กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตหนองจอก ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ หนุนนโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นของกรุงเทพมหานคร สร้างพื้นที่สีเขียวเป็นกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง พัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งนันทนาการให้ประชาชนในพื้นที่
โดย ไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นประธานในกิจกรรม “KICK OFF ศูนย์การเรียนรู้ ป่าฉลาดพลาดไม่ได้” ร่วมกับ ณฤกษ์ มางเขียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ในกลุ่มของซีพีเอฟ พร้อมด้วย กอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ, คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครและซีพีเอฟ, ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 4, คณะครูและนักเรียน, สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ตลอดจนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลำผักชีและสุวินทวงศ์
ร่วมกันปลูกต้นไม้ บริเวณแปลงป่าสีสันพรรณไม้ดอก พื้นที่ข้างโรงเรียนบดินทรเดชาฯ 4 แขวงลำต้อยติ่ง สนับสนุนเป้าหมายกรุงเทพมหานคร ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น และร่วมฉลอง “วันความหลากหลายทางชีวภาพ” 22 พฤษภาคมของทุกปี
ไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคเอกชนและประชาชน ปลูกต้นไม้เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเมืองที่ดี ทั้งในพื้นที่ความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร พื้นที่สาธารณะ สถานประกอบการ บ้านเรือนประชาชน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นกำแพงต้นไม้กรองฝุ่นทั่วกรุงเทพมหานคร และยังเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน
“พื้นที่ทำกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่มีการใช้ประโยชน์ รวมทั้งหมด 16 ไร่ ซึ่งกรุงเทพมหานครและซีพีเอฟ มีแผนในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งสำหรับประชาชนใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นต่อไป ขอขอบคุณซีพีเอฟ ที่ร่วมมือกับเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร มาปลูกป่า เป็นการสร้างปอดให้กับคนกรุงเทพมหานคร และยังคืนประโยชน์กลับสู่สังคมด้วย”
ด้าน ณฤกษ์ มางเขียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ในกลุ่มของซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทางของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร มุ่งมั่นมีส่วนร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ สอดรับกับเป้าหมาย SDGs ข้อ 13 รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และข้อ 15 ปกป้อง ฟื้นฟูและสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
กฤษณ์ ศรีเคลือบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบดินทรเดชาฯ 4 กล่าวว่า ความร่วมมือในกิจกรรมปลูกต้นไม้นี้ จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับคนกรุงเทพฯ ช่วยลดโลกร้อน และบรรเทาปัญหาภาวะก๊าซเรือนกระจก อยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อสร้างอากาศที่ดี
เช่นเดียวกับ ลภาภัทร จ้ำเหล่ นักเรียนชั้นเดียวกัน เสริมว่ากิจกรรมนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบๆ โรงเรียนและแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่สำคัญพื้นที่ปลูกต้นไม้อยู่ใกล้โรงเรียน ทำให้พวกเรามีโอกาสที่จะมาช่วยดูแลให้ต้นไม้เจริญเติบโต
ในส่วนของซีพีเอฟ มีโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ปลูกป่าใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าชายเลน รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ อาทิ โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จังหวัดลพบุรี โดยต้นทางของกล้าไม้ที่นำมาปลูกในเขตหนองจอก จำนวน 35 ชนิด รวมกว่า 600 ต้น มาจากพื้นที่โครงการดังกล่าว
ด้วยการคัดเลือกชนิดพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ลุ่มต่ำของกรุงเทพฯ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ ดูแลให้แกร่งโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมชุมชนรักษาป่าและมีรายได้จากการเพาะพันธุ์กล้าไม้ นอกจากนี้ ยังเป็นการสานต่อกิจกรรมนำร่องเมื่อปี 2565 ที่ซีพีเอฟนำกล้าไม้มาแจกให้แก่คนในกรุงเทพฯ นำไปปลูกในพื้นที่อยู่อาศัย
ปัจจุบัน กิจการในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ (ข้อมูลจาก 8 ประเทศ) ของซีพีเอฟ ดำเนินการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ไปแล้วกว่า 6.85 ล้านต้น บนพื้นที่ 19,932 ไร่ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 4.8 หมื่นตันต่อปี