เปิดปฏิบัติการ ‘เปลี่ยนผ่านดิจิทัล’ ของธุรกิจไทยภายใต้วิถีแห่งการร่วมสร้าง (Co-Creation)
17 May 2021

วิกฤตโควิด-19 ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีไอซีทีที่ช่วยให้เศรษฐกิจและสังคม ยังสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง วิกฤตดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงภาวะ ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล’ ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับเป็นวาระเร่งด่วนของประชาคมโลก อันสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ

 

เนื่องในวันสังคมข้อมูลและโทรคมนาคมโลก (WTSD) วันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ดีแทคได้เปิดปฏิบัติการ เปลี่ยนผ่านดิจิทัลของธุรกิจไทยภายใต้วิถีแห่งการร่วมสร้าง (Co-Creation) 

โดย ดร. เรดวัน ฮาซาน คาน ผู้อำนวยการ ฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันธุรกิจ ของดีแทค ผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนผ่านสำคัญของดีแทคและภาคธุรกิจต่างๆ เขาคือวิศวกรไฟฟ้าชาวบังคลาเทศดีกรีปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ แดนจิงโจ้ ผู้เคยร่วมงานกับเทเลนอร์และมีประสบการณ์คร่ำหวอดด้านเทคโนโลยีการสื่อสารจากหลายประเทศ ทั้งบังกลาเทศ ปากีสถาน และออสเตรเลีย ดร.เรดวัน เริ่มต้นชีวิตการทำงานกับดีแทคเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยดูแลรับผิดชอบด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี IoT คลาวคอมพิวติ้ง และ 5G

 

ดรเรดวัน ฮาซาน คาน ผู้อำนวยการ ฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันธุรกิจ ของดีแทค

ส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุด

การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในทุกธุรกิจ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ โดยสาเหตุหลักเป็นเพราะพนักงานจำนวนมากหันมาทำงานจากที่บ้าน ธุรกิจต้องดูแลการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลทั้งกับบุคลากรภายในองค์กรเอง รวมทั้งในส่วนงานขายซึ่งต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และให้การสนับสนุนกระบวนการต่างๆ อย่างเป็นดิจิทัล ซึ่งเราได้เห็นความท้าทายเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับดีแทคดร.เรดวัน อธิบาย

 

Smart Connect เป็นหนึ่งในโซลูชันที่พัฒนาโดย ดร.เรดวัน และสมาชิกจำนวน 5 คนในทีมของเขา โซลูชันดังกล่าวช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวสู่ความปกติใหม่ในยุคโควิด-19 ด้วยเครือข่ายที่ปลอดภัย มี สเถียรภาพและความยืดหยุ่น โซลูชันดังกล่าว ยังช่วยให้พนักงานดีแทคเข้าถึงแพลตฟอร์ม และพอร์ทัลต่างๆ จากที่ใดก็ได้ ซึ่งเขามุ่งมั่นที่จะนำความสำเร็จดังกล่าวไปปรับใช้กับลูกค้าองค์กรของดีแทค ด้วย

 

หัวใจในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจต่างๆ ไปสู่วิถีการทำงานแบบยืดหยุ่นนั้นอยู่ที่ความเรียบง่าย เป็นสาเหตุที่ดีแทคนั้นต้องการส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุด (best value) และสบายใจ ไร้กังวล (worry-free) ในทุกโซลูชันการใช้งาน ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการการเชื่อมต่อและแอปพลิเคชันสำหรับการทำงาน อาทิ Microsoft 365, Workforce Management และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเรารวมมาไว้ในแพ็กเกจเดียว” ดร.เรดวันอธิบาย

 

Digital maturity

ประเทศไทยนั้นมีอัตราการปรับตัวในการใช้งานดิจิทัล (digital adoption) สูง ดังจะเห็นจากการใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานโดยลูกค้าของดีแทค ซึ่งเติบโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทำนองเดียวกัน การแลกสิทธิพิเศษในหมวดช้อปปิ้งออนไลน์บนดีแทคแอปนั้นเติบโต 5 เท่า โดยเราเห็นกระแสความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินและผู้ใช้งานในต่างจังหวัด

เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ digital maturity ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ใช้วัดความเข้าใจและประเมินสถานะปัจจุบันขององค์กรในเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน ตลอดจนศักยภาพในการส่งมอบคุณค่าทางดิจิทัลผ่านสินค้าและบริการดร.เรดวันอธิบาย

 

 

Digital maturity สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 เฟส คือเฟสแรก basic automation หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาทุ่นแรงมนุษย์ในการทำงานที่เป็นกิจวัตร ซึ่งส่วนมากเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ถัดไปเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับส่วนงานขายซึ่งต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและการสนับสนุนบริการต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลและเฟสที่สามนั้น เป็นการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัลเต็มตัว ผ่านการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงานในรูปแบบดิจิทัลตั้งแต่ต้นจนจบ (end-to-end)

 

 

นี่เป็นสาเหตุที่การซื้อเทคโนโลยีใหม่ๆ มาไม่ได้ทำให้บริษัทของคุณกลายเป็นดิจิทัล ตัวชี้วัดอยู่ที่การเปลี่ยนวัฒนธรรมและทัศนคติ (mindset) ขององค์กร ดังนั้น การเข้าใจและประเมินถึงสถานะของคุณในปัจจุบันได้นั้นจะทำให้องค์กรนั้นบรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านได้ง่ายขึ้นมากเขากล่าว

 

วิถีแห่งการร่วมสร้าง

ฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันธุรกิจของดีแทค มีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การประเมินให้คำปรึกษา ไปจนถึงการนำเสนอโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยดีแทคจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางจับคู่ระหว่างลูกค้าและพันธมิตรผู้ให้บริการโซลูชัน และจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนโซลูชันการสื่อสาร แพลตฟอร์ม และการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

 

 

ตัวอย่างที่โดดเด่น คือการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ซึ่งดีแทคนั้นได้พัฒนารูปแบบทดสอบการใช้งาน (use case) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บนคลื่น 26 GHz หรือ Millimeter wave (mmWave) และเทคโนโลยีเครือข่ายส่วนตัว (private network/edge) อาทิ โปรเจกต์กล้องตรวจการณ์อัจฉริยะ การบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ และการบริหารจัดการน้ำ

การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในภาคธุรกิจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศ และสร้างมาตรฐานใหม่ที่สูงขึ้นทางด้านอุตสาหกรรมและปูทางสู่เป้าหมาย Thailand 4.0” ดร.เรดวันทิ้งทาย

[อ่าน 1,746]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรู 5G ปล่อย “GO Travel SIM” โปรแรงในงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 4 รับเน็ตโรมมิ่งฟรี 26-29 มิ.ย. นี้
กสิกรไทย ส่ง K-CHINNO25A-UI ขายรายใหญ่ มุ่งลงทุน Private Equity กลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคตของจีน
ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ฉลองครบรอบ 3 ปี จัดเต็มความบันเทิง อาหารรสเลิศ และความสนุกแบบเต็มพิกัด!
“สิงห์ เอสเตท” แต่งตั้ง “ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์” ขึ้นแท่น "ซีอีโอ" ขับเคลื่อนองค์กรโตยั่งยืน
SPARKLE เปิดเกมรุกตลาดยาสีฟัน ดึง “หลิงหลิง คอง” นั่งพรีเซนเตอร์ใหม่ เจาะ Gen Y & Z ตั้งเป้าโต 20% ในปี 2025
ออริจิ้น โฮเทล ปลื้ม ‘โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชาฯ’ โชว์ผลงานสวนกระแส แม้สภาวะตลาดที่นักท่องเที่ยวหดตัว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved