โครงการ ‘ศิตา พาดูแบรนด์’ ที่ ‘ศิตา เอเจนซี่’ เปิดรับแบรนด์จากบรรดาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศที่สนใจเข้าโครงการเพื่อสร้างแบรนด์ สร้างยอดขาย โดยมี ‘ศิตา เอเจนซี่’ เป็นพี่เลี้ยงติวเข้มภายในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ จากบรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่สนใจสมัครเข้าโครงการกว่าครึ่งร้อย ได้รับการคัดเลือก 3 แบรนด์ตามที่โครงการประกาศไว้แต่แรก โดยเป็นแบรนด์ในภาคธุรกิจที่แตกต่างกัน
ธนิดา เกลอแก้ว หรือ ‘ซินดี้’ นักยุทธศาสตร์แบรนด์ ได้ชี้ถึงจุดอ่อน จุดแข็ง และแนวทางว่าจะ ‘ไปต่อ’ อย่างไร
หลักเกณฑ์ในการเลือกแบรนด์สินค้าของโครงการ ‘ศิตา พาดูแบรนด์’
จากบรรดาแบรนด์ทั้งหมดที่ส่งเข้าในโครงการกว่าครึ่งร้อยนั้น เราไม่ได้คัดเลือกแบรนด์ที่ดีที่สุด หรือแบรนด์ที่เก่งที่สุด แต่เราเลือกแบรนด์จากสองข้อหลักๆ อันแรกคือความชัดเจนใน BUSINESS MODEL ของเขา อันที่สอง คือความคิดในเชิงสร้างสรรที่มีต่อตัวสินค้า และบริการของเขา โดยแบรนด์ที่เราเลือกครั้งนี้ จะมีทั้งแบรนด์ที่มีเงินทุนมาก และแบรนด์ที่มีเงินทุนน้อยคละกัน
ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะมีโอกาสสร้างความเข้าใจให้กับเจ้าของสินค้า และบริการที่ยังเข้าใจว่า การสร้างแบรนด์จะต้องใช้เงินมาก ต้องลงทุนมหาศาล ซึ่งแท้จริงมิได้เป็นเป็นเช่นนั้นซะทั้งหมด เพราะเอาเข้าจริงหากคุณไม่เข้าใจในการสร้างแบรนด์ ถึงจะใช้เงินถมไปเท่าไหร่ ก็ไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่ต้องการ แต่ตรงกันข้าม...หากมีความเข้าใจใน ‘แบรนด์ดิ้ง’ และมีความคิดสร้างสรรในเชิงกลยุทธ์ที่ดี บางทีผลลัพธ์ที่ได้ อาจมหาศลากว่าเม็ดเงินที่ใช้ออกไปหลายเท่านัก ซึ่งนี่เป็นเพียงบางส่วนขององค์ประกอบที่เราทำการคัดเลือกจนได้สินค้า 3 แบรนด์ที่มีความหลากหลายในปีนี้
3 แบรนด์ที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ ประกอบด้วย แบรนด์อะไรบ้าง
แบรนด์แรก ‘โอวาโด’ (Ovado) เป็นกลุ่มสินค้าสุขภาพที่ยังคงเป็นเทรนด์ฮิตของตลาดโลกที่จะไปต่อได้ ส่วนแบรนด์ที่สองเป็นกลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือแบรนด์ ‘ปายนา’ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าจำเป็นคู่โลก โดยเห็นได้จากกระแสความตระหนกจากข่าววิกฤติอาหารโลก ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ และแบรนด์ที่สาม คือ Gloss เป็นสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งเป็นอีกกลุ่มสินค้าที่ยังคงอยู่ในกระแสเทรนด์ของโลกอีกเช่นกัน
แล้ว 3 แบรนด์มีจุดอ่อน จุดแข็งหรือไม่ และเราต้องทำให้ ‘มูฟออน’ ได้อย่างไร
3 แบรนด์นี้มีจุดอ่อน จุดแข็ง และปัญหาคนละแบบ กล่าวคือ
สำหรับแบรนด์ ‘โอวาโด’ (Ovado) มีจุดแข็งที่สร้างมาแทบจะครบแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของโปรดักท์ ที่มีการจัดการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกทั้งยังมีรางวัลจากสถาบันต่างๆ มาสนับสนุนความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์โดยตรงกับสินค้ากลุ่มอาหารเสริม โดยแบรนด์นี้มีฟาร์มปลูกอะโวคาโดเองโดยตรง ชื่อบริบูรณ์ฟาร์ม อยู่จังหวัด นครราชสีมา จากนั้นจึงนำมาผลิตเป็น 'อะโวคาโด ซอฟต์เจล' ทำแบรนด์เอง แล้วขายผ่านช่องทางออนไลน์ก่อน
Facebook : boriboonavocado // Website: www.boriboonfarm.com // OVADO Line OA: @boriboonavocado
ความท้าทายของแบรนด์นี้ คือเรื่อง ‘โลโก้และชื่อแบรนด์’ ซึ่งแม้จะดูว่าเป็นอะไรเล็กๆ ที่วางอยู่บนผลิตภัณฑ์ แต่เอาเข้าจริงแล้ว มันคือปัญหาใหญ่ที่อาจนำไปสู่คำว่า ‘รุ่ง’ หรือ ‘ร่วง’ ของแบรนด์ได้เลย เพราะถ้าคนจำชื่อแบรนด์ไม่ได้ บอกชื่อแบรนด์ไม่ถูก จะเกิดการซื้อหรือพูดถึงได้อย่างไร ตอนนี้เรากำลังให้ทีมงานของบริษัท ศิตา เอเจนซี่ ระดมไอเดียเพื่อออกแบบโลโก้ใหม่ให้ดูเป็นตัวอย่าง รวมถึงคิดไอเดียเพื่อเป็น CREATIVE CONCEPT ใหม่ๆ ในการสื่อสารแบรนด์ของ ‘โอวาโด’ ในมุมอื่นๆ ให้ว้าวขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
Facabook : ก๋วยเตี๋ยวเรือปายนา // Line id : chokaew
ต่อมาคือ..แบรนด์ก๋วยเตี๋ยวเรือ ‘ปายนา’ ถ้าดูเผินๆ เขาก็ทำภาพโฆษณาได้สวยงาม แต่สำหรับเรา มองว่าเป็น ‘ความสวย ที่ไม่สื่อ’ เพราะมันดูแน่นไปหมด จึงทำให้ขาดสเน่ห์ในการสร้างความจดจำไปอย่างน่าเสียดาย ที่สำคัญคือเราจะพยายามเน้นจุดขายในความเป็นถ้วยร้อนคือ ‘เติมน้ำปิดฝาแล้วทานได้เลย’ อร่อยบวกสะดวกตอบโจทย์ชีวิตคนไทยยุคใหม่ได้ดี
นอกจากนี้ยังจะมีเรื่องของการสื่อสาร กระตุ้นให้ผู้บริโภค สามารถสัมผัสถึงความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเรือปายนาได้ ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ชิม ซึ่งถือเป็นงานที่ท้าทายของซินดี้ และทีมงานบริษัท ศิตา เอเจนซี่ มากๆ แต่ก็เชื่อว่าเราทำได้ และ ณ วันนี้ เจ้าของแบรนด์ยืนยันว่า จะขายทางช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดียเท่านั้น การคิดคอนเทนต์ดีๆ โดนๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์นี้จะขาดไม่ได้
Facebook : gloss_skiin // IG : gloss.officially // LiNE : https://lin.ee/gHPsyIX
ส่วนแบรนด์ที่ 3 คือ Gloss ต้องบอกว่าเค้ากล้าหาญมากที่คิดทำสินค้า TYPE นี้ในตลาดประเทศไทย เพราะโดยทั่วไป คนไทยมีสมการในมโนคติมายาวนานเหลือเกินว่า ขาว=สวย, สวย=ขาว คือยังคงวนในเรื่องความขาวอยู่แล้วที่ผ่านมาที่ Gloss สื่อสารแบรนด์ด้วย KEY WORD ที่ว่า ‘หน้าเงา’ อันนี้จึงดูอันตราย เพราะอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนแก่ผู้บริโภคคนไทยได้ เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อน เมื่อใช้คำว่า ‘หน้าเงา’ คนจะคิดว่านั่นเท่ากับ ‘หน้ามัน’ ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะทำให้ ‘หน้าเงา’ = ‘ผิวหน้า ฉ่ำน้ำ สุขภาพดี’ อันนี้จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายอันดับหนึ่งของเราเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังจะต้องมีการปรับ AD และ CONTENT ให้เป็น AD ที่สามารถสื่อสารแบรนด์ให้มากกว่าที่เคยทำผ่านๆ มาอีกด้วย เพราะถ้า AD ‘สวย’ แต่ ‘ไม่สื่อ(สาร)’ ผลลัพธ์คือเท่ากับ ‘ศูนย์’
การติวเข้มภายใน 3 เดือนเมื่อเข้าร่วมกับ ‘โครงการศิตา พาดูแบรนด์’ คืออะไร
เดือนแรกต้องให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ก่อน และชี้ให้เห็นว่า ทำไมจะต้องสร้างแบรนด์และสิ่งที่แต่ละแบรนด์ได้ทำผ่านมานั้นตอบโจทย์อะไร ส่วนเดือนที่สองคือ การพัฒนาในจุดต่างๆ ที่เห็นว่ายังเป็นจุดอ่อน และเดือนที่สามจะเป็นการต่อยอดจุดแข็งของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คาดหวังอะไรกับโครงการนี้
เราคาดหวังให้คนเห็นความสำคัญของการสร้างแบรนด์ เพราะใครที่ขาดตรงนี้จะทำให้ไปไม่ถึงดวงดาวอย่างน่าเสียดาย ในยุคนี้นอกจากจะต้องทำโปรดักท์ให้ดีแล้ว ก็ยังจะต้องสร้างแบรนด์ให้ดีควบคู่กันไปอีกด้วย
สร้างแบรนด์ให้ดัง ใช้ตังค์เยอะมั้ย
ยอมรับว่ามีคนถามเยอะเลยว่า ‘สร้างแบรนด์ให้ดัง ใช้ตังค์เท่าไร’ หรือ ‘สร้างแบรนด์ให้ดังใช้ตังค์เยอะมั้ย’ จริงๆ ในการสร้างแบรนด์นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะเสมอไป ถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักการใช้กลยุทธ์ดีๆ ที่เหมาะกับสินค้าตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม...ก็ต้องยอมรับว่า การสร้างแบรนด์โดยมีเงินสนับสนุนเยอะๆ ก็ถือเป็นความได้เปรียบของแบรนด์นั้นๆที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน แต่สำหรับบริษัท ศิตา เอเจนซี่ และ ซินดี้ เราทำงานในแบบที่ดีไซน์ให้เหมาะสมกับภาคธุรกิจและงบประมาณของลูกค้าที่มี ดังนั้นตังค์เยอะตังค์น้อย เราสามารถทำให้ได้หมด พร้อมกับมีผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กับงบประมาณที่ลูกค้ามีอยู่ โดยจะพูดคุยก่อนเริ่มทำงานร่วมกันอย่างชัดเจนในทุกๆ มิติ
และที่เป็นห่วงมากๆ คือ..ในคนที่ยังเข้าใจว่า แค่มีเงินผลิตสินค้าจากโรงงาน จากนั้นก็เอามาโพสต์ในเฟซบุ๊คแล้วก็ยิง AD เท่านี้ก็ขายของได้ ถ้าคิดเท่านี้อยากให้ระวัง เพราะหลายแบรนด์เจ๊งไม่เป็นท่า แทนที่จะได้เป็นอายุน้อยร้อยล้าน ต้องกลายเป็นอายุน้อยร้อยลี้หนี้ท่วมตัวไปได้ง่ายๆ ดังนั้นก่อนจะลงมือทำสิ่งใดอยากให้ศึกษาหาความรู้ให้ดี ก่อนลงมือทำ, ก่อนการลงทุน หรือไม่ก็ควรที่จะมีที่ปรึกษาดีๆ เข้ามาช่วยให้มีมุมมองทางธุรกิจกว้างไกลขึ้นดีกว่าที่จะดุ่มๆ คิดเอง ทำเอง นักเลงพอ อะไรแบบนั้น คือไม่อยากให้นักเลงต้องมานั่งเสียใจเอง ก็เท่านั้นเองอ่าค่า
ถ้าแวะมาคุยกับ ‘ศิตา เอเจนซี่’ ก่อนเชื่อว่า
ผู้ประกอบการ ‘สร้างแบรนด์ให้ดัง ใช่ตังค์ถูกที่ถูกทาง’ แน่นอน
ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้...
'ศิตา เอเจนซี่' ยินดีที่จะให้คำปรึกษาในเบื้องต้นฟรี กับผู้ประกอบการที่สนใจอยากสร้างแบรนด์ และอยากไปต่อ
เพื่อเป็นการตอบแทนสังคม
โดยสามารถติดต่อเข้ามาที่ LINE Official @sitaagency
facebook : Do Branding By Cindy
Podcast See-True Branding ผ่านแอปพลิเคชั่น Sportify, google และ เว็ปไซด์ SoundCloud.com
Tel...095 291 6199
See-True Branding - MarketPlus Magazine issue 147