การแพร่ระบาดของ COVID-19 กระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การบริโภคทั้งจาก ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส และมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐตั้งแต่ ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกนอกบ้าน หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดสามารถควบคุมได้ดีระดับหนึ่ง รัฐบาลจึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทำให้ผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลและปรับพฤติกรรมการบริโภคอีกครั้ง Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ข้อมูล Google Trends ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสนใจของผู้บริโภคคนไทยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
คนไทยกลับมาสนใจกิจกรรมนอกบ้านเพิ่มขึ้นหลังคลายช่วงล็อกดาวน์
แม้ว่าในช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนคนไทยจะสนใจกิจกรรมนอกบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ความสนใจกิจกรรมนอกบ้านก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากการค้นหาคำว่า‘โรงแรม’ และ ‘อาหารบุฟเฟต์’ ที่ในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2563 มีจำนวนการค้นหาสูงกว่าช่วงล็อกดาวน์ (เดือนเมษายน-พฤษภาคม) ถึง 470% และ 232% ตามลำดับ และความสนใจต่อทั้ง 2 กิจกรรมยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอีกด้วย ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความต้องการที่สะสมมาจากช่วงล็อกดาวน์ (pent-up demand) การมีช่วงวันหยุดยาวพิเศษ และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
อย่างไรก็ดีความสนใจที่เพิ่มขึ้นผ่าน Google Search ไม่ได้หมายถึงการใช้จ่ายที่กลับมาในระดับเดียวกัน สะท้อนจากทั้งการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค และปริมาณการท่องเที่ยวในประเทศที่ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้กิจกรรมนอกบ้าน อาทิ การไปโรงภาพยนตร์ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าช่วงปกติ สะท้อนจากจำนวนการค้นหาชื่อเครือโรงภาพยนตร์ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2563 ที่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดียวกันระหว่างปี 2560-2562 ถึง 44%
กิจกรรมภายในบ้านในช่วงกักตัวยังคงได้รับความนิยมสูงกว่าในอดีต
ในช่วงกักตัวอยู่บ้านคนเริ่มหากิจกรรมในบ้าน ชดเชยการออกนอกบ้าน จึงเกิดกระแสกิจกรรมภายในบ้านหลากหลายประเภท เช่น
ทั้งนี้กิจกรรมภายในบ้านที่กล่าวมาข้างต้นได้รับความสนใจลดลง...หลังจากที่เริ่มสามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้...สะท้อนจากคำค้นหาตามคีย์เวิร์ดดังกล่าวที่มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เริ่มมีมาตรการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และรวมไปถึงการที่คีย์เวิร์ดบางคำเป็นเพียงการค้นหาที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-time search) เช่น การค้นหา ‘โต๊ะทำงาน’ ที่เมื่อซื้อมาแล้วทำให้ไม่จำเป็นต้องค้นหาอีก
และจากข้อมูลดัชนี Google Mobility หมวดที่พักอาศัยยังแสดงให้เห็นว่าคนยังคงอยู่ในบ้านมากกว่าช่วงก่อน COVID-19 อย่างไรก็ตาม การค้นหาคำเกี่ยวกับเทรนด์ต่างๆ ข้างต้นก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังซึ่งบ่งชี้พฤติกรรม New normal โดยอาจมาจากการที่หลายคนได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานที่บ้าน (work from home) ในสัดส่วนที่มากขึ้น ความนิยมสำหรับกิจกรรมในบ้านจึงมีมากกว่าในอดีตช่วงก่อนโควิด-19
โควิด-19 เร่งให้แพลตฟอร์มออนไลน์ได้รับความนิยมสูงกว่าแนวโน้มปกติ
ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 คนไทยมีแนวโน้มปรับตัวมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น มีการค้นหาบริการออนไลน์อย่างต่อเนื่องโดยโควิด-19 ได้ช่วยเร่งกระแสการปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลสะท้อนจากปริมาณการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับบริการออนไลน์ต่างๆ ที่เร่งตัวจากแนวโน้มปกติอย่างเห็นได้ชัด จากความจำเป็นในการเข้าถึงสินค้าและบริการในช่วงที่ช่องทางเดิมมีข้อจำกัดในการใช้บริการ เช่น การซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม e-commerce ทดแทนการไปห้างสรรพสินค้า การใช้บริการ food delivery ทดแทนการรับประทานอาหารที่ร้านการประชุมทางไกลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทดแทนการประชุมแบบปกติ หรือการดูภาพยนตร์ผ่านแอปพลิเคชันดูหนังออนไลน์ต่างๆ แทนการออกไปโรงภาพยนตร์
ปริมาณการค้นหาสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ลดลงจากช่วงล็อกดาวน์เช่นกัน ซึ่งเหตุผลน่าจะมาจากการค้นหาส่วนใหญ่เป็นแบบ one-time search กล่าวคือ หลังจากการค้นหาในครั้งแรกๆ แล้ว ผู้ใช้อาจใช้งานจากแพลตฟอร์มโดยตรงในครั้งถัดไป ซึ่งจากข้อมูลของแพลตฟอร์มออนไลน์พบว่า แม้ปริมาณการค้นหาบน Google จะลดน้อยลง แต่กิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงบนแพลตฟอร์มยังมีการเติบโตที่ค่อนข้างสูง เช่น ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563 จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Lazada ประเทศไทยเพิ่มขึ้น เกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า