ใครบอกว่าวิทยุจะตาย! วิกฤติโควิด-19 ทำให้คนกรุงฟังวิทยุมากขึ้น
02 Aug 2020

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในสื่อที่ถูกจับตามองที่สุดว่า จะล้มหายตายจากไปคือ ‘วิทยุ ซึ่งสะท้อนได้จากเม็ดเงินโฆษณาที่ยังลดลงต่อเนื่องในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และคลื่นวิทยุที่คุ้นเคยต่างบอกลาแผงหน้าปัดไปหลายคลื่นด้วยกัน

นอกจากนี้จำนวนของผู้ฟังโดยเฉลี่ยต่อสถานีในเดือนเมษายนนั้น มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 21% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

จากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นทำให้ยอดผู้ฟังวิทยุจากที่บ้านเพิ่มสูงขึ้น 18% และการฟังจากในรถลดลง 1% ในส่วนของอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการรับฟังวิทยุ เราเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 29% ของการฟังผ่านมือถือ/สมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต

ถึงแม้ว่าผู้ฟังวิทยุส่วนมากยังคงนิยมรับฟังจากเครื่องรับวิทยุ โดยมีอัตราการเติบโตที่ 0.4% เมื่อเทียบระหว่างเดือนเมษายนและมีนาคม

 

 

ป็อป ร็อก ฮิปฮอป และลูกทุ่งนิยมสูงสุด

เพลงไทย เช่น ป็อป ร็อก ฮิปฮอป และเพลงลูกทุ่งคือสองกลุ่มหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตามมาด้วยข่าว/ข่าวกีฬา และเพลงสากล และถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดันให้ยอดผู้ฟังในทุกประเภทที่กล่าวถึงข้างต้นเพิ่มขึ้น ทว่าเพลงสากล และเพลงไทยนั้นได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์นี้มากที่สุด โดยมีการเติบโตของยอดผู้ฟังอยู่ที่ 28% และ 20% ตามลำดับ

เมื่อมองลึกลงไปที่โปรไฟล์ของผู้ฟังจะพบว่าผู้ฟังหลักของเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลงลูกทุ่งไทย หรือสากลคือเพศหญิง ในขณะที่ผู้ฟังหลักของข่าว/ข่าวกีฬาคือเพศชาย ซึ่งทุกประเภทมียอดผู้ฟังเพิ่มขึ้นทั้งชาย-หญิงในอัตราการเติบโตที่พอๆ กันในกลุ่มนั้นๆ เมื่อเทียบระหว่างเดือนเมษายนและมีนาคม

ในส่วนของกลุ่มอายุผู้ฟังพบว่า เพลงลูกทุ่ง และข่าว/ข่าวกีฬา ได้รับความสนใจจากผู้ฟังที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ในขณะที่เพลงไทยและเพลงสากลสามารถเข้าถึงผู้ฟังในกลุ่มอายุต่ำกว่า 40 ปีได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตามยอดผุ้ชมที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ โควิด-19 ของแต่ละกลุ่มนั้นมีความแตกต่างกัน สำหรับเพลงลูกทุ่ง กลุ่มช่วงอายุของผู้ฟังที่มียอดผู้ชมเติบโตสูงสุดคือกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเพิ่มขึ้น 10% ส่วนข่าว/ข่าวกีฬา คือกลุ่มอายุ 40-49 ปี เพิ่มขึ้น 4% ด้านเพลงไทย คือกลุ่มอายุ 20-29 ปี เพิ่มขึ้น 23% และเพลงสากล คือกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เติบโตมากถึง 125% เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างเดือนเมษายนและมีนาคม

ผู้ฟังในช่วง non-prime time เพิ่ม

ที่น่าสนใจคือการทำงานจากที่บ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนเมษายน ทำให้มีผู้ฟังวิทยุเพิ่มสูงขึ้นในช่วง non-prime time ทั้งในวันธรรมดาและวันหยุด ซึ่งในวันธรรมดาจำนวนยอดผู้ฟังวิทยุนั้นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเวลา 8.00 น.ถึง 14.30 น. และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 40% ในช่วงเวลา 10.00-11.00 น.

ในส่วนของวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ช่วงเวลาที่ยอดผู้ฟังเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อยู่ที่ช่วงเวลา 8.00 น.ถึง 14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นกว่าวันธรรมดาอยู่ครึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตามช่วง prime time ของทุกวันยังคงอยู่ที่เวลา 16.00 ถึง 17.00 น.

และถึงแม้ว่ายอดผู้ฟังวิทยุจะเพิ่มขึ้น เม็ดเงินโฆษณาที่ลงกับสื่อวิทยุนั้น กลับเติบโตสวนทางเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายๆ สื่อในช่วงเดือนเมษายนโดยลดลง 21% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าของสินค้าที่ยังคงลงโฆษณาสื่อวิทยุและใช้เม็ดเงินโฆษณากับสื่อวิทยุสูงสุด 10 อันดับแรกประกอบด้วยแบรนด์ในกลุ่มอุตสาหกรรมการ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล กลุ่มอาหารเสริม กลุ่มยานยนต์ และหน่วยงานรัฐบาล

           

งบโฆษณา 5 เดือนแรกของปี 2020 ลดลง 10%

ทั้งนี้ นีลเส็น ประเทศไทย ได้เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมปี 2020 พบว่า หดตัวลง 10% เหลือ 43,502 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่ามากถึง 48,585 ล้านบาท

ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ สื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 56% หรือ 24,758 ล้านบาท ทว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ลดลง 12% สื่ออื่นๆ เองก็ลดลงกันถ้วนหน้า

ทั้ง สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ 4,815 ล้านบาท ลดลง 10%, สื่อในโรงภาพยนต์ 1,422 ล้านบาท ลดลง 54%, สื่อสิ่งพิมพ์ 1,483 ล้านบาทลดลง 39%, สื่อวิทยุ 1,499 ล้านบาท ลดลง 15% และ สื่ออินสโตร์ 281 ล้านบาท ลดลง 33%

โดยมีเพียงสื่อเดียวที่เติบโตคือ อินเทอร์เน็ต 9,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปเสพสื่อในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

[อ่าน 2,174]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มือใหม่เริ่มลงทุน แอปทำการซื้อขายหุ้น กองทุน แบบไหนที่ใช่ ?
ยูนิโคล่ เผยผลสำรวจ AIRism ชี้ความร้อนและสภาพแวดล้อม ส่งผลกระทบต่ออารมณ์-ประสิทธิภาพในการทำงาน
แกร็บฟู้ด เผย 5 เทรนด์อาหารมาแรงแห่งปี 2025
The 1 Insight x Wisesight Research เผย 4 เมกะเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ สะท้อนการใช้ชีวิตผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับกลุ่มแอกซ่า จัดทำวิจัยสำรวจสุขภาพจิตของคนไทยและทั่วโลก
ผลสำรวจ 75% นักการตลาดสาย Performance ผลตอบแทนลดจากโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และกว่า 50% หันไปสู่ช่องทางใหม่
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved