จากการประกาศนโยบายเร่งด่วนในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผ่าน ‘โครงการสิงห์อาสา’ ทั่วประเทศ ตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมาในโครงการจ้างงาน สร้างรายได้ ผ่านการร่วมเป็นอาสาสมัครดูแลท้องถิ่นตนเอง ทั้งไฟป่า, ภัยแล้ง และน้ำท่วม รวม 37 จังหวัดทั่วประเทศ ต่อด้วย ‘โครงการสิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ’ กลุ่มทักษะทางด้านอาหารในหลักสูตร 10 เมนูยอดนิยมอร่อยง่ายๆ, หลักสูตรเครื่องดื่มร้อนเย็นเต็มสูตร และหลักสูตรสร้างตัวกับเมนูเดลิเวอรี่ ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ามารับการอบรมจำนวนมาก จนเต็มทุกที่นั่งในแต่ละหลักสูตร โดยได้จัดอบรมฟรีไปเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้ประกาศเปิดโครงการ 3 ‘สิงห์อาสาอบรมสร้างอาชีพ’ กลุ่มทักษะทางด้านงานช่าง ในหลักสูตร Home Service & Office Skills โดยร่วมกับ 6 สถาบันการศึกษา และหน่วยงานชั้นนำ ได้แก่ สถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง 1 จ.ปทุมธานี, วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี กรุงเทพฯ, วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี, มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จ.ปทุมธานี, มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ.ขอนแก่น, มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.เชียงใหม่ และการประปานครหลวง (สำนักงานใหญ่)
เน้นหลักสูตรเรียนรู้ง่าย เพื่อให่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ทันที ผ่านวิชาชีพด้านงานช่าง ได้แก่ 1.ช่างไฟฟ้าบ้าน 2.ช่างแอร์ อบรมการดูแลและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศ 3.ช่างประปา อบรมการซ่อมบำรุงและติดตั้งเบื้องต้น 4.กราฟิกดีไซน์เบื้องต้น อบรมการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator เบื้องต้น 5.ช่างคอมฯ อบรมการติดตั้งโปรแกรมเบื้องต้น การซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์เบื้องต้น 6. อี-คอมเมิร์ซ ทำธุรกิจออนไลน์ อบรมเทคนิคการขายของออนไลน์ ช่องทางการจำหน่าย การถ่ายรูปโปรโมทสินค้า ทั้งนี้ รับสมัครผู้เข้าอบรมหลักสูตรละ 40 คน และอบรมหลักสูตรระยะสั้น 12 ชั่วโมง กระจายไปทั่วประเทศ
ผู้สนใจสามารถสมัครเข้ารับการอบรม ได้ที่เฟสบุ๊ค singha r-sa สิงห์อาสา โดยจะเปิดอบรมหลักสูตรแรกคือ ช่างไฟบ้านในวันที่ 14-15 ส.ค.63 นี้ ที่สถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง 1 จังหวัดปทุมธานี
อนึ่ง นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด บริษัทฯ ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศในรูปแบบของการจ้างงาน และสร้างอาชีพ เป็นมูลค่าการช่วยเหลือรวมกว่า 200 ล้านบาท รวมทั้งการบริจาคเงินสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ให้แก่ 26 โรงพยาบาลหลักทั่วประเทศ และสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มให้กับบุคลากร หลักๆ หลายแห่ง