มูลนิธิฟรีแลนด์ เสนอทางเลือก หยุดโรดระบาดไวรัสในอนาคต ก้าวสู่บทบาท “ผู้พิทักษ์” ป้องกันโรคอุบัติใหม่
09 Jul 2020

 

มูลนิธิฟรีแลนด์ องค์กรระดับสากลซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ย้ำประเทศไทยวันนี้กำลังอยู่บนทางแยกสำคัญทางประวัติศาสตร์ จะเลือกสร้างสถิติการเป็นผู้นำโลกรายใหม่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือจะเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับเลือกใช้นโยบายการค้าสัตว์ป่าของประเทศไทย

 

 

“สตีเวน กัลสเตอร์” (Steven Galster) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟรีแลนด์ องค์กรระดับสากล เพื่อต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดใหญ่วของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งระเบิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่ทำร้ายผู้คนไปทั้งโลก สร้างผลกระทบในวงกว้างทั้งความตาย ความเจ็บป่วย และการชะงักงันทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลร้ายลึกกว่าภัยธรรมชาติหรือการก่อการร้ายตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา

 

แม้การรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย จะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ด้วยผลลัพธ์ของผู้ติดเชื้อที่ต่ำมาก และเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในโลก แต่วันนี้ประเทศไทย ยังมีประตูอีกบานที่ยังปิดไม่สนิท ซึ่งจะเปิดทางให้การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสกลับมาได้อีกครั้ง นั่นคือ “การค้าสัตว์ป่า”

 

 

“กัลสเตอร์” ชี้ว่า ประเทศไทยขณะนี้ เสมือนกำลังยืนอยู่บนทางแยก ที่เลือกได้ว่าจะเป็นแหล่งระบาดของไวรัสครั้งใหม่ หรือเลือกที่จะนำโลกไปสู่การสร้างวัคซีนธรรมชาติซึ่งให้ผลอย่างยั่งยืน ถาวร ตามแนวทาง “One Health” ซึ่งจะมีผลต่อการช่วยพิทักษ์รักษาธรรมชาติ ซึ่งวันนี้ผู้นำของโลกที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น           

                           

เช่นเดียวกับการระบาดของโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น โรคซาร์ส (SARS), โรคไข้หวัดนก (H5N1), โรคเมอร์ส (MERS), โรคเอสด์ (HIV) และโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า 70-75% ของโรคอุบัติใหม่ เกิดจากโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน และกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสาเหตุหลักจาก “สัตว์ป่า” ที่ถูกนำออกมาจากถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ให้มาอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากกว่าที่ควรจะเป็น จากการค้าสัตว์ป่าที่เพิ่มมากขึ้น และการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ป่า

 

“กัลสเตอร์” และมูลนิธิฟรีแลนด์ เป็นแนวหน้าในการรณรงค์แคมเปญระดับโลก “EndPandemics” ที่มุ่งแสดงให้ผู้คนทั่วโลกเห็นถึง “ต้นตอ” ของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เพื่อป้องกันการระบาดครั้งใหม่ที่จะเป็นตัวการสำคัญในการทำลายล้างโลก ซึ่งจากความร่วมมือของ 30 องค์กรทั่วโลก มูลนิธิฟรีแลนด์ มองว่า ประเทศไทยจะเป็น “ประตู” สำคัญสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการ “ปิดตาย” ประตูการค้าสัตว์ป่า และก้าวสู่การเป็นผู้นำของประเทศอื่นๆ ตามแนวทาง “One Health” โดยการสร้างวัคซีนธรรมชาติ ที่จะช่วยพิทักษ์ชีวิตของผู้คน สัตว์ป่า และระบบนิเวศทั้งหมด 

 

ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟรีแลนด์ ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลทั่วโลก บริษัทข้ามชาติต่าง และองค์การอนามัยโลก กำลังไล่ล่าหาวัคซีนอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณมหาศาล อย่างไรก็ตาม วัคซีนตัวใหม่นี้ก็จะใช้ไม่ได้ผลกับการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

นั่นหมายความว่าแพ็กเกจต่างๆ ที่ใช้เพื่อกระตุ้นและรื้อฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางแก้ที่แท้จริงจึงอยู่ที่ การสร้าง “วัคซีนที่ยั่งยืน” เพื่อหยุด “ต้นตอ” ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเหล่านี้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ และเดินตามแนวทาง “One Health” ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รณรงค์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยพิทักษ์ชีวิตของผู้คน แต่ยังรวมถึงการรักษาชีวิตของสัตว์ป่า และระบบนิเวศทั้งหมดด้วย  

 

มูลนิธิฟรีแลนด์ เชื่อว่า ประเทศไทยจะเป็นผู้นำระดับโลก และสามารถสร้างสถิติการเป็นผู้นำโลกรายใหม่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสามารถกำจัดโรคระบาดจากสัตว์สู่คนให้พ้นจากประเทศไทย ด้วยการห้ามการค้าสัตว์ป่าทุกชนิด นอกจากนี้ จะกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถหยุดการค้าสัตว์ป่าได้

 

“โควิด-19 เปรียบเหมือนเราเพิ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการตัดสินใจที่ยากในเวลาอันรวดเร็ว มิฉะนั้นการระบาดครั้งต่อไปอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงกว่านี้”

 

 

ปัจจุบันประเทศไทย มีกฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่บังคับใช้ในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งเพิ่มบทลงโทษผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และทำให้การซื้อขายสัตว์ป่าทำได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ป่าทั่วโลก และยังมีแนวโน้มเป็นแหล่งสำคัญของการเริ่มต้นและการแพร่กระจายของโรคระบาดจากสัตว์สู่คน

 

“ไวรัสชนิดร้ายแรง ไม่รู้จักความแตกต่างระหว่างสัตว์ที่ถูกซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย หรือผิดกฏหมาย ซึ่งการค้าสัตว์ทั้ง 2 รูปแบบต่างนำอันตรายมาสู่คนไทย สัตว์ป่าในประเทศ รวมถึงสัตว์ที่นำมาเลี้ยงในบ้าน ตลอดจนเป็นอันตราต่อชีวิต และเศรษฐกิจของชาติอื่นๆ” กัลสเตอร์กล่าว

 

 

ท่ามกลางการเป็นศูนย์กลางการค้าสัตว์ป่า ขณะเดียวกัน ประเทศไทย ได้แสดงผลลัพธ์ของการอนุรักษ์ประชากรเสือโคร่งในป่าธรรมชาติ ในโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง โดยมูลนิธิฟรีแลนด์ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ร่วมเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลไทย ในการค้นหาและปกป้องประชากรเสือโคร่งอินโดจีน หนึ่งในสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในโลก

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ขณะที่ประเทศอื่นๆ โดยรอบ สัตว์ป่าตระกูลเสือแทบจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว แต่ประเทศไทยยังสามารถฟื้นฟูจำนวนประชากรของพวกมันได้ มูลนิธิฟรีแลนด์เรียกสิ่งนี้ว่า “ความมหัศจรรย์” ซึ่งจำเป็นได้รับการบอกต่อปรากฎการณ์ดังกล่าวให้กับทั่วโลกได้รับรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูชีวิตสัตว์ป่าที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง  

 

มูลนิธิฟรีแลนด์ ได้นำเสนอโรดแมปที่จะเปลี่ยนประเทศไทยจากทางผ่านของการค้าสัตว์ป่า สู่การเป็นผู้พิทักษ์ ชีวิตผู้คนและธรรมชาติ ประกอบด้วย

  • ห้ามการค้าสัตว์ป่า
  • ช่วยผู้ค้าที่ขายสัตว์ป่าถูกกฎหมาย ให้สามารถดำรงชีพในรูปแบบอื่น
  • ขยายโครงการฟื้นฟูชีวิตสัตว์ป่าที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างมากขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างในระดับโลก
  • นำเครือข่ายการพิทักษ์ชีวิตสัตว์ป่าแห่งอาเซียนที่มีประเทศไทยเป็นผู้นำ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง
  • มอบอำนาจให้สำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน ยึดทรัพย์สินของผู้ค้าผิดกฎหมาย เพื่อนำไปเป็นทุนในการคุ้มครองธรรมชาติ

 

[อ่าน 1,612]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Krungthai CIO ชู “Income Theme” รับมือเศรษฐกิจผันผวน ชี้โอกาสลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก เสริมพอร์ตสร้างรายได้ระยะยาว
ทรู 5G ปล่อย “GO Travel SIM” โปรแรงในงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 4 รับเน็ตโรมมิ่งฟรี 26-29 มิ.ย. นี้
กสิกรไทย ส่ง K-CHINNO25A-UI ขายรายใหญ่ มุ่งลงทุน Private Equity กลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคตของจีน
ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ฉลองครบรอบ 3 ปี จัดเต็มความบันเทิง อาหารรสเลิศ และความสนุกแบบเต็มพิกัด!
“สิงห์ เอสเตท” แต่งตั้ง “ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์” ขึ้นแท่น "ซีอีโอ" ขับเคลื่อนองค์กรโตยั่งยืน
SPARKLE เปิดเกมรุกตลาดยาสีฟัน ดึง “หลิงหลิง คอง” นั่งพรีเซนเตอร์ใหม่ เจาะ Gen Y & Z ตั้งเป้าโต 20% ในปี 2025
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved