กว่า 33 ปีที่ "เอ็มเค" โลดแล่นอยู่ในธุรกิจอาหาร ผลัดเปลี่ยนจากยุคธุรกิจครอบครัวสู่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แตกกิ่งก้านสาขาขยายธุรกิจไปกว่า 8 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เอ็มเค สุกี้, เอ็มเค โกลด์, ยาโยอิ, ฮากาตะ, มิยาซากิ, เลอ สยาม, ณ สยาม และเลอ เพอทิท รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 600 สาขา

          หากแต่พฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่ปรับเปลี่ยนไปรวดเร็ว ธุรกิจร้านอาหารเองก็มีการแข่งขันกันดุเดือด ทำให้เอ็มเคก็ต้องเติมความสดใหม่ให้ตัวเองอีกครั้ง หลังจากทิ้งการเปิดแบรนด์ใหม่มาเกือบ 17 ปี เพราะมองว่ายุคนี้การทำร้านอาหารสำหรับครอบครัวไม่น่าจะเพียงพอ แต่ต้องเข้าไปจับที่ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วย

          ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เนื่องจากเราได้พื้นที่ที่บริเวณชั้น 6 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์มา เราก็เลยมานั่งคุยว่าจะนำคอนเซปต์ไหนเข้ามาดี จะเอาแบบธรรมดามาก็คงไม่เวิร์ค หรือจะเป็นเอ็มเค โกลด์ก็ไม่เหมาะ เราอยากจะทำอะไรที่แปลกใหม่ มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น พอมานั่งคุยกันทางฝั่งคนรุ่นใหม่ (รุ่นที่ 3) ก็ขอไปทำ เราก็ยกให้เขาไปเลย"

          "เอ็มเค ไลฟ์" (MK LIVE) นับเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เอ็มเคใช้เวลาปลุกปั้นมากว่าหนึ่งปี ระดมความคิดทั้งจากผู้บริหารรุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 บวกกับในด้านการวางกลยุทธ์จากผู้บริหารมืออาชีพ จนเกิดมาเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีคีย์เวิร์ดสำคัญคือ "LIVE" ที่สื่อถึงความสดใหม่และความมีชีวิตชีวา คอนเซปต์การตกแต่งร้านก็นำรูปแบบของเรือนกระจกในฟาร์มปลูกผักมาใช้ เน้นการตกแต่งด้วยสีเขียวและใช่วัสดุจากธรรมชาติ รวมถึงยังประดับตกแต่งผนังด้วยผักไฮโดรโพนิกส์ ชุดพนักงานก็ดีไซน์ใหม่ให้ดูคล้ายกับพนักงานในฟาร์มผัก

          ในส่วนของเมนูก็ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยปรับให้ดูพรีเมียมมากขึ้น มีวัตถุดิบใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา อาทิ ลอปสเตอร์จากแคนาดา หอยเชลล์ยูเอส เนื้อวากิว นอกจากนี้ยังมีเมนูเอ็กคลูซีฟที่มีเฉพาะที่นี่ อาทิ เมนูสกี้ต้มแบบดั้งเดิม ที่มีน้ำซุปและน้ำจิ้มให้เลือกถึง 5 แบบ และเมนูไฮไลท์ "สตรีมชาบู" หรือเรียกกันบ้านๆ ว่าสุกี้นึ่ง

          ทานตะวัน ธีระโกเมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารรุ่นที่ 3 ของเอ็มเคกล่าวว่า "กลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มวัยยรุ่น คนรุ่นใหม่ วัยทำงานตอนต้น และครอบครัวที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทานอาหาร ซึ่งเราเชื่อว่าโมเดลนี้จะเป้นโมเดลที่มีอนาคตและมีศักยภาพในการทำตลาด"

          สำหรับราคาของ "เอ็มเค ไลฟ์" จะสูงกว่าเอ็มเค สุกี้แบบธรรมดาอยู่เล็กน้อย โดยจะมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนราว 500 บาท ในขณะที่เอ็มเคสุกี้จะอยู่ที่ 300 บาท ส่วนเอ็มเค โกลด์ 700 บาท

          ทั้งนี้ "เอ็มเค ไลฟ์" ใช้งบลงทุนเบื้องต้นที่ 10-20 ล้านบาท บนพื้นที่ 280 ตารางเมตร แต่อย่างไรก็ตาม เอ็มเค ไลฟ์จะยังคงพัฒนาและปรังปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อคิดค้นโมเดลใหม่ๆ ไปพัฒนาในเอ็มเค สุกี้แบบปกติด้วย ส่วนในเรื่องการขยายสาขาเอ็มเค ไลฟ์เพิ่มนั้นจะต้องเลือกทำเลที่ตรงกับคอนเซปต์ของร้านจริงๆ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาหาข้อมูล

          สำหรับผลประกอบการของ "เอ็มเค กรุ๊ป" ในปี 2559 ที่่ผ่านมา มีรายได้อยู่ที่ 15,498 ล้านบาท เติบโต 4% โดยมีกำไรที่ 2,100 ล้านบาท โตจากปีก่อน 13% โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากแบรนด์เอ็มเค 80% จามด้วยแบรนด์ยาโยอิ 18-19%

          ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตที่ 7-8% พร้อมใช้เงินลงทุนราว 400-500 ล้านบาท สำหรับเปิดสาขาใหม่อีก 40 สาขา