บริดจสโตน ประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจระยะกลาง – ระยะยาวให้บรรลุเป้าหมายสู่การเป็น ‘องค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน’ ในปี 2050 (พ.ศ. 2593) ผ่านการส่งมอบ 8 คุณค่า ‘Bridgestone E8 Commitment’  หรือ ‘พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน’ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร และชูแนวคิดนำนวัตกรรมสร้าง ‘ความยั่งยืน’ ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการขาย ต่อยอดความไว้วางใจของลูกค้า พร้อมส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า เพื่อให้เป็นต้นทุนการเติบโตทางธุรกิจ และนำไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

จากเส้นทางยุทธศาสตร์ Bridgestone 3.0 ของ นั้น เคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด เปิดเผยว่า “เส้นทางของแบรนด์เริ่มตั้งแต่ Bridgestone 1.0  ในปี 1931 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งที่มุ่งกับการผลิตผลิตภัณฑ์ยางและยางรถยนต์ โดยทำตลาดในญี่ปุ่นและเอเชีย และ Bridgestone 2.0 ในปี 1988 และในขณะนั้นเป็นห้วงเวลาที่องค์กรมุ่งเติบโตสู่การเป็นบริษัทระดับโลก (Global Company) ขณะที่ปี  2020 เป็นปีแรกของ Bridgestone 3.0 ที่มุ่งสู่การเป็น ‘องค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน’  (Sustainable Solutions Company) โดยได้กำหนดแผนระยะกลาง (ปี 2021 - ปี 2022) และแผนระยะยาว เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น ‘องค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน’ ในปี 2050 พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจทั้งผลิต จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ การส่งมอบโซลูชั่นต่างๆ และการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขยายฐานธุรกิจของตนเองออกไป”

ดังนั้น เพื่อการยกระดับและบรรลุถึงวิสัยทัศน์ดังกล่าว บริดจสโตน จึงได้ประกาศ Bridgestone E8 Commitment หรือ พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน เพื่อเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการบริหาร ซึ่งจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่าน ‘เจตจำนง’ และ ‘กระบวนการทำงาน’ ร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้าเพื่อสร้างสรรค์ความยั่งยืนให้สังคมต่อไป และได้มาซึ่ง ‘ความไว้วางใจของลูกค้า’ รวมถึงเป็นแนวทางในการตัดสินใจ การพัฒนา และการส่งมอบผลิตภัณฑ์/บริการ โซลูชั่นด้านการเดินทาง รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

ทั้งนี้ Bridgestone E8 Commitment หรือ พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตนนั้นมีทั้งมิติของความยั่งยืน และมิติทางสังคม  ประกอบด้วย

• Energy (พลังงาน) เพื่อมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน ตั้งแต่กระบวนการการผลิตจนถึงการขาย ผ่านโซ่คุณค่าของบริดจสโตน อาทิ การใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครั้งแรกที่บริษัท บริดจสโตน ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จ.ชลบุรี เพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตภายในโรงงานผลิตยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร        
• Ecology (สิ่งแวดล้อม) เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริงเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเป็นฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ และริเริ่มการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การเน้นถึงคุณค่าของการใช้ยางรถยนต์และเมื่อถึงเวลาของการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ โดยมี  ENLITEN  ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตนในการพัฒนายางให้มีน้ำหนักลดลงได้ถึง 20% และทำให้ลดการใช้วัตถุดิบในการผลิตยางได้ 2 กก./เส้น ช่วยลดการต้านทานการหมุนของยาง อัตราการสึกหรอของยางดีขึ้นและทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น
• Efficiency (ประสิทธิภาพ) เพื่อขีดสุดของความสามารถในการผลิตสินค้าที่ดีที่สุดของวงการยางรถยนต์ มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพผ่านโซ่อุปทานของบริดจสโตน โดยพัฒนาและส่งมอบสินค้า/บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอันล้ำหน้าของบริดจสโตน เช่น โปรแกรม Toolbox หนึ่งในโปรแกรมการบริหารจัดการยางแบบมืออาชีพของบริดจสโตน (B-Solution) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งานกลุ่มยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง
• Extension (การเติบโต) เพื่อให้สังคมเคลื่อนที่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นทั้งด้านนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่จะทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้ ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของตลาดยางรถยนต์ที่คิดค้นมาทั้งเรื่องผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น เพื่อตอบทุกโจทย์ของสังคมแห่งการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันมี ค็อกพิท (Cockpit) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร และ Bridgestone Truck Tire Center (ศูนย์บริการยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์บริดจสโตน) และ Bridgestone Fleet Point (จุดบริการยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์บริดจสโตน)  

คุณค่าทั้ง 8 ด้านของ Bridgestone E8 Commitment

เด็กที่จับมือล้อมรอบวงกลม หมายถึง ความมุ่งมั่นของบริดจสโตน ที่มุ่งส่งมอบคุณค่าสู่ความยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลังในอนาคต

• Economy (เศรษฐกิจ) ดำเนินธุรกิจควบคู่กับสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปให้สุด ผ่านโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอกย้ำความเป็นองค์กรชั้นนำของบริดจสโตน เช่น การปรับปรุงเรื่องต้นทุน ทั้งในมิติของลูกค้าและองค์กร ได้แก่ กระบวนการผลิตยางหล่อดอก เรเดียล เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ
• Emotion (ความรู้สึก) โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประสบการณ์ใหม่ๆ แนวเอ็กซ์สตรีม เพื่อสร้างความตื่นเต้นสู่โลกการเดินทางผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต กีฬา และอื่น ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Bridgestone POTENZA SPORT ยางสปอร์ตพรีเมียมใหม่ล่าสุด ภายใต้สโลแกน ‘ความเป็นที่สุด หยุดเราไม่ได้’ หรือ ‘Better Never Settles’ และการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในรายการ Bridgestone World Solar Challenge
• Ease (ความสะดวกสบาย) บนหลักการที่บริดจสโตนยึดมั่นมาตลอด คือ ‘ยางดูแลชีวิต’ โดยมุ่งทำให้ทุกการเดินทางของผู้ขับขี่มีแต่ความสุขสงบและสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  ภายใต้การดำเนินธุรกิจยางล้อเครื่องบินอย่างครบวงจรที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้แก่ ยางล้อเครื่องบิน ยางหล่อดอกล้อเครื่องบิน และงานบริการที่ส่งตรงถึงลูกค้าทั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและธุรกิจสายการบิน  ซึ่งเป็นจุดแข็งของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับธุรกิจการบิน
• Empowerment (พลังทางสังคม) มิติทางสังคมที่มุ่งผลักดันสังคมเพื่อความเท่าเทียม สนับสนุนความเสมอภาค  และความหลากหลาย ยอมรับความแตกต่าง ลดช่องว่างการเหลื่อมล้ำ และรวมพลังแก้ปัญหาสังคมโดยการอยู่เคียงข้างและรับฟังปัญหาจากชุมชนอย่างแท้จริง ภายใต้กิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ อาทิ โครงการ Bridgestone Global Road Safety ที่จ.ภูเก็ต เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง  

“เราเชื่อมั่นว่า Bridgestone E8 Commitment จะช่วยให้บริดจสโตนบรรลุเป้าสู่การเป็นองค์กรเพื่อส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน เพราะไม่เพียงจะสร้างมูลค่าในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเท่านั้น แต่ยังการสร้างมูลค่าต่อเนื่องจากการใช้ยางให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นในธุรกิจที่กำลังเติบโต เช่น ธุรกิจโซลูชั่นที่กำลังเติบโต รวมไปถึงการมุ่งหาธุรกิจใหม่ ๆ (Exploration Business) เกี่ยวกับรีไซเคิล เช่น การนำโครงยางเก่ามาหล่อ เพื่อยืดอายุการใช้งาน เพราะยางเรเดียลยังคงมีค่า แม้จะผ่านการใช้งานไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับหลักการความยั่งยืนของบริดจสโตน”  เคอิจิ ชูมะ กล่าว