การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อให้เกิดการดำเนินวิถีชีวิตแบบปกติใหม่ หรือเรียกว่า New Normal ทั้งในรูปแบบการบริโภคและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งต่างหันมาทำกิจกรรมผ่านโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่หลายประเทศได้เริ่มมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด-19ทำให้การค้าออนไลน์ทั่วโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากรายงานของ Bazaarvoice พบว่าคำสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2563 เพิ่มขึ้น 21% และเพิ่มสูงถึง 96% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2562 และน่าจะกลายเป็นพฤติกรรมถาวรแม้โควิด-19 จะดีขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ eMarketer คาดการณ์ว่าในปี 2563 ตลาด E-Commerce ทั่วโลกจะเติบโตราว 16.5% และมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาด E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดสามอันดับแรกของโลก ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ ซึ่งการค้าเครื่องประดับจะได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของการค้าออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกันโดย Technavio คาดการณ์ว่าในระหว่างปี 2563-2567 ตลาดเครื่องประดับออนไลน์ทั่วโลกจะเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 15%
ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับเข้าสู่โลกออนไลน์ในยุค New Normal
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในยุค New Normal ที่เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับจำเป็นต้องปรับตัวทรานส์ฟอร์มธุรกิจไปสู่โลกดิจิทัลในมิติต่างๆ มากขึ้น ได้แก่
Virtual Event: มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การจัดงานแสดงสินค้าหรืองานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย จำเป็นต้องยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด หากแต่หลายธุรกิจรวมถึงผู้จัดแสดงงานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับได้เลือกปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน โดยหันมาทำ Virtual Event หรืองานแสดงสินค้าออนไลน์แทน ยกตัวอย่างเช่น JCK ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญอันดับต้นในสหรัฐอเมริกาและของโลก ได้จัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ครั้งแรกในชื่อว่า “JCK Virtual 2020” ในระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2563 โดย JCK ได้เชิญผู้ซื้อและผู้ค้าปลีกทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมงาน โดยมีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้กว่า 3,500 ราย สำหรับกิจกรรมทั้งหมดภายในงานทำผ่านระบบ JCK Virtual Platform หรือแม้กระทั่งงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับชั้นนำของไทยและของโลก ก็มีกำหนดจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2563 ภายใต้ชื่องาน BGJF Special Edition – On Ground to Online Exhibition” เพื่อตอบโจทย์การค้าแบบ New Normal ในช่วงที่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงเป็นไปได้ยากลำบาก
Virtual Event ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะแพลตฟอร์มการทำอีเวนต์มีมาได้ระยะหนึ่งแล้ว หากแต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น Jewelry Virtual Fair (JVF) ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2561โดยมีลักษณะเสมือนเป็นโชว์รูมเครื่องประดับ อีกทั้งยังเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและเทรนด์ของเครื่องประดับด้วย ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าออนไลน์ และนักออกแบบ เข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า 800 คน จากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
จากสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรวมตัวกันของผู้คน ทำให้ Virtual Event ได้รับความนิยมมากขึ้น และมีแนวโน้มที่ Virtual Event จะไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มชั่วคราวอีกต่อไป แต่อาจกลายเป็นรูปแบบหลักของผู้จัดอีเวนต์ที่จะนำไปใช้ผสมผสานกับอีเวนต์ออฟไลน์
Live Streaming: หรือการไลฟ์สดขายสินค้ากลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาด E-Commerce ที่เกือบทุกธุรกิจไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร รถยนต์ เครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับมีค่าต่างหันมาใช้การไลฟ์สดขายสินค้า (Live Streaming) จนทำให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้งานและประเภทสินค้า
https://www.everydaymarketing.co
สำหรับตลาดที่ใช้กลยุทธ์การไลฟ์สดขายสินค้าซึ่งเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงที่โควิดแพร่ระบาด ก็คือ จีน ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดการไลฟ์สดขายสินค้า ผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทสินค้า ต่างหันมาใช้กลยุทธ์การไลฟ์สดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมของจีนอย่าง Taobao และ JD.Com เป็นต้น ซึ่งมีตั้งแต่แบรนด์ท้องถิ่นไปจนถึงแบรนด์หรูพรีเมี่ยม อาทิ Lanvin แบรนด์กระเป๋าหรูจากฝรั่งเศส โดยคุณ Guo Guangchang เจ้าของบริษัท Fosun ที่ได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์ Lanvin เข้าร่วมไลฟ์สดเพียง 5 นาที ก็สามารถขายสินค้ามูลค่า 4,060 ดอลลาร์สหรัฐได้ทันที หรือ Burberry ที่จัดไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม Taobao มีผู้เข้าชมถึง 1.4 ล้านวิว เป็นต้น รวมถึงแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำของโลกอย่าง Tiffany & Co. หรือ Chow Tai Fook แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำจากฮ่องกง ก็ไม่พลาดโอกาสสร้างยอดขายผ่านการไลฟ์สดเช่นกัน
ส่วนไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่การไลฟ์สดขยายตัวได้สูงมาก โดย Shoplus เผยยอดขายจากการไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเติบโตสูงกว่า 2.16 เท่า เพราะผู้บริโภคชาวไทยหันมาซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นมาก โดยสินค้าที่ซื้อมีความหลากหลายตั้งแต่เครื่องประดับทอง เสื้อผ้า ไปจนถึงเจลล้างมือ และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา มีร้านค้าทองหลายรายไลฟ์สดขายทองรูปพรรณแท้ผ่านเฟซบุ๊ก ได้รับออเดอร์เพิ่มสูงกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว
โลกธุรกิจหลังยุคโควิด-19 จะเปลี่ยนไปจากเดิมโดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความคุ้นเคยและถูกจริตกับโลกออนไลน์จะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ จึงจำเป็นต้องสร้างโอกาสจากวิถีชีวิตใหม่ที่ผู้บริโภคเริ่มคุ้นชิน โดยเร่งรุกตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างจริงจัง เพราะตลาดออนไลน์ยังเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้สามารถตอบโจทย์หรือสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุดซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้อันจะช่วยหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจยังเติบโตได้ต่อไป
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)