มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังการรวมทรูดีแทคกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา
ผลตอบรับของลูกค้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้าที่รับสิทธิพิเศษทั้งทรูและดีแทครวมเพิ่มอีกมากกว่า 33 ล้านรายการ มียอดผู้ใช้งานดิจิทัลแพลตฟอร์มเพิ่มใหม่อีกมากกว่า 800,000 ราย
ตอกย้ำแนวคิด "ชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน (Better Together)" ที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นของการผสานพลังส่งมอบความสุข ความคุ้มค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเรา
ซึ่งการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่ดียิ่งกว่าอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจทรู คอร์ปอเรชั่น ที่จะนำระบบนิเวศสื่อสารดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครบวงจรที่สุด ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุด AI และ Data Analytic ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ทั้งนี้รวมสุดยอดพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่ครบครัน มุ่งเปลี่ยนผ่านชีวิตคนไทยทั่วประเทศ ทรานสฟอร์มประเทศไทยสู่วิถีดิจิทัลที่เร็วยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันก็จะทำให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นแบรนด์ที่รักและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทย โดยจุดยืนของแบรนด์ทรูคือจะเป็นแบรนด์ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน (Your Everyday Living - Tech)
โดยล่าสุดเราได้ต้อนรับพรีเซ็นเตอร์คู่ขวัญ นาย และใบเฟิร์น เข้าสู่ครอบครัวทรู มาถ่ายทอดจุดยืนแบรนด์ทรูและดีแทคในการส่งมอบสินค้าและบริการที่เข้าใจในความต้องการอย่างแท้จริง เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ซึ่งได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูง
ชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผสานศักยภาพระหว่างทรูและดีแทคยิ่งส่งเสริมให้เรามีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีการเร่งนำเทคโนโลยี AI หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติมาใช้ในหลายๆ ส่วนงานที่สำคัญ เช่น งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานปฏิบัติการโครงข่าย และในฟังก์ชันทางธุรกิจอื่นๆ
โดยเฉพาะที่สำคัญสุดคืองานดูแลให้บริการลูกค้า เราจะเร่งสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจแบบไร้รอยต่อในทุกช่องทางดิจิทัลโดยเริ่มจากร้านค้าที่ให้บริการแบบไร้กระดาษ การนำหุ่นยนต์มาใช้ในคอลเซ็นเตอร์เพื่อตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วทันที
รวมทั้งมีบริการแบบรีโมตเซอร์วิสแก้ปัญหาได้ทันทีโดยไม่ต้องรอช่างเข้าไปให้บริการที่บ้าน ตลอดจนการยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันทั้งทรูและดีแทค อีกทั้ง AI และเครื่องมือวิเคราะห์ของเราจะช่วยคัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้ามากกว่า 50 ล้านราย เพื่อเพิ่มความประทับใจในบริการของเราได้ทุกที่ทุกเวลา
อีกทั้งจากผลวิจัยที่ทรูร่วมกับ Market Buzz บริษัทวิจัยและการตลาดผ่านโมบายล์ระดับโลกสำรวจกลุ่มลูกค้ามือถือทั่วประเทศ ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ครอบคลุมทุกช่วงวัยตั้งแต่อายุ 15 -55 ปีพบว่า หลังจากรวมกันลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์ทรูในด้านบวก มีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Young Gen รู้สึกดีมาก มั่นใจว่าอนาคตจะมีสินค้าที่ดีและโปรโมชั่นที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โดยผลจากการสำรวจ ภาพรวมการชื่นชอบ (Overall Liking) อยู่ในเกณฑ์ดีมากสูงถึง 85% ขณะที่รู้สึกเชื่อมั่นและไว้ใจหลังการควบรวม เพิ่มสูงขึ้น 69% (เหมือนเดิม 28% น้อยลง3%) และความรู้สึกที่อยากสนับสนุน ซื้อสินค้าทั้ง 2 แบรนด์เป็น 79% (Purchasing Intention)
โดยมีเหตุผลที่จะซื้อเนื่องจาก สัญญาณที่จะดีขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น และภาพลักษณ์ของการรวมสองธุรกิจชั้นนำยิ่งจะสร้างสิ่งที่ดียิ่งกว่า
ฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาดบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า
หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของทีมการตลาดคือการเร่งสร้างการรับรู้สิ่งที่ดียิ่งกว่าของทรูใน 5 แกน ทั้ง เครือข่าย แพ็กเกจความบันเทิง สิทธิพิเศษและคุณภาพบริการที่ล้วนดียิ่งขึ้นภายหลังการรวมธุรกิจ อันจะเป็น กลยุทธ์หลักในการรุกตลาดชูความโดดเด่นของการรวมกันของสิ่งที่ดีที่สุด
เพื่อสร้างสิ่งที่ดียิ่งกว่า และคุ้มค่ากว่าให้ลูกค้าของเรา ภายใต้แนวคิด Better Together จึงเป็นที่มาของการสื่อสารด้วยการเลือกพรีเซ็นเตอร์ นาย และใบเฟิร์น ซึ่งเป็นคู่ที่น่ารัก ลงตัว สามารถสร้างพลังงานเชิงบวก มีเสน่ห์ เข้าถึงได้ และมีความเป็นตัวตนที่แท้จริง ตรงกับบุคลิกภาพของแบรนด์ทรู
ซึ่งถ่ายทอดในรูปแบบซีรีส์ 5 EP. แนวมัลติเวิร์ส ให้ทั้งคู่พบกันในเวิร์ส หรือมิติต่างๆ ร่วมกับการโปรโมตสินค้าบริการ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคู่จะนำขบวนกิจกรรมโรดโชว์ Better Together Festival ที่ทรูตั้งใจจะนำมหัศจรรย์ความสุขของการรวมทรู ดีแทค พร้อมกับสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทรูและดีแทค ทุกภาคทั่วประเทศไทยรวมถึงข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดของแพ็กเกจสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยขจัดข้อจำกัดในการเข้าถึงวิถีดิจิทัลของคนไทยทั่วประเทศ