อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบรนด์ฮิตาชิทั่วโลก (ภายนอกตลาดญี่ปุ่น) ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากแคมเปญโฆษณาดิจิทัลที่ร้อยละ 25 ตลอดระยะเวลา 6 เดือน
โดยจับมือกับ “Scope3” แพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เป็นผู้นำด้านการลดก๊าซเรือนกระจกในวงการสื่อและโฆษณา เพื่อส่งโปรเจ็คต์ทดลองหรือ Optimization Test Case ซึ่งจะใช้เวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ธันวาคม 2567 ใน 4 ตลาดหลักของอาร์เซลิก ฮิตาชิ ได้แก่ ประเทศไทย, เวียดนาม, ฮ่องกง และสิงคโปร์
Scope 3 ทำงานร่วมกับ H+ เอเจนซี่ของอาร์เซลิก ฮิตาชิ โดยใช้ดาต้าโมเดลเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่าง Green Media Products (GMP+) เพื่อวิเคราะห์และหลีกเลี่ยงตำแหน่งการจัดวางโฆษณาที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง บล็อค MFA (Made for Advertising) และตำแหน่งการจัดวางโฆษณา (ad placement) ที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยกระบวนการ optimization จะเกิดขึ้นหลังจากโปรเจ็คต์ดำเนินไปได้ครึ่งทาง เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลลัพธ์ของแคมเปญก่อนและหลังกระบวนการ optimization
เมลิส อาร์ดินซ์ (Melis Erdinç) หัวหน้าฝ่ายการตลาดดิจิทัล (Global Head of Digital Marketing) บริษัทอาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ กล่าวว่า การผสานความร่วมมือกับ Scope3 เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกิจกรรมโฆษณาดิจิทัล ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนขององค์กร
“เนื่องจากอาร์เซลิก บริษัทแม่ของเรา ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 องค์กรที่ยั่งยืนที่สุดในโลกแห่งปี 2023 (2023 Global 100 Most Sustainable Corporations in the World) โดย Corporate Knights องค์กรด้านการวิจัยในแคนาดา อาร์เซลิก ฮิตาชิจึงดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดยั่งยืน รวมถึงมุ่งเฟ้นหาแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 อยู่เสมอ ตอนที่ Scope3 ขยายกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่ 2023 เราจึงคว้าโอกาสนี้อย่างกระตือรือร้น
ความร่วมมือระหว่างอาร์เซลิก ฮิตาชิ และ Scope3 ครั้งนี้จะเป็นประตูบานแรกสู่การทำโฆษณาดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าที่ผ่านมา เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีที่จะตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการตลาดดิจิทัลที่ร้อยละ 25 ภายในสิ้นปี 2567 และเรารู้สึกภูมิใจที่ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมขององค์กร”
เบน พูลล์ (Ben Poole) ไดเรคเตอร์ เอเจนซี่ H+ กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นและยินดีที่จะได้ร่วมผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในตลาดผ่านความร่วมมือในครั้งนี้ เพราะสื่อโฆษณาที่ยั่งยืนหมายถึงสื่อโฆษณาที่คุณภาพดีขึ้นและมอบผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นพัฒนาแคมเปญลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับ Scope3, อาร์เซลิก ฮิตาชิ และอีกหลากหลายแบรนด์ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง”
จูน จัง (June Cheung) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น (Head of JAPAC) บริษัท Scope3 กล่าวว่า ความตั้งใจของ Scope3 คือการช่วยแบรนด์และเอเจนซี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยกระดับประสิทธิภาพสื่อโฆษณา ลดการปล่อยคาร์บอน และขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง
“เราจึงยินดีอย่างยิ่งที่อาร์เซลิก ฮิตาชิ ตัดสินใจลงมือลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการทำโฆษณาดิจิทัล เรามั่นใจว่าดาต้าของ Scope3 และ Green Media Products ที่พาร์ทเนอร์ของเราร่วมกันพัฒนาจะตอบโจทย์เป้าหมายด้านการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลลัพธ์ที่คาดหวังจากแคมเปญโฆษณาที่อาร์เซลิก ฮิตาชิคาดหวัง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเส้นทางการลดคาร์บอนของอาร์เซลิก ฮิตาชิจะเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ ในภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์แห่งอนาคต”
ทั้งนี้ Scope3 เป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ (Public Benefit Corporation) ก่อตั้งในออสเตรเลียในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในครึ่งหลังของปี 2566 มีภารกิจในการกำจัดคาร์บอนที่เกิดจากวงการสื่อและโฆษณา โดยอำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมโฆษณาสามารถมองเห็น ตรวจวัด และลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ด้วยดาต้าโมเดลที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Scope3 ด้วยแนวคิดแบบโอเพ่นซอร์ส (Open-source) เพื่อตรวจวัดโครงสร้างซับซ้อนและยึดโยงกันของวงการโฆษณา
ดาต้าโมเดลดังกล่าวเป็นแกนหลักของแพลต์ฟอร์มความร่วมเมื่อเพื่อความยั่งยืน และทุกโซลูชันเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนของ Scope3 ซึ่งรวมถึง Climate Shield และ Green Media Products (GMPs) โดยมีทีมงานนักวิจัย นักเทคโนโลยี และผู้บุกเบิกวงการโฆษณาดิจิทัลนานาชาติในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก ที่มุ่งแก้ปัญหาวิกฤติด้านภูมิอากาศ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุดของเจเนอเรชันปัจจุบัน