#ไอติมวัดอรุณ กระแส Soft Power สุดฮอต กับประเด็นที่น่าสนใจบนโซเชียล
23 Jun 2023

เกิดเป็นกระแสสุดฮอตสู้กับอากาศที่ร้อนแรงของเมืองไทยกับ #ไอติมวัดอรุณ โดยจุดเริ่มต้นมาจากผู้ใช้ Facebook ที่ใช้ชื่อว่า Vipavee Kittitien ได้มีการโพสต์ภาพการถือไอศกรีม 2 รสชาติเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีลวดลายแบบไทยดูสวยงามคู่กับพระปรางค์ของวัดอรุณราชวราราม ด้วยความสวยงามของตัวไอศกรีมและสีสันที่ดูน่ารับประทาน ทำให้มีผู้คนบนโซเชียลมีเดียให้ความสนใจเป็นจำนวนมากในชั่วข้ามคืน ส่งผลให้ไอศกรีมดังกล่าวขายหมดภายในไม่กี่วัน

โดยไอศกรีมดังกล่าวมาจากแบรนด์ Pop Icon โดยมีเจ้าของคือคุณน้ำตาล ศิริญญา ซึ่งมีความตั้งใจที่อยากจะยกระดับของที่ระลึกของประเทศไทยให้มีความน่าสนใจมากขึ้น หลังจากผ่านการคิดและทดลองหลายครั้ง ในที่สุดจึงได้ออกมาเป็นไอศกรีมซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายกระเบื้องของตัวพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามนั่นเอง นอกจากความสวยงามน่ากินของไอศกรีมแล้ว อยากรู้กันไหมว่าผู้คนบนโซเชียลมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรกันอีกบ้าง?

จากการเก็บรวบรวมข้อมูลบนโซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE ของไวซ์ไซท์ที่มีการพูดถึง “ไอศกรีมวัดอรุณ” ตั้งแต่วันที่ 1 – 20 มิถุนายน 2566 มากกว่า 500 ข้อความ และได้รับเอ็นเกจเมนต์มากกว่า 500,000 เอ็นเกจเมนต์ จะเห็นว่าผ่านไปเพียงไม่กี่วันแต่ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และเมื่อดูประเด็นที่คนบนโซเชียลพูดถึง พบประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

 

1.    ปลุกกระแสท่องเที่ยววัดอรุณราชวราราม

เมื่อรูปภาพไอศกรีมวัดอรุณได้ถูกเผยแพร่ออกไป โลกโซเชียลมีเดียก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อตัวสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยส่วนมากคือความคิดเห็นเชิงบวกที่ชื่นชมความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ของไอศกรีม รวมไปถึงเกิดการชักชวนผู้คนรอบตัวให้ไปเที่ยวที่วัดอรุณราชวรารามเพื่อซื้อไอศกรีมนี้ เพราะมีขายที่ Arun Cafe ในวัดอรุณราชวรารามเท่านั้น และเมื่อดูตรวจดูฟีเจอร์ Word Clouds จะเห็นว่า คีย์เวิร์ด “วัดอรุณ” และ “พระปรางค์” ได้รับการพูดถึงอย่างล้นหลาม

2.    รสชาติสุดเข้มข้น พร้อมลวดลายกระเบื้องอันซับซ้อน

หลังกระแสที่เกิดขึ้น ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งไปตามรอยไอศกรีมและโพสต์ถึงรสชาไทยว่ามีความเข้มข้น อร่อย การันตีจากตนเองที่เป็นสาวกชาไทยตัวยง โพสต์ดังกล่าวกลายมาเป็นอีกหนึ่งไวรัลดึงดูดสาวกชาไทยคนอื่นๆ และเราพบว่ามีผู้ที่ชื่นชอบชาไทยไม่น้อย โดยนอกจากรสชาติแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน คือ ลวดลายกระเบื้อง ที่ออกแบบมาอย่างปราณีตและเป็นจุดขายของแบรนด์ จนทำให้ผู้คนบนโลกโซเชียลรู้สึกตื่นตาตื่นใจและมีการถกเถียงถึงกรรมวิธีในการผลิตว่าทำอย่างไรจึงได้ลวดลายที่สวยงามวิจิตรแบบนี้

 

3.    ราคากับมูลค่างานฝีมือ

ราคาสินค้าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันบนโลกโซเชียล โดยไอศกรีมหนึ่งแท่งถูกขายในราคา 89 บาท ซึ่งก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นว่าราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไอศกรีมที่วางขายทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนพูดว่า ราคาดังกล่าวถือว่าไม่แพงเลยสำหรับค่างานฝีมือและศิลปะ รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรถูกส่งเสริม

 

4.    ไม่ได้ฮอตแค่ในไทย แต่ไปไกลถึงญี่ปุ่น

ไอศกรีมวัดอรุณไม่ได้มีกระแสแค่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังได้รับความสนใจจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยจุดกำเนิดมาจากผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์เกี่ยวกับไอศกรีมวัดอรุณเป็นภาษาญี่ปุ่น ในโพสต์ดังกล่าว มีชาวญี่ปุ่นมาร่วมชื่นชมความสวยงามเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีคอมเมนต์ว่าอยากมาท่องเที่ยวที่วัดอรุณราชวรารามเพราะไอศกรีมดังกล่าวอีกด้วย

5.    ผลักดัน Soft Power จากโซเชียลสู่โซเชียล

จากความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การพลิกแพลงสินค้าในชีวิตประจำวันให้มีความน่าสนใจจนกลายเป็นกระแสชื่นชมอย่างท่วมท้น มีการต่อยอดประเด็นพูดคุยไปถึงเรื่องการผลักดัน Soft Power ด้วยของที่ระลึกในการท่องเที่ยวประเทศไทยให้มีความสวยงามและสร้างสรรค์ในทุกๆ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไปอีกขั้น

โดยได้มีการยกตัวอย่างความสำเร็จของเทรนด์ “เช็กอิน” สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีน ด้วย “ไอศกรีมแลนด์มาร์ก”  ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการทำไอศกรีมสามมิติลาย “หน้ากากสัมฤทธิ์” ณ พิพิธภัณฑ์ซานซิง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างล้นหลาม ภายหลังจึงได้มีการทำไอศกรีมสามมิติรูปแบบดังกล่าวออกมาขายในทุกสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมกะทิอัญชันที่วัดสีน้ำเงิน จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากความโดดเด่นของสีไอศกรีมที่คล้ายคลึงกับสีของวัด ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมซื้อไปถ่ายรูป ส่งผลให้วัดได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย

เรียกได้ว่าเป็นกระแสของกินที่มาแรงจริงๆ สำหรับ #ไอติมวัดอรุณ โดยนอกจากข้อมูลของไอศกรีมและแบรนด์ที่น่าสนใจแล้ว การพูดคุยกันของผู้คนบนโลกโซเชียลก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

 


วิเคราะห์โดย: ฉัตรธิดา บุญลอย

[อ่าน 1,354]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โบรกเกอร์ Exness ดีไหม ? อยากเทรดแบบมั่นใจต้องรู้อะไรบ้าง
ต้องรู้อะไรก่อนทำประกันออมทรัพย์ -ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ?
กรุงไทยชี้เทรนด์ Biodiversity มาแรง ประเมินกระทบมูลค่าส่งออกเกษตรและอาหารกว่า 6 หมื่นลบ.
5 แนวทางการหางานอุตสาหกรรมให้ได้งานโดนใจ
3 ข้อควรรู้ ไม่พกบัตรเครดิต ก็จ่ายได้ครบ จบในมือถือ
เคล็ด(ไม่)ลับกับ 5 วิธีวางแผนปรับปรุงและตกแต่งบ้านแบบมือโปร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved