บล็อคฟินท์ ชู ESOP ผลตอบแทนรูปแบบใหม่ของคนทำงานสตาร์ทอัพ
06 Sep 2021

 

เรียกว่าเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ไม่เคยหยุดนิ่งจริงๆ สำหรับ บล็อคฟินท์ ฟินเทคสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันแบบ System Software ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ล่าสุด ได้นำระบบการจัดสรรหุ้นให้พนักงาน ที่เรียกว่า Employee Stock Ownership Plan  หรือ ESOP มาใช้ในองค์กร เพื่อให้พนักงานสามารถเป็นเจ้าของบริษัทได้

 

จุดตั้งต้นของ ESOP ที่บล็อคฟินท์

สุทธิพงศ์ กนกากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บล็อคฟินท์ จำกัด เล่าถึงการให้หุ้นแก่พนักงาน เป็นสิ่งที่นิยมทำกันมากในต่างประเทศที่รู้จักกันดีในชื่อ ESOP ที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2517 และใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันมีประมาณ 11,000 บริษัทที่มีการใช้ ESOP และพนักงานกว่า 8 ล้านคนมีส่วนเกี่ยวข้อง และด้วยประสบการณ์ตรงที่ได้ทำงานที่ซิลิคอนวัลเลย์มากว่า 20 ปี แล้วได้รับประโยชน์จาก ESOP ว่าสามารถสร้างมูลค่าให้พนักงานได้ เลยนำวัฒนธรรมการถือหุ้นของพนักงานแบบอเมริกามาใช้กับบล็อคฟินท์

           

“ผมไปทำงานอยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์มาตั้งแต่ปี 2536 และได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง ESOP ที่ให้หุ้นแก่พนักงาน เพื่อดึงดูดคนเก่งๆ ให้มาทำงานด้วย โดยการให้หุ้นกับพนักงานเพื่อให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Sense of Ownership) ร่วมกัน เพราะการแข่งขันของบริษัทที่นั่นมีสูงมาก บริษัทขนาดเล็ก ที่แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีดีๆ แต่อาจจะสู้ค่าตอบแทนกับบริษัทขนาดใหญ่ไม่ได้ เลยมีแนวคิดเรื่อง ESOP นี้ออกมาซึ่งคนสมัครงานก็จะตัดสินใจเลือกว่าอยากจะรับเงินเดือนก้อนใหญ่ ๆ หรือเลือกรับเงินเดือนกับบริษัทขนาดย่อมลงมาที่จ่ายน้อยกว่า แต่มีโอกาสถือหุ้นในบริษัทที่กำลังเติบโตมี value สูงๆ ที่อาจจะทำกำไรให้ได้ในอนาคต”

 

           

 

 “การที่บล็อคฟินท์นำ ESOP มาใช้กับพนักงาน เพราะอยากให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัท ผมเชื่อในวัฒนธรรม sense of ownership อย่างมากว่าจะช่วยให้บริษัทเติบโตและประสบความสำเร็จ เพราะหากบริษัทเติบโต หุ้นที่พวกเขามีก็จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นไปด้วย  สิ่งที่ตามมาคือจะทำให้เขาตั้งใจทำงานมากขึ้น หรือช่วยกันทำงานอย่างจริงจัง แล้วก็อยู่กับบริษัทนานขึ้นด้วย โดยไม่มีการจำกัดว่าหุ้นที่จะจัดสรรต้องเป็นเฉพาะผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น เพราะทุกคนในบริษัทควรจะได้มีสิทธ์ได้รับตามสัดส่วนในการทำงาน”

 

สำหรับ ESOP ที่บล็อคฟินท์ จะใช้วิธีให้ Stock Option ทุกปีกับพนักงานที่มีผลงานดี โดยราคาก็จะเป็นไปตามราคามูลค่าตามบัญชี (Book Value) ของบริษัท ซึ่งจะถูกกว่าราคาที่นักลงทุนจะจ่ายเงิน จำนวนของหุ้นที่ได้จะไม่เท่ากัน ขึ้นกับมูลค่าหุ้นของบริษัทที่ขายให้นักลงทุนได้ในตอนนั้น  อีกทั้งยังเปิดให้พนักงานเลือกได้ด้วยว่าจะเอาเงินเดือนน้อยลง แล้วเอาหุ้นที่มีมาใช้เป็นราคาสิทธิ์ (exercise price) ที่มากขึ้นได้ โดยปริมาณหุ้นที่บล็อคฟินท์กันเอาไว้สำหรับพนักงานนั้นสูงสุดถึง 20 เปอร์เซ็นต์

 

“ผมมองว่า ESOP เป็นเครื่องวัดทัศนคติในการทำงานอีกแบบหนึ่ง เพราะบล็อคฟินท์ต้องการพนักงาน ที่รับความเสี่ยงได้บ้าง และรู้จักที่จะคำนวณความเสี่ยง มีความเข้าใจว่าต้องช่วยกันทำงาน เพื่อเป้าหมายในการเติบโตของบริษัท โดยผมตั้งเป้าไว้สำหรับ software engineer เก่งๆ ว่าอยากให้เขาได้จับเงิน 10 ล้านหรือมากกว่านั้นจาก Stock Option ในระยะเวลา 4-6 ปี ซึ่งผมก็หวังว่าถ้าเราประสบความสำเร็จขึ้นมา พนักงานเราจะเอาเงินที่ได้มาไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ” สุทธิพงศ์ กล่าวเสริม

 

การสร้างบรรทัดฐานของเส้นทางอาชีพให้กับ software engineer

สุทธิพงศ์ ยังเผยถึงมุมมองเกี่ยวกับคนทำงานสาย Tech ซึ่งเป็นสายงานหลักของบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทยว่า คนทำสายนี้ หรือคนเขียน Software อย่าง software engineer ที่มีคุณภาพสูงในประเทศไทยยังขาดแคลน เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาชีพนี้เท่าที่ควร ทำให้คนที่อยู่ในสายงานนี้ผลตอบแทนไม่สูง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนสายงาน บล็อคฟินท์จึงต้องการสร้างบรรทัดฐานให้สตาร์ทอัพในเมืองไทยให้คุณค่าแก่คนทำงานและสร้าง career path ที่ดีให้กับคนทำงานด้านนี้ ด้วยการนำระบบ ESOP มาใช้ เพื่อให้คนกลุ่ม Tech สามารถเติบโตในสายงานของตัวเองโดยไม่ต้องย้ายตัวเองไปทำงานอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า

 

 

“สิ่งที่ผมทำไปไม่ใช่แค่เฉพาะบล็อคฟินท์เท่านั้น แต่ผมมุ่งหวังจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพื้นฐานในประเทศไทยด้วย ผมอยากสร้างตัวอย่างให้ธุรกิจเห็นความสำคัญของคนทำงานสาย tech หรือ software engineer มากขึ้น หากบริษัทสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจอื่นๆ นำ ESOP เข้ามาใช้ ก็จะสามารถช่วยดึงมาตรฐานของคนเขียนซอฟต์แวร์ และเพิ่มปริมาณคนด้านนี้ในระยะยาว อีกทั้งจะทำให้คนเก่ง หันมาเขียนโค้ดมากขึ้น” สุทธิพงศ์กล่าวสรุป

 

 

 

[อ่าน 2,961]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Thailand Fast Track ทางด่วนสตาร์ทอัพต่างชาติสร้างธุรกิจในไทย
‘Miguo’ สตาร์ทอัพตัวจี๊ดจากจีน อัจฉริยะทางลัด หรือหายนะของศิลปิน?
"น่าอยู่" ปิดระดมทุนพรี ซีรีส์ A พร้อมขยายทั่วไทย-บุกอาเซียนปี 2572
InnoSpace Thailand จัดงาน InnoSpace Summit 2025 เดินหน้าขยายการลงทุนใน DeepTech Startup
ออมสิน ช่วย SME เร่งเครื่องธุรกิจด้วย ESG สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน “SME Gear Up ติดปีกธุรกิจด้วย ESG”
Google Workspace ขับเคลื่อนอนาคตของการทำงานด้วยพลัง AI สำหรับทุกธุรกิจ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved