ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ผนึกกำลัง เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต (FWD) ปิด Pain Point ผู้บริโภคยุควิกฤติโควิด - 19  ด้วยประกันใหม่ล่าสุด 'OPD คุ้มครบ จบหายห่วง' ชูจุดเด่น ป่วยหนัก ป่วยเบา เหมาจ่าย ครบทุกการรักษา จบทุกความกังวลของลูกค้า เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) และเพิ่มผลประโยชน์ค่าห้องเป็น 2 เท่าและรับเงินก้อนเมื่อเป็นโรคร้ายแรง ด้วยค่าเบี้ยเริ่มต้นไม่ถึง 2 หมื่นบาทสำหรับความคุ้มครอง 2 ล้านบาท และค่าเบี้ยไม่ถึง 1 แสนบาทสำหรับความคุ้มครอง 120 ล้านบาทสูงสุดในธุรกิจขณะนี้ พร้อมเดินกลยุทธ์ Entertainment Marketing ส่งเมสเสจถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย ภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ผ่านหนังสั้น 'น้องพี่ที่รัก(ษา)' สร้างเป็นตอนต่อจาก 'น้องพี่ที่รัก' หนังจากค่ายจีดีเอช

เดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเจอวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวสู่ยุค New Normal หรือ วิถีชีวิตแบบใหม่ ทำให้หลายคนหันกลับมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น รวมไปถึงการเลือกซื้อประกันชีวิตที่ช่วยดูแลค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ FWD และธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว จึงร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “OPD คุ้มครบ จบหายห่วง” ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความคุ้มครองค่าใช้จ่าย OPD ที่หลากหลายของลูกค้าที่สามารถเข้ารับการรักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตามวงเงินที่ลูกค้าได้รับ พร้อมกันนี้ยังมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การตรวจสุขภาพ ค่าทำฟัน ค่าวัคซีนทั่วไป ค่ารักษาพยาบาลการตั้งครรภ์ การคลอดบุตร ค่ารักษาโดยแพทย์ทางเลือก รวมถึงค่าใช้จ่ายแบบผู้ป่วยนอกจากการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง เช่น ค่าล้างไต เคมีบำบัด เป็นต้น นอกจากนี้ยังครอบคลุม ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงการติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย”

อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “จาก Customer Insight พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มองหาความคุ้มครองการรักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ซึ่งเป็นสินค้าที่หาได้ยากในตลาดปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเราจึงผนึกกำลังรวมจุดแข็งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกันโดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิตของ FWD ผนวกกับการบริการลูกค้าที่โดดเด่นและช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีพนักงานสาขาซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำการซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศอย่างทั่วถึง  ซึ่งเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจ

นอกจากนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่คนไทยทำงานจากที่บ้านกันมากขึ้นเราจึงอยากส่งมอบความสุขให้กับทุกคนผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สนุกสนาน โดยเราตั้งใจทำโฆษณาให้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง ‘น้องพี่ที่รัก’ โดยเล่าเรื่องที่ผ่านไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ใช้ศัพท์เฉพาะในธุรกิจประกัน เพื่อให้คนเข้าใจผลิตภัณฑ์นี้ได้ง่ายขึ้น โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขให้กับผู้บริโภคจากการรับชมภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้  เพื่อให้พวกเราทุกคนมีรอยยิ้มและสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้”

จุดเด่นของ “OPD คุ้มครบ จบหายห่วง” ที่เราตั้งใจพัฒนาขึ้นด้วยความใส่ใจในความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์กับลูกค้าทุกกลุ่ม ดังนี้  

คุ้มค่า

• คุ้มครองค่าใช้จ่าย กรณีเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ที่มีอยู่ในทุกแผนทุนประกัน
• เบิกค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งตามวงเงินความคุ้มครอง IPD และ OPD
• OPD ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากการตรวจวินิจฉัยโรค ค่าตรวจแลป และ ค่ายา
• ดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนของการรักษาพยาบาลต่อเนื่องแบบผู้ป่วยนอก  เช่น ค่าเคมีบำบัด ค่าล้างไต ตามวงเงินคุ้มครองสูงสุดของแต่ละแผน
• ค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 19,782 บาท ที่วงเงินความคุ้มครอง 2 ล้านบาท (ค่าเบี้ยสำหรับเพศหญิง อายุ 20 ปี ค่าเบี้ยขึ้นอยู่กับเพศ อายุ)

ครบ

• สามารถเลือกแผนคุ้มครองทุกค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เช่น ค่าทำฟัน ตรวจสุขภาพ วัคซีน แพทย์ทางเลือก หรือตั้งครรภ์ คลอดบุตร
• มีแผนประกันให้เลือกถึง 5 แบบโดยเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 19,782 บาท สำหรับความคุ้มครอง 2 ล้านบาท และค่าเบี้ยที่ 94,257 บาทสำหรับความคุ้มครอง 120 ล้านบาท
• ให้ความคุ้มครองทุกที่ทั่วโลก ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครอง

หายห่วง

• เพิ่มผลประโยชน์ค่าห้องเป็นสองเท่าเมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโรคร้ายแรงทั้งสามโรค ได้แก่ โรคมะเร็งระยะลุกลาม โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน และ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
• ดูแลพิเศษในส่วนของค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยที่รักษาตัวจากโรคร้ายแรงหรืออุบัติเหตุ เช่น คุ้มครองค่าใช้จ่ายจากการศัลยกรรมหน้าอกเพื่อการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดมะเร็งเต้านม
• สำหรับลูกค้าที่มีสวัสดิการอยู่แล้วสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ เพื่อครอบคลุมค่ารักษาส่วนเกินและเลือกประหยัดค่าเบี้ยประกันได้สูงถึง 60% ขึ้นอยู่กับแผน เพศ และอายุ