คนเราจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้การสื่อสารเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต และถ้าต้องการทำการตลาดให้เข้าถึงผู้คนให้มากที่สุด หรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Target) ที่เราต้องการมากที่สุด เราก็จะต้องใส่ใจกับการทำการสื่อสารการตลาดอย่างเข้าใจ (Marketing Communication)

ยิ่งในยุคโซเชียลมีเดีย ในแต่ละวันผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารและสื่อโฆษณาหลากหลายช่องทาง รายล้อมเต็มไปหมด  การที่เจ้าของแบรนด์สินค้าและนักการตลาดต้องเตรียมการสื่อสารและสามารถสร้าง Key Message ของสินค้าบริการ ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายและสร้างให้เกิดการจดจำได้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

ซึ่งถ้าหากว่าเรานำเสนอ Key Message ของสินค้าบริการ ออกมาได้ไม่ตรงจุด ไม่แตกต่าง หรือมีความชัดเจนที่มากพอ ก็จะทำให้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายไม่สามารถจดจำแบรนด์ของเราได้ รวมถึงอาจนึกถึงและลังเลจนไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งแทนอีกด้วย

ในฉบับนี้ Marketing 101 จะพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกันว่า Key Massage คืออะไร รวมถึง Key Message ที่ดีที่ช่วยให้แบรนด์ปังได้นั้นต้องเป็นอย่างไร  ติดตามกันได้เลยครับ

Key Message คืออะไร

Key Message คือ ข้อความสั้นๆ หรือคำพูดที่กระชับ เข้าใจง่าย

และที่สำคัญคือเป็นแก่นของสิ่งที่เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดจะนำเสนอและต้องการจะสื่อสารออกไปยังกลุ่มเป้าหมาย และต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการรับรู้รวมถึงอยากให้เกิด Action อะไรกับกลุ่มเป้าหมาย

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการสื่อสารจะประสบความสำเร็จได้ก็มาจากการคิด Key Message ที่ใช่ เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจให้ได้นั่นเอง  

ซึ่งการสร้าง Key Message นับเป็นสิ่งที่เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดต้องวางแผนให้ดีไม่แพ้การวางกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร การสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด

และช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความเข้าใจเห็นภาพทั้งหมดของสินค้าบริการ และเชื่อมโยงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณสื่อสารออกมานั้นมันเติมเต็มพวกเขาได้อย่างไร

ดังนั้น เรื่องของ Key Message ที่ดึงดูดใจจึงค่อนข้างเกี่ยวเนื่องกับความรู้สึกทางอารมณ์ การเชื่อมโยงระหว่างคุณกับกลุ่มเป้าหมาย การสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกที่ดีมากที่สุด

Key Message ที่ดีต้องเป็นอย่างไร

• Key Message ต้องกระชับ ชัดเจน ไม่เวิ่นเว้อ ไม่กำกวม
• Key Message ต้องง่าย ไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการจดจำ
• Key Message ต้องสามารถสื่อสารอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ไม่สร้างความกังวลใจ
• Key Message สามารถสร้างความแตกต่างและเป็นจุดเด่นได้
• Key Message สามารถช่วยโน้มน้าวให้เกิดความน่าสนใจได้ในไม่กี่คำ
• Key Message ต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนฟัง ช่วยแก้ปัญหา มีประโยชน์

ขอยกตัวอย่าง Key Message ของแบรนด์ต่างๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสินค้าและสามารถทะยานเข้าไปนั่งใจ ผู้บริโภคหรือผู้รับสารได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แก่

ไอศกรีมแม็กนั่ม (Magnum)

ไอศกรีมระดับพรีเมียม ที่ใช้ Key Message ว่า ‘ช็อกโกแลตแท้จากเบลเยียม’ ตอกย้ำในทุกช่องทาง และมุ่งเปลี่ยนความคิดผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจากความเข้าใจว่าช็อกโกแลตที่ดีนั้นต้องมาจากสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น

มีผลทำให้คนรู้สึกว่านี่คือช็อกโกแลตพรีเมียมของแท้ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและทำให้เกิดการซื้อมากขึ้น

ขนมช็อกโกแลตสอดไส้เวเฟอร์คิทแคท (Kitkat)

ที่สามารถสร้าง Key Message ที่คนไทยจดจำ ติดหู และพูดติดปากชนิดที่เรียกว่าแค่ขึ้นต้นมาทุกคนสามารถพูดต่อจนจบได้ อย่างแบรนด์ ‘คิทแคท’ กับประโยคสุดคลาสสิกที่ว่า ‘คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท’

เมื่อนึกถึงการทำงานก็จะนึกถึงคิทแคท เป็นขนมกินเล่นระหว่างพักนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จของแบรนด์ คิทแคท ที่ถูกยกมาเป็น Case Study ของการตลาดอยู่บ่อยครั้ง

Apple

ที่ใช้ Key Message Think Different เป็นอีกข้อความที่คลาสสิกไปตลอดกาล ของแบรนด์ที่สามารถเปลี่ยนโฉมโลกใบนี้สู่โลกใบใหม่ โดยเริ่มจากการสร้างนวัตกรรมแผงวงจรคอมพิวเตอร์

จากนั้นก็ได้เกิดนวัตกรรมอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น MacBook, iPod, iPhone, iPad ฯลฯ และยังสามารถบอกตัวตนของผู้ใช้ในเรื่องของความแตกต่างจากคนอื่นๆ จนทำให้ปัจจุบัน Apple กลายเป็นบริษัทหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก 

ดังนั้น หากเจ้าของแบรนด์และนักการตลาดสามารถสร้าง Key Message ของสินค้าบริการ ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย แล้วสื่อสารออกไปทุกช่องทาง

ก็ถือเป็นเทคนิคในการจุดพลุแบรนด์ให้ติดตลาดได้เป็นอย่างดีได้เช่นกัน