นักอ่านไทยปรับตัว ช้อปผ่านสัปดาห์หนังสือออนไลน์ปีแรก 6.6 แสนราย
07 Apr 2020

 

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) และสำนักพิมพ์ พอใจผลการจัดงานสัปดาห์หนังสือ ครั้งที่ 48 โดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นครั้งแรก หลังปรับแผนรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เผยสถิติผู้เข้าร่วมช้อปผ่านเวบไซต์หลัก www.thaibookfair.com  ตลอด 12 วัน มีจำนวนกว่า 6.6 แสนราย วรรณกรรมครองแชมป์หนังสือขายดี ตามมาด้วยการ์ตูน ไลท์โนเวล จิตวิทยาพัฒนาตนเอง การศึกษา และประวัติศาสตร์ ด้านสำนักพิมพ์ซึ่งประเดิมอีคอมเมิร์ซผ่านงานครั้งนี้พึงพอใจพร้อมจับมือเดินหน้าใช้ digital transformation ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมาคมฯ ประกาศเปิดแผง “Online Book Market” ต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางหลักของการช้อปปิ้งหนังสือช่วงร้านปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

 

โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวสรุปผลการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 48 ภายใต้แนวคิด “หนังสือดิ้นได้ไปออนไลน์” ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายนที่ผ่านมา ทาง www.ThaiBookFair.com ว่า มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานถึง 660,000 รายโดยเป็นผู้ใช้งานรายใหม่จำนวน 68% และผู้เข้าใช้งานซ้ำจำนวน 32% แบ่งเป็นผู้ใช้งานจากพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 60% ส่วนต่างจังหวัด 40% ซึ่งมือถือเป็นช่องทางการเข้าร่วมงานและช้อปปิ้งมากที่สุดถึง 66% รองลงมาคือ คอมพิวเตอร์ 29% และแท็บเล็ต 5% ตามลำดับ โดยช่วงเวลา 13.00 – 19.00 น. เป็นช่วงที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุด

 

“ยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นจากในเวบไซต์หลัก www.ThaiBookFair.com ที่มีอยู่ประมาณ 200 สำนักพิมพ์นั้น คือ ประมาณ 36 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับยอดจำหน่ายของสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่ได้ร่วมจัดกิจกรรมจำหน่ายหนังสือไปพร้อมกันในช่องทางหลักของตัวเอง ซึ่งต่างก็มีโปรโมชั่นดึงดูดนักอ่านมากมาย โดยหากจะคำนวนยอดจำหน่ายทั้งหมดก็อาจจะต้องนับรวมของทุกสำนักพิมพ์ ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจและโรคระบาดที่ส่งผลให้ยอดจำหน่ายอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดเอาไว้ และไม่สามารถเทียบกับยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้ทั้งหมด (494 ล้านบาท) แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจสำหรับการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้เป็นออนไลน์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

 

จากความสำเร็จและการตอบรับเป็นอย่างดีของนักอ่าน สมาคมฯ ได้หารือกันแล้วลงความเห็นว่าจะยังคงเปิดให้บริการเวบไซต์ www.ThaiBookFair.com  ในรูปแบบ Online Book Market ศูนย์รวมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 24 ชั่วโมง เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสของการจัดจำหน่าย และยังเป็นการช่วยสนับสนุนสำนักพิมพ์ให้ได้มีช่องทางกระจายสินค้าได้ต่อไป โดยจากการจัดงานครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วม หนังสือที่เตรียมไว้ได้รับการตอบรับและจำหน่ายหมด และจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้มีการประกาศปิดสถานที่ต่างๆส่งผลให้ร้านหนังสือต้องปิดบริการ แต่ก็มียอดจำหน่ายเกิดขึ้นจากเว็บไซต์นี้ ส่วนบางสำนักพิมพ์เพิ่งเคยจำหน่ายออนไลน์ครั้งแรกก็ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ และทำให้คุ้นเคยกับการใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น”

 

ด้านเสียงสะท้อนจากนักอ่านส่วนหนึ่งพบว่า ยังคงรู้สึกเสียดายที่ต้องเปลี่ยนมาจัดในรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากผู้อ่านหลายคนยังคงชื่นชอบบรรยากาศภายในงาน On Ground มากกว่า แต่ก็ทำให้กลุ่มที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถซื้อหนังสือได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเดินทางไกล และมีความคุ้นชินกับการสั่งซื้อแบบออนไลน์อยู่แล้ว โดยรวมนั้นทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน

 

 

สำหรับประเภทหนังสือที่ได้รับความสนใจจากนักอ่านมากเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ หนังสือวรรณกรรม ได้รับความสนใจจากผู้อ่านหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่วัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน สถานการณ์ช่วงนี้อาจส่งผลให้ผู้อ่านหันมาอ่านวรรณกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้จิตใจผ่อนคลายจากความกังวล อันดับที่สองคือหนังสือการ์ตูนและไลท์โนเวล (นิยายที่เจาะกลุ่มคนที่ชอบอ่านการ์ตูน ใช้ภาษาอ่านง่าย ไม่เน้นคำยากๆ อ่านแล้วสามารถจินตนาการได้ทันที) ผู้อ่านส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยเรียน ซึ่งรูปแบบการจัดงานที่เป็นออนไลน์สามารถเจาะกลุ่มนักอ่านรุ่นใหม่ได้มากกว่า เพราะมีความถนัดในการใช้เทคโนโลยี อันดับที่สามคือหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเอง

โดยผู้อ่านยังให้ความสำคัญในการพัฒนาตัวเอง หรือ พัฒนาธุรกิจเพื่อนำมาใช้ต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคตอันดับที่สี่คือ หนังสือการศึกษา มีผู้อ่านเป็นวัยเรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับอุดมศึกษา แต่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ปกครองที่ต้องการนำไปพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาของบุตรหลาน และสุดท้ายอันดับที่ห้าคือ หนังสือประวัติศาสตร์ โดยผู้อ่านกลุ่มนี้จะชื่นชอบความเป็นมาในอดีต วิวัฒนาการ ที่จะเป็นบทเรียนต่อไป

 

“หลังจบงานสัปดาห์หนังสือ ทางสมาคมมีแผนรวบรวมปัญหา และข้อเรียกร้องของสำนักพิมพ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสระบาดเรียกร้องไปยังภาครัฐเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในวงการหนังสือต่อไปเพราะมีหลายสำนักพิมพ์ที่ได้รับผลกระทบมากเช่นเดียวกับธุรกิจต่างๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ ตามแผนเดิมการจัดงานครั้งต่อไปคืองานเชียงใหม่ บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 5 ในวันที่ 26 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 2563 ที่เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 (Book Expo Thailand 2020) เดือนตุลาคม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังไม่ดีขึ้น ก็น่าจะจัดออกมาในรูปแบบออนไลน์เช่นเดียวกัน โดยนำประสบการณ์ของอีเว้นท์ในครั้งนี้มาพัฒนา และเสริมความน่าสนใจของกิจกรรมต่างๆ เข้าไปเพิ่มเติมต่อไป” โชนรังสี กล่าวทิ้งท้าย

[อ่าน 1,859]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะ 5 ไฮไลต์ Central Park Offices ต้นแบบโมเดลออฟฟิศ NEXT GEN ที่ครบทั้ง “ดีไซน์–เทคโนโลยี–ความยั่งยืน” จุ
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย
แอสเซทไวส์ ยกขบวนคอนโดพร้อมอยู่ จัดแคมเปญ “AssetWise ใจใหญ่ ให้เต็มแม๊กซ์”
“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” ปิดสนามราชพฤกษ์คลับ จัดนัดชิง Chang Club Championship 2025
finbiz by ttb แนะเปิดประตูโอกาสธุรกิจ ด้วยพลังของ Generative AI
จุฬาฯ และ UR ร่วมกันจัดฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ก้าวแรกของความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมืองในประเทศไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved