อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นหนึ่งในสามอุตสาหกรรมหลัก ที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอินเดียอย่างมหาศาล โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับ 2 (รองจากแร่เชื้อเพลิงและสารสกัดจากปิโตรเลียม) หรือมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 12 ของมูลค่าการส่งออกของประเทศโดยรวม และคิดเป็นร้อยละ 6-7 ของ GDP มีผู้ประกอบการกว่า 500,000 ราย และมีการจ้างงานทั่วประเทศราว 5 ล้านคน
ทั้งนี้ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอินดีย ทำสถิติสูงสุดในปี 2554 ด้วยมูลค่าส่งออก 50,194.90 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2563 อินเดียเป็นผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในอันดับที่ 6 ของโลก
https://timesofindia.indiatimes.com
อุตสาหกรรมการเจียระไนเพชรและพลอยสี
อินเดียมีความชำนาญสูงในการเจียระไนเพชรขนาดเล็ก และพลอยสี ระดับราคาปานกลาง ลงมาจนถึงต่ำ ทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางการเจียระไน และการค้าเพชรขนาดเล็ก และพลอยสีที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยศูนย์กลางการเจียระไนเพชรอยู่ที่เมืองสุรัต (Surat) ซึ่งเป็นแหล่งเจียระไนเพชรราวร้อยละ 80 ของเพชรที่เจียระไนทั้งหมดในประเทศ ส่วนเมืองอื่นๆ ที่มีการเจียระไนเพชร ได้แก่ เมืองบาฟนาการ์ (Bhavnagar) และเมืองอาห์เมดาบัด (Ahmedabad)ในรัฐคุชราต (Gujarat) สำหรับการเจียระไนพลอยสีส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองจัยปูร์ (Jaipur) รัฐราชสถาน (Rajasthan) ถือเป็นศูนย์กลางการเจียระไนพลอยสีของประเทศทั้งนี้ในปี2563 อินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกเพชรสำคัญในอันดับที่ 1 ของโลกและเป็นผู้ส่งออกพลอยสีในอันดับที่ 5 ของโลกพร้อมตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้เจียระไนเพชรขนาดใหญ่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกด้วย
อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องประดับแท้
อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตเครื่องประดับเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก ด้วยประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 5,000 ปี โดยการผลิตเครื่องประดับแท้ (เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน และเครื่องประดับเพชร) เริ่มต้นจากอุตสาหกรรมในครัวเรือนซึ่งอาศัยการผลิตแบบดั้งเดิมและใช้แรงงานฝีมือเป็นหลัก
ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบศิลปะอินเดีย ซึ่งจะเป็นเครื่องประดับชิ้นใหญ่ น้ำหนักมาก เน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ต่อมาอินเดียได้พัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีการผลิต และเครื่องจักรทันสมัยมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เครื่องประดับที่มีรูปแบบทันสมัย น้ำหนักเบา และสามารถผลิตได้ปริมาณมากขึ้น
อินเดียจึงสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดโลกได้ จนกลายเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องประดับทองและเครื่องประดับเงินรายใหญ่ของโลกในปัจจุบัน ในปี 2563 อินเดียเป็นผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินเป็นอันดับ 1 ของโลกและส่งออกเครื่องประดับทองเป็นอันดับ 4 ของโลก
ทั้งนี้ แหล่งผลิตเครื่องประดับเงินสำคัญจะอยู่ในกรุงนิวเดลี (New Delhi) เมืองสุรัต (Surat) โกลกาตา (Kolkata) มุมไบ (Mumbai) และจัยปูร์ (Jaipur) ส่วนแหล่งผลิตเครื่องประดับทองสำคัญจะอยู่ในเมืองโกลกาตา ตฤศศูร (Thrissur) และมุมไบ
https://www.business-standard.com
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการอินเดียได้พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัย พัฒนาการออกแบบ และฝีมือแรงงาน ในขณะที่ภาครัฐก็ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะ เพื่อทำหน้าที่เพิ่มขีดความสามารถในการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ได้แก่ Gem and Jewellery Export Promotion Council (GJEPC) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม Gem & Jewellery Skill Council of India (GJSCI) ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะแรงงานทั่วประเทศ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพัฒนาทักษะและผู้ประกอบการ เป็นต้น รวมถึงยังได้ให้การสนับสนุนในหลายด้านแก่อุตสาหกรรมฯ ดังนี้
ด้านภาษี
ด้านการค้าและการลงทุน
ด้านความตกลงระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ นโยบาย Make In India ที่รัฐบาลประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา จะช่วยยกระดับคลัสเตอร์เครื่องประดับอินเดียสู่มาตรฐานการส่งออกระดับสากล ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกได้มากขึ้น โดยอินเดียตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอินเดียเป็น 75,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มการจ้างงานในอุตสาหกรรมอีก 2 ล้านตำแหน่งภายในปี 2565
ความสำเร็จของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดีย อันเนื่องมาจากปัจจัยที่หลากหลายจากทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตนเองของผู้ประกอบการอินเดีย ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ การทำความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าสำคัญเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และการออกมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ ของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ล้วนส่งผลให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับอินเดียเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนกระทั่งปัจจุบัน
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
>>> https://infocenter.git.or.th <<<