“มนัญญา” หนุน อ.ส.ค. ฮึดสู้ COVID-19 ดันมาตรการลดผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานและโรงงานนม 5 แห่งทั่วประเทศ ด้าน อ.ส.ค.เตรียมหั่นงบการตลาด 20% พร้อมปรับทัพอัดงบส่งเสริมการขายผ่านแพลทฟอร์ม Lazada และ Shopee ดันยอดขาย “นมวัวแดง” ช่วงวิกฤติเพื่อครองมาร์เก็ตแชร์เจ้าตลาดนมในประเทศ
สุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.กล่าวว่า อ.ส.ค ได้รับมอบหมายจาก มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งวางมาตรการรับมือ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ครอบคลุมทุกมิติอย่างเร่งด่วนภายใต้มาตรการรับมือ COVID-19 อาทิเช่น มาตรการด้านการส่งเสริมโคนม มาตรการด้านอุตสาหกรรมนม มาตรการทางด้านการตลาด มาตรการด้านคุ้มครองสวัสดิภาพพนักงาน / เจ้าหน้าที่ มาตรการคุ้มครองผู้บริโภค มาตรการดูแลตัวแทนจำหน่าย มาตรการโรงงานผลิตภัณฑ์นมของ อ.ส.ค. ทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย เชียงใหม่ สุโขทัย ขอนแก่น สระบุรี และปราณบุรี รวมทั้งได้เร่งปรับกลยุทธ์ทางด้านการตลาดเพื่อรักษา และปกป้องตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คให้มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพเพื่อให้กระทบต่อยอดจำหน่ายน้อยที่สุด
“ท่านรัฐมนตรีมนัญญาได้กำชับให้ อ.ส.ค. เข้มงวดกับสำนักงาน อ.ส.ค. ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ อ.ส.ค. อย่างเคร่งครัด โดยมีการจัดตั้งจุดคัดกรองในการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าโรงงาน อีกทั้ง จัดหาอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ แอลกอฮอล์ 70% เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และหน้ากากอนามัย ให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้กับบุคคลากรในหน่วยงาน เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน และผู้เกี่ยวข้องอาทิ เกษตรกร ผู้บริโภค ตลอดจนการดำเนินงานขององค์กร อ.ส.ค.” สุชาติ กล่าว
สุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการทางด้านตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค อ.ส.ค. ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยลดงบประมาณด้านโฆษณา และแคมเปญทางการตลาดลงประมาณ 20% จากเดิมปีนี้วางไว้ 200 ล้านบาท แล้วหันไปเพิ่มงบด้านการส่งเสริมการขายแทน เพื่อต้องการลดค่าใช้จ่ายลง รวมทั้งปรับตัวให้สอดคล้องกับรายได้ และพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนที่กำลังชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว ล้วนส่งผลกระทบการดำเนินธุรกิจของ อ.ส.ค. ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารนมที่เป็นสินค้าบริโภคในอนาคตอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
สำหรับการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่ อ.ส.ค.นำมาใช้ในยุควิกฤติCOVID-19 คือ การหันมาบุกตลาดออนไลน์ ผ่านแพลทฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซของลาซาด้า (LAZADA) และช้อปปี้ (Shopee) เพื่อลดช่องว่างระหว่างผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คกับผู้บริโภค ให้สามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก คล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้ง จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ เพียงช้อปออนไลน์ ผ่านทางลาซาด้า (LAZADA) และช้อปปี้ (Shopee) รับทันทีหน้ากากผ้าไทย-เดนมาร์ค 1ชิ้น / 1 รายการสั่งซื้อ เป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ของรัฐบาลในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ควบคู่กับการสื่อสารให้ผู้บริโภค หันมาสานสัมพันธ์กับคนในครอบครัวมากขึ้น ผ่านการเลือกซื้อ และบริโภคผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ที่ผลิตจากน้ำนมสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของคนในครอบครัว แทนการเลือกซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ไม่จำเป็นต่อสุขภาพ
สุชาติ กล่าวว่า “สำหรับสถานการณ์ทางด้านการตลาดในขณะนี้ อ.ส.ค. พยายามหาช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ และทันสมัยเพิ่มยอดขาย และรักษาการเป็นเจ้าตลาดนมในประเทศไว้ให้ได้ ร่วมทั้งเร่งผลักดันมาตรการต่างๆ ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรี มนัญญา อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบจากจากการแพร่ระบาดของเชื้อCOVID-19 ให้มากที่สุด”