iPhone 15 น่าสนใจไม่น้อย แถมยังหันมาใช้ ‘พอร์ต USB-C’ ลูกค้าก็ว้าวุ่นเลยทีนี้! 
19 Sep 2023

เผยโฉมเรียบร้อยแล้วสำหรับ 'iPhone 15’ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งแทบจะทั้งหมดล้วนตรงกับข่าวลือที่หลุดออกมาเป็นละลอก โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเปิดตัว

หากถามว่า การเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองที่สุดคืออะไร คำตอบหนีไม่พ้นเรื่องการบอกลา Lightning พอร์ตที่ใช้มานับ 10 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ iPhone 5 มาสู่ 'พอร์ต USB-C’ ซึ่งคู่แข่งล้วนปรับมาใช้แล้วทั้งนั้น

 

 

enlightened ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยน

การเปลี่ยนมาใช้ พอร์ต USB-C ไม่ได้มาจากการที่ Apple ต้องการนำเทคโนโลยีใหม่มาสู่ผู้บริโภคแต่อย่างใด หากเบื้องหลังมาจากการถูกบังคับกลายๆ จากกฎหมายที่ประกาศใช้ในยุโรป

การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นภายในไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่สหภาพยุโรปลงมติอนุมัติกฎหมายกำหนดให้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องดิจิทัล ลำโพงพกพา และอุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ ต้องรองรับการชาร์จ USB-C ภายในปี 2567

กฎหมายฉบับแรกนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อลดจำนวนเครื่องชาร์จและสายเคเบิลที่ผู้บริโภคต้องเผชิญเมื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่ และเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจับคู่อุปกรณ์และเครื่องชาร์จได้แม้ว่าจะผลิตโดยผู้ผลิตหลายรายก็ตาม

 

“เหตุใดเราจึงควรใช้สาย Lightning ต่อไป? ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวคือ Apple จะยังคงขายโซลูชั่นการชาร์จที่เป็นกรรมสิทธิ์ต่อไป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสำหรับผู้บริโภคของเรา”

Alex Agius Saliba หนึ่งในสมาชิกรัฐสภายุโรปที่เป็นผู้นำร่างกฎหมายนี้ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal

 

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้ว Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple แย้งว่านี่จะสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เนื่องจากผู้คนกว่าพันล้านคนจะต้องกำจัดสายเคเบิล Lightning

“เราคิดว่าแนวทางนี้จะดีกว่าด้านสิ่งแวดล้อมและดีกว่าสำหรับลูกค้าของเรา ซึ่งไม่ควรถูกกำหนดจากรัฐบาล” เขากล่าว

 

 

enlightened 4 รุ่นใหม่มาในราคาเท่าเดิม

iPhone 15 ยังคงมาพร้อม 4 รุ่นเหมือนเดิม เริ่มต้นด้วย 2 รุ่นเล็ก ได้แก่ iPhone 15 และ 15 Plus มีจอภาพให้เลือกทั้งขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว โดยมาพร้อมพร้อม Dynamic Island ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน iPhone 14 และแต่เดิมมีให้ใช้ในรุ่น Pro เท่านั้น

นอกจากนี้ยังใช้ชิป A16 Bionic ซึ่งเป็นชิปที่ถูกใช้ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มาก่อน แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ กล้อง 24MP ยังมีการซูมคุณภาพออปติคัลได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ 0.5 เท่า, 1 เท่า และ 2 เท่า ซึ่ง Apple บอกว่านี่นับเป็นครั้งแรกในระบบกล้องคู่ของ iPhone

 

 

ขณะที่รุ่นไฮเอนด์อย่าง iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวแว่วๆ ว่าชื่อรุ่น Pro Max จะไม่ได้ไปต่อ และจะถูกชื่อ Ultra มาแทนที่ แต่สุดท้ายชื่อนี้ยังถูกใช้ต่อไป

หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ iPhone 15 รุ่น Pro การใช้ไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศมาทำเป็นตัวเครื่อง ซึ่ง Apple บอกว่านี่เป็นครั้งแรกของ iPhone

 

 

ภายในใช้ชิป A17 Pro ซึ่งเป็น ชิป 3 นาโนเมตรตัวแรกของอุตสาหกรรม Apple กล่าวคือ โดยทั่วไปยิ่งขนาดนาโนเมตรซึ่งวัดระยะห่างระหว่างทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลง ชิปก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ชิปขนาด 3 นาโนเมตรจะผลิตโดย Taiwan Semiconductor Manufacturing ซึ่ง Nikkei Asia รายงานก่อนหน้านี้ Apple เคลมว่า ชิปใหม่นี้ทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 10% ส่วน GPU ทำงานเร็วขึ้นสูงสุด 20%

ด้าน USB-C ให้เป็น USB 3 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 10 กิกะบิตต่อวินาที หรือเร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมาถึง 20 เท่า ส่วนกล้อง Apple บอกว่า มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันจนเทียบเท่าเลนส์ระดับโปร 7 ตัว

 

iPhone 15 และ 15 Plus มีให้เลือกสีสีชมพู สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีดำ ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ 37,900 บาท ตามลำดับ

ส่วน  iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีให้เลือก 4 สีคือสีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติรุ่น Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท ส่วน Pro Max มีราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท ที่ราคาสูงขึ้นเพราะมีการปรับความจุให้เริ่มต้นที่ 256GB

เรื่องนี้ถือว่าผิดคาดเพราะนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Apple อาจจะขึ้นราคาอีกราว 3,000 - 6,000 บาท เพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโต

 

 

enlightened เพียงพอที่จะรักษายอดขาย?

กระนั้นถึงจะไม่ได้มาพร้อมกับนวัตกรรมที่หวือหวามากนัก แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า ความก้าวหน้าเหล่านี้อาจจะเพียงพอที่จะรักษายอดขายของ Apple ได้ แม้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนหดตัวลงก็ตาม

เรื่องนี้สะท้อนได้จากการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกคาดว่าจะลดลง 6% ต่อปีเหลือ 1.15 พันล้านอุปกรณ์ภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นตัวเลขการจัดส่งสมาร์ทโฟนที่ต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ ตามรายงานของ Counterpoint Research อย่างไรก็ตาม Apple อยู่ในตำแหน่งที่อาจครองตำแหน่งสูงสุดในการจัดส่งสมาร์ทโฟนจาก Samsung

สิ่งที่น่าสนใจคือ Francisco Jeronimo รองประธานฝ่ายวิจัยตลาด IDC กล่าวว่า บริษัทประมาณการว่า 60% ของผู้ใช้ Apple iPhone มีโทรศัพท์ที่มีอายุสี่ปีขึ้นไป

 

“Apple กำลังจัดการกับผู้ใช้ iPhone จำนวน 600 ล้านคนที่จะต้องมีการอัปเกรด ณ จุดใดจุดหนึ่ง” Jeronimo กล่าว

ดังนั้นต้องลุ้นว่า รุ่นใหม่นี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าควักเงินออกจากระเป๋าได้หรือไม่

 

แต่ IDC ก็คาดว่า Apple จะขาย iPhone ใหม่ได้ 150 ล้านเครื่องในช่วง 12 เดือนแรก ซึ่งคล้ายกับรอบปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามแนวทางปฏิบัติในการดึงดูดผู้บริโภคให้ซื้อ iPhone รุ่น Pro ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 ส่งผลให้ยอดขายของ Apple เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2019 บริษัทได้เพิ่มรายได้ iPhone มากกว่า 44% แม้ว่าการจัดส่งจะเพิ่มขึ้นเพียง 15% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม Counterpoint Research กล่าว

iPhone ยังคงมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้โดยรวมของ Apple สำหรับไตรมาสที่รายงานล่าสุดของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 1 กรกฎาคม รายรับจาก iPhone ลดลง 2.4% เป็น 39.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผิดจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

 

enlightened รักษ์โลกมากขึ้น?

อีกสิ่งที่ถูกเน้นย้ำในหลายช่วงของงานวันที่ 12 กันยายน คือการพูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

Apple บอกว่า สายและตัวเรือนของ Apple Watch Series 9, Apple Watch Ultra 2 และ Apple Watch SE หลายแบบที่นำมาจับคู่กันถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Apple ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน

Apple เปิดตัว FineWoven ซึ่งเป็นผ้าไมโครทวิล ผลิตจากวัสดุที่รีไซเคิลจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วถึง 68% ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหนัง

โดย FineWoven เป็นผ้าที่ให้สัมผัสเหมือนหนังกลับและมีให้เลือกทั้งแบบ Magnetic Link และ Modern Buckle ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Apple จะไม่ใช้หนังในผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple อีกต่อไป รวมถึงสายนาฬิกาด้วย

สายแบบ Sport Loop ยอดนิยมได้รับการออกแบบใหม่โดยใช้เส้นด้ายรีไซเคิลถึง 82% สาย Apple Watch แบบ Sport Loop ใหม่ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอน

 

 

Apple บอกอีกว่า ได้ทำงานร่วมกับ Nike และ Hermès เพื่อสร้างคอลเลกชั่นสายนาฬิกาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

โดยสาย Nike Sport Band ประกอบด้วยยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์รีไซเคิลอย่างน้อย 32% ซึ่งรวมถึงเกล็ดเล็กๆ หลากสีสันที่ทำมาจากสายเหลือใช้เพื่อสร้างลวดลายที่ไม่มีรูปแบบตายตัว

จึงทำให้สายแต่ละเส้นนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร ในขณะที่สาย Nike Sport Loop ก็ผลิตด้วยกรรมวิธีการย้อมสีแบบ Space-dye โดยนำด้ายจากคอลเลกชั่นต่างๆ ก่อนหน้านี้กลับมาใช้ใหม่

 

เป็นส่วนหนึ่งของ Apple 2030 อันทะเยอทะยาน ที่จะทำให้ทุกผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ในช่วงปลายทศวรรษ รวมถึงซัพพลายเชนทั้งหมดทั่วโลกและตลอดช่วงอายุการใช้งานของทุกอุปกรณ์ที่ Apple สร้างขึ้นมา

[อ่าน 1,410]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรดบูล เอเนอร์จี้โซดา จัด Esports ทัวร์นาเมนต์ RoV พร้อมหนุนจัดเทศกาลกีฬากรุงเทพ และ Bangkok Esports 2024

TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67
Taiwan Excellence โชว์เคสนวัตกรรมสีเขียว ในมหกรรมสถาปนิก' 67
เอ็มจี เดินหน้าจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่ง NEW MG5 PRO สนับสนุนนิวเจนให้กล้าที่จะแตกต่าง
เผยความสำเร็จ “CHUANG ASIA THAILAND” ออริจินัลคอนเทนต์เรือธงจาก WeTV ประเทศไทย
เยาวชนทั่วเอเชียร่วมแข่งขันกอล์ฟก้าวแรกสู่เวทีโลก Mazda AJGA Thailand Junior Championship 2024
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved