อย่ามองข้าม Metaverse ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการใช้โอกาสจากเทรนด์นี้ได้จริง
07 Aug 2023

 

แนวคิดของ Metaverse ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Metaverse ก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวและการบริการ ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอที่เป็นไปได้ในการใช้ Metaverse ในอุตสาหกรรมนี้

 

  • ทัวร์และประสบการณ์เสมือนจริง

สร้างแบบจำลองเสมือนจริงของสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ท และสถานที่ท่องเที่ยวในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ใช้สามารถสำรวจสภาพแวดล้อมเสมือนจริงเหล่านี้และสัมผัสได้จากความสะดวกสบายในบ้านของตนเอง สิ่งนี้ช่วยให้ผู้เดินทางที่มีศักยภาพได้รับตัวอย่างจริงของจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะจอง นับว่ามีส่วนสำคัญในกระบวนการตัดสินใจเป็นอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่พักหรือสถานที่ท่องเที่ยวไม่ตรงปก

ขณะที่ผู้ประกอบการบางแห่งอาจอนุญาตให้แขกของพวกเขาเข้าถึงพื้นที่เสมือนจริง เพื่อจัดงานฉลองวันเกิดเสมือนจริง ขณะที่ร้านอาหารที่ทันสมัยสามารถจัดหาเครื่องมือให้ลูกค้าได้สำรวจเมนูอย่างเต็มที่ก่อนทำการจอง รวมถึงตัวเลือกในการดูวิธีการเตรียมอาหารหรือตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในร้าน ส่วนร้านอาหารแบบซื้อกลับสามารถอนุญาตให้ผู้ใช้สั่งอาหารในร้านอาหารเสมือนจริงและโต้ตอบกับพนักงานร้านได้

 

  • ตัวแทนการท่องเที่ยวเสมือนจริง

จัดตั้งตัวแทนการท่องเที่ยวเสมือนจริงภายใน Metaverse ซึ่งผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับตัวแทนการท่องเที่ยวเสมือนจริงและสำรวจแพ็คเกจการเดินทางต่างๆ ผู้ใช้สามารถเรียกดูจุดหมายปลายทาง โรงแรม กิจกรรม และจองการเดินทางทั้งหมดได้ภายใน Metaverse ตัวแทนท่องเที่ยวเสมือนจริงสามารถให้คำแนะนำส่วนบุคคลตามความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้

 

  • กิจกรรมและการประชุมเสมือนจริง

จัดกิจกรรมเสมือนจริง การประชุม และงานแสดงสินค้าภายใน Metaverse ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมและมีส่วนร่วมโดยไม่จำเป็นต้องเดินทาง ผู้เข้าร่วมสามารถมีส่วนร่วมกับบูธเสมือน สร้างเครือข่ายกับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ตลอดจนเข้าร่วมเซสชันและการนำเสนอเสมือนจริงต่างๆ

 

 

  • ประสบการณ์ Virtual Reality (VR)

ใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือนเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำภายใน Metaverse ตัวอย่างเช่น โรงแรมหรือรีสอร์ตสามารถสร้างประสบการณ์ความเป็นจริงเสมือนที่ช่วยให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นแขกสามารถสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกในลักษณะที่สมจริงและโต้ตอบได้ โดยข้อมูลจาก RendezVerse แพลตฟอร์ม Metaverse สำหรับโรงแรมและรีสอร์ตระบุว่า จะมีการใช้จ่ายของผู้บริโภคเกี่ยวกับ VR/ AR สูงถึง 72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2567 และ 82% ของบริษัทต่างๆ ที่ใช้ VR/R ระบุว่าได้รับผลประโยชน์เกินความคาดหมาย 53% มีบัญชีแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์ 53% ของการใช้เทคโนโลยี VR ทั้งหมด

 

  • ตลาดเสมือนจริง

พัฒนาตลาดเสมือนจริงภายใน Metaverse ที่ผู้ใช้สามารถซื้อและขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น อุปกรณ์เสริมการเดินทาง งานฝีมือในท้องถิ่น หรือแม้แต่ของสะสมดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครที่เกี่ยวข้องกับจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ช่วยสร้างกระแสรายได้ใหม่ให้กับช่างฝีมือและผู้ประกอบการในท้องถิ่น

 

  • การบริการลูกค้าที่ได้รับการปรับปรุง

ใช้อวาตาร์เสมือนจริงและแชทบอทภายใน Metaverse เพื่อให้การบริการลูกค้าและการสนับสนุนแก่นักเดินทาง อวตารสามารถตอบคำถามที่พบบ่อย ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือผู้ใช้ในกระบวนการวางแผนการเดินทาง

 

  • การนำทางด้วย Augmented Reality (AR)

รวมความเป็นจริงเสริมเข้ากับ Metaverse เพื่อนำเสนอการนำทางตามเวลาจริงและข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถใช้อุปกรณ์หรือสมาร์ทโฟนที่เปิดใช้งาน AR เพื่อรับเส้นทาง เรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง และเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางโดยรวม

 

 

Sanjay Ghare ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง VervoTech ซึ่งให้บริการนวัตกรรมการจัดการธุรกิจโรงแรมชี้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการจะได้รับประโยชน์จาก Metaverse อย่างแน่นอน

เพราะหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญในธุรกิจนี้คือการบรรลุความคาดหวังของแขกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่ขั้นตอนการจองที่ราบรื่นและประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร ไปจนถึงข้อเสนอแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว

พวกเขามีความคาดหวังสูงโดยเฉพาะในแง่ของประสบการณ์การเข้าพักที่ดีที่สุด เนื่องจากนักเดินทางจำนวนมากในปัจจุบันมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีต่างๆ เป็นอย่างดี  Metaverse จึงสามารถเปลี่ยนอุตสาหกรรมการบริการและกำหนดประสบการณ์ใหม่ของแขกได้

 

"ประสบการณ์ของผู้เข้าพักจะเริ่มต้นจากการสำรวจข้อมูลที่พัก และหากมีการนำ Metaverse มาใช้ ก็อาจทำให้กระบวนการจองโรงแรมก้าวไปอีกขั้น ด้วย Metaverse

ไม่เพียงแต่ลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการจองห้องพัก เช่น ขนาดห้อง ราคา ฯลฯ แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับทัวร์โรงแรม 3 มิติเสมือนจริง

นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นอวตารและเดินผ่านสถานที่ให้บริการของโรงแรมหรือรีสอร์ตก่อนเช็คอิน ขณะที่คำแนะนำแบบ 3 มิติ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์โดยตรงของห้องพัก การตกแต่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโรงแรมที่ภาพนิ่งไม่สามารถนำเสนอได้

ทัวร์โรงแรม 3 มิติสามารถช่วยให้แขกรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจเลือกโรงแรม และเพิ่มอัตราการจองโดยตรงและแปลงการเข้าชมเป็นรายได้ให้กับโรงแรม"

 

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า Metaverse ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และศักยภาพเต็มรูปแบบของการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการยังไม่เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าและ Metaverse พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ โอกาสที่จะมีนวัตกรรมมากขึ้นและการนำไปใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

 

ทั้งนี้ McKinsey คาดการณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใน Metavese ว่าจะมีมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573

ขณะที่ KPMG วิเคราะห์ว่า เทคโนโลยีนี้จะปฏิวัติการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก เพราะลูกค้าในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการต้องการประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สร้างสรรค์ และน่าดึงดูดใจ ซึ่งเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่สามารถช่วยได้

เทคโนโลยีระดับถัดไป เช่น Extended Reality (XR) และ Metaverse กำลังช่วยให้แบรนด์สร้างความแตกต่างและมอบประสบการณ์ที่ผู้บริโภคแสวงหา การวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ใน 3 ของสหรัฐฯ มีความกระตือรือร้นที่จะเริ่มต้นการเดินทางด้วยประสบการณ์การเดินทางแบบความจริงเสมือนหรือความเป็นจริงเสริมเป็นเวลาหลายวัน

 

เทคโนโลยีระดับถัดไปเหล่านี้สามารถสร้างประสบการณ์เชิงลึก ในขณะที่ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างจุดสัมผัสที่มีมูลค่าสูงซึ่งนำไปสู่รายได้ที่แท้จริง

 

 

กรณีศึกษาที่น่าสนใจ เช่น Millennium Hotels กลายเป็นกลุ่มโรงแรมกลุ่มแรกที่ดำเนินการโรงแรมภายใน Metaverse เมื่อเปิดตัว M Social ภายในแพลตฟอร์ม Decentraland  (แพลตฟอร์มเสมือนจริงแบบกระจายอำนาจที่ขับเคลื่อนโดยบล็อกเชน Ethereum ภายในแพลตฟอร์มนี้ผู้ใช้สามารถสร้าง สัมผัส และสร้างรายได้จากเนื้อหาและแอปพลิเคชันของตน) เพื่อเป็นสถานที่ให้บริการเสมือนจริงซึ่งจำลองมาจากโรงแรม M Social ที่มีอยู่จริงทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสำรวจสถานที่ให้บริการและโต้ตอบกับคุณสมบัติบางอย่างได้

Millennium Hotels ได้กำหนดแผนระยะยาวเพื่อสร้างรายได้จากการสำรวจการบริการแบบ Metaverse แนวคิดนี้รวมถึงการขายพื้นที่ภายในล็อบบี้ของโรงแรมให้กับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งสามารถใช้พื้นที่นี้เพื่อช่วยในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือความพยายามทางการตลาดอื่นๆ นอกจากนี้ ผู้ใช้ Decentraland สามารถเช่าหรือซื้อพื้นที่ภายในโรงแรมเพื่อวัตถุประสงค์ของตนเองได้เช่นกัน

 

 

ด้าน Accor เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสกำลังก้าวเข้าสู่ Metaverse เช่นกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ลองนึกภาพว่าเรากำลังดำดิ่งอยู่ในห้องพักหรือห้องสวีทในโรงแรมก่อนที่จะจอง หรือลองใช้พื้นที่จัดประชุมสำหรับงานธุรกิจขนาดใหญ่ครั้งต่อไป โดยไม่ต้องออกจากบ้านหรือที่ทำงาน Metaverse ได้เปิดประสบการณ์  ‘ลองก่อนซื้อ’ ให้กับผู้ใช้ที่จะกลายเป็นลูกค้าของโรงแรมในอนาคต

Accor ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับมิติดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของแขกในระหว่างการเดินทางด้วย เช่น หากเข้าพักที่ คุณพักที่ MGallery (แบรนด์โรงแรมระดับพรีเมียมในเครือ Accor) ซึ่งอยู่ถัดจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองปอมเปอี ประเทศอิตาลี Metaverse จะเผยให้เห็นว่าเมืองนี้เป็นอย่างไรก่อนเกิดวิกฤติการณ์ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิด ถล่มเมืองปอมเปอีจนจมอยู่ใต้เถ้าถ่านลาวา คร่าชีวิตผู้คนกว่า 15,000 ราย และถูกฝังกลบอยู่ใต้ผืนพิภพนานกว่า 2,000 ปี

 

 

กรณีศึกษาอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก Metaverse ในอุตสาหกรรมนี้ คือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีใช้ ZEPETO World แอปฯ บนสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ใช้สร้างอวตารส่วนตัวและท่องเที่ยวทั่วเกาหลีใต้เพื่อตอบสนองต่อข้อจำกัดการเดินทางอันเกิดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด

ตัวอย่างเช่น การเที่ยวชมสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮันประกอบด้วยแผนที่เชิงโต้ตอบที่มีรายละเอียดสูงของสวนแม่น้ำฮัน ที่มีผู้เข้าชมเกือบ 257,000 คนต่อวัน ผู้ใช้ยังสามารถสื่อสารระหว่างกัน ซื้อของ และชมการแสดง ปัจจุบัน ZEPETO World มีสมาชิกประมาณ 190 ล้านคนทั่วโลก

 

 

ด้าน BCB Group ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารคริปโตชั้นนำของยุโรปที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ได้สร้างเมือง Metaverse ซึ่งรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก เช่น กำแพงเมืองจีน และเทพีเสรีภาพ

จากข้อมูลของบริษัทฯ ค่าใช้จ่ายรวมของเที่ยวบินจากยุโรป การต่อเครื่อง และค่าเข้าชมสถานที่สำคัญเหล่านี้ ทั้งหมดจะอยู่ที่ 7,600 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคน ในขณะที่การเดินทางเสมือนจริงจะมีราคาเพียง 2 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น

 

 

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ Royal Commission for AlUla (RCU) ของซาอุดีอาระเบียประกาศว่าเมืองโบราณแห่ง Hegra ที่ซากอารยธรรมส่วนใหญ่มาจากสมัยราชอาณาจักรแนบาเทีย (คริสต์ศตวรรษที่ 1) และมีบางส่วนมาจากยุคของลิฮยานและจักรวรรดิโรมันอีกด้วย ได้เข้าสู่ Metaverse เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งสอดคล้องกับโครงการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ถือเป็นมรดกโลกแห่งแรกของยูเนสโกที่รวมอยู่ใน Metaverse ทำให้นักท่องเที่ยวดิจิทัลสามารถสำรวจสภาพแวดล้อมได้เช่นเดียวกับสุสาน Hegra's of Lihyan son of Kuza

 

 

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจจาก McDonald's ที่พยายามสร้างประสบการณ์ร้านอาหารเสมือนจริง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าไม่สามารถทำได้ในโลกจริง ด้วยการนำเสนอคูปองหรือข้อเสนอพิเศษที่มีให้เฉพาะใน Metaverse เท่านั้น

ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา McDonald's ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับร้านอาหารเสมือนจริงที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า McDonald's จะจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์สำหรับให้อวตารสวมใส่ และเครื่องตกแต่งเสมือนจริงสำหรับบ้านเสมือนจริงของอวตาร ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์ QSR ระดับโลกรายนี้ ยังคาดหวังให้ลูกค้าพบปะและสั่งอาหารจริงถึงบ้านด้วย

ขณะที่ร้านอาหารอื่นๆ ก็ได้สร้างสถานที่ของตนในโลกเสมือนจริงนี้เช่นกั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่บรรดาร้านอาหารที่ยังไม่ได้เกาะเกี่ยวไปกับเทรนด์นี้ อาจจะต้องถึงเวลาสร้างตัวตนใน Metaverse ได้แล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องนำองค์ประกอบที่สนุกสนานจากโลกดิจิทัลดังกล่าวมาสู่ความเป็นจริงด้วย

 

 

ในภาพที่ใหญ่ขึ้นมา เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตั้งเป้าหมายรายได้จาก Metaverse 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากโครงการด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

เซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดของจีนและเมืองหลวงทางการเงินของประเทศ ประกาศแผนสร้างโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ต่อปี 5 หมื่นล้านหยวน (6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสิ้นปี 2568

 

เซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรประมาณ 29 ล้านคน ตั้งเป้าสร้างสรรค์โครงการ Metaverse ด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว 30 โครงการภายในสิ้นปี 2568 เพื่อมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เรียกว่า "การท่องเที่ยวอัจฉริยะ" เช่นเดียวกับการแสดงเสมือนจริง งานศิลปะดิจิทัล และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามรายงานของวางแผนโดยการบริหารวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลของเมือง

โปรเจกต์นี้รวมเอาเทคโนโลยี Metaverse เข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถโต้ตอบกับไซต์ผ่านความเป็นจริงเสริม มีอวาตารเป็นไกด์นำเที่ยว และรับบริการจาก Metaverse อื่นๆ

นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ยังจะส่งเสริมการพัฒนางานศิลปะดิจิทัลบนบล็อกเชน สำรวจการบูรณาการงานศิลปะดิจิทัลในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น วิดีโอเกม และสนับสนุนธุรกิจบันเทิงต่างมิติ รวมถึงสิ่งที่เรียกว่าไอดอลเสมือนจริง

 

เซี่ยงไฮ้ระบุให้ Metaverse เป็น 1 ใน 3 ของ  ‘แนวทางใหม่’ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมด้วยเทอร์มินัลอัจฉริยะและอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เมืองชั้นนำระดับโลกนี้วางแผนที่จะสร้างอุตสาหกรรม Metaverse โดยมีรายได้ต่อปี 3.5 แสนล้านหยวน (52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสิ้นปี 2568 และมีกองทุนอุตสาหกรรม Metaverse 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนแนวทางแห่งอนาคตในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง

นอกเหนือจากเซี่ยงไฮ้แล้ว เมืองและมณฑลหลายแห่งของจีนได้ออกแผนหรือนโยบายในปีนี้สำหรับการพัฒนาที่อาศัย Metaverse เป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งรวมถึงเมืองหนานจิง เจิ้งโจว และหางโจว

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายที่สำคัญของ Metaverse ในอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวนั่นคือ ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเกี่ยวกับ Metaverse

แม้ว่าบริษัทและองค์กรต่างๆ จะปฏิวัติระบบรักษาความปลอดภัยด้านไอทีของตนอยู่เสมอ แต่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลก็เป็นปัญหาที่ผู้ใช้ Metaverse กังวลมาอย่างยาวนาน ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อาจถูกคุกคามหากแฮ็กเกอร์เข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้

 

เมื่อเราไม่อ่านปฏิเสธหรือต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีได้ หนทางที่เหมาะควรคือการหาโอกาสที่จะเข้าร่วม และหยิบยกบางแง่มุมที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองมาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความโดดเด่นให้ได้

 


บทความจากนิตยสาร MarketPlus Magazine Issue 158 June-July 2023

 
[อ่าน 601]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผยลักษณะสำคัญของ Savvy Explorers ในเอเชียแปซิฟิก
อโกด้าเผยไทยติดอันดับ 2 จุดหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงโกลเดนวีค
เปิดโพล!! คนไทยคิดอย่างไรกับสงกรานต์ 21 วัน
หลุยส์คาเฟ่ ปลุกกระแสแบรนด์เนมตื่น เอนเกจพุ่ง 950 % หลังเปิดตัวเพียงครึ่งเดือน
สัญญาณดีๆ ของปี 2023 มีส่งต่อปี 2024 ไหม
TikTok ร่วมพัฒนาอนาคตแห่งความบันเทิงและการค้าในปี 2567
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved