'โออิชิ กรุ๊ป'ตอกย้ำวิสัยทัศน์ ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่แข็งแกร่ง และยั่งยืน
16 Feb 2021

 

ปี 2563 ที่ผ่านมาบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และวางแผนการดำเนินงานอย่างมากมาย อันเนื่องมาจากการได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้มาได้

สำหรับผลประกอบการปีงบประมาณ 2563 บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 11,007 ล้านบาท ลดลง 19.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,066 ล้านบาท ลดลง 13.3 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันบริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน่าพอใจ และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 1.45 บาทต่อหุ้นจากผลประกอบการปี 2563

 

 

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม อีกทั้งยังสร้างความท้าทายใหม่ๆให้กับทุกธุรกิจ และทุกภาคส่วนบริษัทโออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเช่นกัน บริษัทฯ จึงได้มีการปรับกลยุทธ์และแผนงานต่างๆ เพื่อเร่งสร้างรายได้ให้กลับมาให้มากที่สุดและในขณะเดียวกันก็ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ พร้อมควบคุมการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ดีขึ้นประกอบกับผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง

สำหรับภาพรวมบริษัทในปี 2563 ธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิสามารถผลักดันส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงถึง 48% (ข้อมูล 12 เดือนล่าสุด สิ้นสุด ณ เดือน ก.ย. 2563 จาก บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด) โดยทิ้งห่างคู่แข่งอย่างชัดเจน และครองตำแหน่งผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ธุรกิจร้านอาหารมีการปรับแผนให้เหมาะกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยเร่งขยายช่องทางการขายแบบซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่ที่มีการเติบโตอย่างมาก ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในอนาคตบริษัทฯ มีการปรับแผนกลยุทธ์ของธุรกิจให้เหมาะสม นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและศึกษาโอกาสการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจ ที่มีอยู่เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

ด้านธุรกิจเครื่องดื่ม นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับการชะลอตัวของตลาดชาพร้อมดื่มภายในประเทศที่ปรับตัวลดลง 9.1% (ข้อมูล 12 เดือนล่าสุด สิ้นสุด ณ เดือน ก.ย. 2563 จาก บริษัท เดอะนีลเส็นคอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด) ส่งผลกระทบต่อยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มบ้าง แต่บริษัทยังสามารถประคองสถานการณ์และสร้างผลกำไรที่เติบโตได้ จากการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวที่ดีต่อสุขภาพ เช่น โออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ, โออิชิ พลัส ซี ชาเขียวผสมวุ้นมะพร้าวโดยพลัสประโยชน์จากวิตามินซี 200% ประกอบกับทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ๆ การกระจายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น การบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเดินหน้าขยายตลาดส่งออก โดยเข้าไปเปิดตลาดใหม่ในประเทศเมียนมาร์ ทำกิจกรรมการตลาดในเขตพื้นที่แถบชายแดน ส่งผลให้ยอดขายในเมียนมาร์เติบโตต่อเนื่อง ส่วนในประเทศกัมพูชาและลาวยังคงรักษาตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น”

 

 

ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจร้านอาหาร เผยว่า ในปี 2563 เราเน้นปรับตัวรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาต่อยอดสร้างสรรค์บริการใหม่ๆในร้านอาหารญี่ปุ่นโออิชิ พร้อมพัฒนาช่องทางขาย-เดลิเวอรี่ (Delivery) และซื้อกลับบ้าน (Take Away) มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการปรับรูปแบบร้านให้เหมาะสมและเข้ากับสภาพแวดล้อมทางการตลาดในปัจจุบัน เน้นเคลื่อนเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็ว โดยการขยายธุรกิจและเปิดตัวร้านอาหารรูปแบบใหม่ เช่น “โออิชิ ทู โก” (OISHI to Go), “โออิชิ ฟู้ด ทรัค” (OISHI Food Truck) รวมไปถึงร้านอาหารประเภทไฮบริด : โออิชิ ราเมน X คาคาชิ บริการ 24 ชั่วโมง สาขาแรก ที่ เดอะ สตรีท รัชดา อีกทั้งมีการพัฒนาสูตรอาหารและผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ นำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่โออิชิ คิทเช่น ซึ่งสามารถสั่งผ่านบริการจัดส่งอาหารโออิชิ เดลิเวอรี่ หรือแอปพลิเคชั่นฟู้ด เดลิเวอรี่ ชั้นนำทั่วไป นอกจากนี้ ยังต่อยอดสู่ตลาดพรีเมียม เปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่น “ซาคาเอะ” (SAKAE : The Signature Taste of Shabu Shabu and Sukiyaki) ชาบูเมนู a-la-cart ให้บริการในรูปแบบหม้อเดี่ยวส่วนตัว เพื่อสร้างความแตกต่างและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ จับกลุ่มเป้าหมายระดับบนและกลางเป็นหลัก

 

 

ด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน นางสาวเมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดและการปิดเมือง กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการบริโภคและการเติบโตของตลาดอาหารสำเร็จรูป แช่เย็นและแช่แข็ง เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีคุณภาพ สะดวกในการบริโภค และมีความหลากหลาย เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในช่วงเวลานี้ เราจึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน ภายใต้ตราสินค้า “โออิชิ อีทโตะ” (OISHI EATO)โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่นโออิชิ อีทโตะ แซนวิชผสมธัญพืชไส้อกไก่สลัดไข่ เวย์โปรตีน พร้อมเร่งขยายช่องทางใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ตั้งแต่การวางจำหน่ายสินค้าในห้างที่ให้บริการค้าปลีกและค้าส่ง การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของห้างต่างๆ เช่น Tops online, TESCO Lotus online และเครื่อง Vending Machine อีกทั้งมีการสร้างสรรค์หีบห่อบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นและแตกต่าง นอกจากนั้นยังพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเดิม เช่น สินค้ากลุ่มซอสและเครื่องปรุงรส

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านการพัฒนาความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมสังคม และเศรษฐกิจกล่าว คือในด้านสิ่งแวดล้อมมีการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างรู้คุณค่า และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในด้านสังคม นอกจากสานต่อโครงการ “ให้” และโครงการ “น้ำดื่มสะอาด” ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทฯ ยังเพิ่มความช่วยเหลือด้านภัยโควิด-19 โดยจัดโครงการ “โออิชิ ให้ สู้ภัย โควิด-19” มอบเงินบริจาคและอาหาร-เครื่องดื่มโออิชิให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดหาหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ การส่งพนักงานตรวจโควิด-19 และการทำประกัน โควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน ในด้านเศรษฐกิจ บริษัทมีการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์รองรับ New Normal โดยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และหันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงแข็งแกร่ง

 

 

ด้วยการผนึกกำลังของธุรกิจทั้งสามและการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีโออิชิจึงก้าวข้ามทุกสถานการณ์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพผู้นำและความเป็นบริษัทที่มั่นคงและยั่งยืนพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตตามแผนวิสัยทัศน์ 2025 อย่างแข็งแกร่งต่อไป

[อ่าน 1,201]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GSK รณรงค์การสร้างภูมิคุ้มกันโรคในผู้ใหญ่ สู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
บีเทรนด์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนอัพเดทไอเทมสุดอาร์ต “บีเทรนด์ อาร์ต สเตชั่น 2024”
นันยาง เปิดแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” ชวนนักเรียน “เลิกกดดันตัวเอง”
“อย่าเพิ่งสั่ง! ถ้ายังไม่เปิดเมนูใหม่” เพิ่มความหลากหลาย พร้อมน้ำจิ้ม GON กระทะ
Gentle Monster ‘Jentle Salon Pop-Up’ ป็อปอัปเจาะกลุ่ม Gen Z
“Rock on The Beach 2024” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจระยอง เม็ดเงินสะพัดกว่า 150 ล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved