอ็ม มิวสิค แต่หมายถึงความสามารถในการร่วมมือได้กับศิลปินทุกค่ายทั้งตลาดด้วย Business Model ที่เป็นธรรมและมีความยืดหยุ่นในการบริหารลิขสิทธิ์  นอกจาก Segment POP, Rock, ลูกทุ่ง และ Indie แล้ว เราจะเพิ่ม Sub Segment อย่างเช่น Original Sound Track ให้กับละครและภาพยนตร์ทั้งตลาด เปิด Segment Big name, Teen Idol, Superstar และ Hip Hop

 

  • New Artist Development การสร้างศิลปินใหม่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เพื่อ Recruit Develop และออก Album ให้กับศิลปินรุ่นใหม่ ทั้งนี้ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จึงมีแผนการที่จะร่วมมือกับบริษัทพัฒนาศิลปินระดับโลกเพื่อยกระดับคุณภาพให้กับศิลปินรุ่นใหม่ให้มีทักษะและความสามารถที่สามารถแสดงผลงานได้ในระดับสากล

 

2.Showbiz Expansion

ขยายธุรกิจ Showbiz อย่างไร้ขีดจำกัด โดยเราสามารถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบของการขยาย ได้ดังนี้

  • ขยายธุรกิจ Music Festival ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ยุทธศาสตร์ ทุกภาค ทั่วประเทศ
  • ขยายธุรกิจ Solo Concert ครอบคลุมทั้งศิลปินปัจจุบันที่มีความพร้อม ศิลปินหน้าใหม่ที่ต้องการโอกาสและศิลปินกลุ่มโทรที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น
  • ขยายธุรกิจ Theme Concert ด้วยการร่วมมือกับ Creator ใหม่ๆที่มาจากอุตสาหกรรมต่างๆที่หลากหลาย
  • ขยายธุรกิจสู่การเป็น Promoter ในการจัด International Showbiz ในประเทศไทย

 

3.Artist Product

การสร้างสินค้าศิลปินนั้นต้องพูดให้ชัดเจนเลยว่าสินค้าที่พูดอยู่นี้ไม่ใช่ Merchandising แต่เป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ของศิลปินที่ศิลปินเป็นเจ้าของจริงๆได้รับกำไรขาดทุนจริงๆ โดยที่มีจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นผู้ลงทุน ซึ่งจะทำการเปิดตัวบริษัทใหม่ในเร็ววันนี้ ที่สำคัญการสร้างผลิตภัณฑ์นี้จะโฟกัสเฉพาะศิลปินที่อยู่ภายใต้สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เท่านั้น โดยที่ผ่านมาได้ทำการทดลองออกสินค้าศิลปินไปแล้ว 1 ตัวเมื่อปีที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และปีนี้จะต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยการออกสินค้าใหม่อีก 4SKUs ซึ่งคาดว่าการเติบโตของธุรกิจประเภทนี้จะสามารถทำตัวเลข 9 หลัก ได้ภายใน 2 ปี

 

4.Industry Aggregation

เดินหน้า Aggregate รวบรวมพันธมิตรในวงการเพลงเพื่อสร้างประโยชน์ทางรายได้จากทุกช่องทางการค้าร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ช่องทาง Digital Platform, Karaoke Platform หรือการสร้างโปรเจกต์ร่วมกันก็ได้ ซึ่งการ Aggregate นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยปัจจุบันทางจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ได้ร่วม Aggregate กับค่ายเพลงต่างๆเกือบทุกค่ายแล้วเพียงแต่จะอยู่ในธุรกิจของการทำ MP3 เพียงเท่านั้น ฉะนั้นการเดินหน้าจับมือกับทุกค่ายเพลงก็เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันและยังสามารถสร้างรายได้ที่สูงขึ้นให้กับค่ายเพลงทุกค่าย

 

5.Media Partnership

ปีนี้เราจะร่วมมือกับสื่อชั้นนำทั่วประเทศแบบครบวงจร รวมถึง Platform รายใหญ่เพื่อการขยายฐานการเข้าถึงและการรับรู้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี, สื่อวิทยุ, สื่อ Outdoor และสื่อโรงภาพยนตร์

 

6.M&A

Mergers & Acquisitions เป็นแผนยุทธศาสตร์การเข้าซื้อกิจการที่สามารถสร้างโอกาสในการเกิด Leap Growthเพื่อการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดทางธุรกิจโดยบริษัทมีเป้าหมายที่ชัดเจนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะเข้าซื้อภายในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้

 

7.Data Creativity

ปัจจุบัน จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พัฒนาเรื่องของการทำ Data และมีทีม Data Scientist ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเพลงโดยเฉพาะ เรามองเรื่องของ Data ในมุมของความสร้างสรรค์มากกว่าแค่เพียงสถิติและความเป็นไปได้ เราสามารถหยิบเรื่องของ Data มาสร้างสรรค์โอกาสมากมายในการทำการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงและเรากำลังจะเดินเข้าไปสู่ในเรื่องของการทำ Personalization เพื่อทำให้เกิด New Product Experience มากขึ้น

เรื่องของ Data Prediction ถูกนำมาใช้ในการคำนวณโอกาสของการสร้างเพลงฮิต การสร้าง Concert ที่น่าจะ Sold out หรือการสร้างยอดขายของ Merchandising ที่แม่นยำ เป็นรูปธรรม แถมยังสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงต่อการตัดสินใจซื้อของแฟนคลับ รวมถึงเรื่องพฤติกรรมของแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินมากกว่า 1 คน หรือ Brand สินค้าและ Media ที่แฟนคลับศิลปินชื่นชอบ จึงทำให้เกิดประโยชน์และก่อให้เกิดการซื้อขายทั้งระบบการค้า

 

 

ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ทิ้งท้ายไวว้ว่า 

“ถึงแม้วันนี้เราจะมียอดการเจริญเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีติด แต่เราจะไม่ประมาทโดยเด็ดขาด เพราะคุณไพบูลย์ ได้ย้ำถึงหลักคิดหนึ่งที่ว่า “อย่าผูกขาดรสนิยม อย่าย่ามใจในความสำเร็จ” สิ่งที่เราเฝ้าระวังจึงไม่ใช่แค่เรื่องของ Disruption หรือเรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของ “คน” เราเป็น People Business เราจะสำเร็จได้ล้วนต้องมีคนเก่งอยู่รอบตัวที่มีความสามารถ มีแรงใจ มีความกระหาย เราต้องคอยสังเกตการณ์และส่งเสริมศักยภาพของคนทำงาน บริษัทจะมีความเป็นเลิศได้ ทุกยุทธศาสตร์ที่วางไว้เป็นแค่เพียงความคิด คำพูด หรือเพียง Presentation ในห้องประชุมเท่านั้น เป้าหมายจะสำเร็จลุล่วงได้ต้องมีคนที่มีความสามารถลงมือทำ ฉะนั้น ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นจึงไม่ใช่แค่ความสำเร็จของบริษัท แต่เป็นความสำเร็จของคนทุกคนในบริษัทต่างหาก เราจึงจะดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน”

[อ่าน 3,707]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะ 5 ไฮไลต์ Central Park Offices ต้นแบบโมเดลออฟฟิศ NEXT GEN ที่ครบทั้ง “ดีไซน์–เทคโนโลยี–ความยั่งยืน” จุ
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย
แอสเซทไวส์ ยกขบวนคอนโดพร้อมอยู่ จัดแคมเปญ “AssetWise ใจใหญ่ ให้เต็มแม๊กซ์”
“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” ปิดสนามราชพฤกษ์คลับ จัดนัดชิง Chang Club Championship 2025
finbiz by ttb แนะเปิดประตูโอกาสธุรกิจ ด้วยพลังของ Generative AI
จุฬาฯ และ UR ร่วมกันจัดฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ก้าวแรกของความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมืองในประเทศไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved